ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวสมาชิกน้องใหม่ด้วยครับ ดีใจที่ได้เข้ามาร่วม community ที่น่าอบอุ่นนี้ครับ
Integrated Amp: Krell KAV-400xi w/ Harmonic Tech Fantasy AC-10 power cord
Speakers: Magnepan MG 3.6/R on MyeSound stands, w/ HiFi Tuning fuses & tweeter attenuators by-passed
CD Player: C.E.C. TL51XZ w/ HiFi Tuning Fuse & Harmonic Tech Fantasy AC-10 power cord
Speaker Cables: Soundstring Tricormaxial bi-wire
Interconnects: Harmonic Tech Magic Link II balanced
Others: Wattgate 381 outlets; JPS Power AC+ cord w/ Oyaide P-046 plug & C-246 20A IEC; Shunyata Hydra 6 conditioner
Tweaks: XAV Audio EMX-11 electro magnetic exterminators & X-Filter; Vibrapod isolators & cones; Cable Elevators+
TV: Sony CRT KV-HR36 M61 wide-screen
Receiver: Yamaha RX-V657
HT Speakers: Magnepan MGCC3 center w/ HiFi Tuning fuse & by-passed tweeter attenuator; Magnepan MGMC1 surrounds; Velodyn SPL-1000 II sub
DVD: Denon DVD-1920
Other HT Gear: Soundstring center SC; Kimber 4VS surround SCs, Hero RCA ICs, & PK-10 Gold power cords; Stereovox XV2 digital IC; Nordost Optix component; Vibrapods; XAC EMX-11's
Room Size (LxWxH): 5.40 m. x 3.80 m. x 3.40 m.
สวัสดีครับ :)
ห้องสูงสะใจดีจังเลยครับ
ชุดอย่างนี้ไม่ใช่น้องใหม่แล้วครับ เรียนถามเป็นข้อๆ
1.เคยลองแอมป์ที่ใหญ่กว่านี้มาขับมันไหมครับ ผมว่ามันกินวัตต์กว่าตัว 1.6 ที่ผมเคยใช้อีกนะเนี่ย
2.วางลำโพงไว้ด้านกว้างหรือด้านยาวของห้องครับ เพราะถ้าวางไว้ด้านกว้าง ก็อาจจะไม่ค่อยพอสำหรับระยะ 3.8 เมตร ลำโพงมันขนาด
น้องๆประตูวิเศษชัยศรีของวัดพระแก้วเลยนะครับ
3.Myle stand นี่สั่งมาเองเลยหรือเปล่าครับ เพราะว่าเห็นทาง audio excellence มีแต่ของ sound anchor stand
สวัสดีครับ เรียนตอบคุณ Blackmore และคุณหมอ Krairerk ดังนี้ครับ
1. เดิมผมก็ใช้ 1.6 อยู่แต่ไป turn เอาเจ้า 3.6 มาเมื่อต้นปีนี้ ถือว่ากินวัตต์กว่าเดิมครับ แต่ baby krell ตัวนี้ยังพอเอาอยู่ถ้าฟังไม่ดังมาก แต่ถ้าอัด ๆ เสียงวงใหญ่ช่วง crescendo มีมั่ว ๆ และ compressed บ้างเล็กน้อย แต่ด้วย resolution ของลำโพงที่ดีกว่า 1.6 เลยไม่รู้สึกว่าเสียอะไรไป อย่างไรก็ตามตอนนี้กำลังเริ่มหยอดกระปุกไว้ซื้อพวกแอมป์ยักษ์ ๆ อยู่ขอรับ
2. เอาลำโพงมาตั้งใหม่ ๆ เจ้าของบ้านตัวจริงค้อนแล้วค้อนอีกว่ามันใหญ่เกินไป เผอิญผมอยู่ townhouse และจัดชุดไว้ในห้องเล่นระดับซึ่งมี celing ค่อนข้างสูงครับ ผมวางลำโพงไว้ตามด้านกว้างของห้องในส่วนที่เป็น step ด้านล่าง แต่จริง ๆ ห้องกว้างไปอีก 2 ม.กว่า ๆ เพราะมีส่วนที่เป็น step สูงขึ้นไป ก็เลยยังพอทนครับ
3. Mye stands สั่งเข้ามาเองครับ เสียงดีจริงตามที่เขาล่ำลือ (image focus ชัดและไล่ระดับหน้าหลังดีขึ้น) ค่าของตอนนั้น CAD$ 392 ค่าส่งมาทางเรือ CAD$ 266 เบ็ดเสร็จรอประมาณ 3 เดือนเศษ ๆ ครับ
ยินดีต้อนรับครับ :)
ถ้าเป็นไปได้ ลองหาแอมป์ sunfire 300 watt ดูนะครับ ตัวนี้ถ้าดูขั้วด้านหลัง เขาจะมีให้เลือกว่าจะไปเล่นกับลำโพงแบบ voltage source หรือ current source ซึ่งถ้าเล่นกับ maggie แล้วควรต่อแบบ current source (คือลำโพงกินกระแสต่อเนื่อง) น่ะครับ ราคาของมือสองมักจะไม่แรงมาก แต่ก็หายากพอควร
ยินดีต้อนรับคนเล่นลำโพงกินวัตต์ เพิ่มขึ้นมาอีกท่านหนึ่งละครับ Krell รุ่นเก่าๆ สัก 250W ก็น่าลองครับ ราคาไม่แพงเหมือนกัน KSA 250 ผมจับมาแค่ 100K เองครับ เห็นตัวแทนชอบใช้ยี่ห้อนี้ขับอมันอยู่
ยินดีต้อนรับครับ :)
ถ้าจะกรุณาอยากเห็นภาพห้องฟังด้วยครับ :D
วางลำโพงตามความกว้างของห้องที่ step ด้านล่าง
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC00059.jpg)
ด้านซ้ายของห้องมี step ขึ้นไป ทำให้มีเพียงบันไดเป็น partial sidewall
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC00063.jpg)
ลำโพง surround ด้านหลังห้อง
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC00040.jpg)
ภาพโดยรวมของห้องซึ่งดูเล็กไปหน่อย
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC00062.jpg)
อุปกรณ์ดูดซับเสียงและเจ้าของห้องตัวจริงครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC00052.jpg)
ห้องสวยมั่กๆครับ
ผมค่อยข้างเห็นด้วยนะครับสำหรับผนังหลัง maggie ที่ไม่ควรจะ damp หรือวาง diffusor มากเกินไป ให้มันเป็นผนังเรียบๆไปจะดีกว่า
แมวหน้าตาเจ้าเล่ห์ดีครับ
สวัสดีครับ ห้อง/ชุดเครื่องเสียงน่าฟังดีครับ ผมเพิ่งรู้เหมือนกันครับเนี่ย ว่า Magnepan มีลำโพงเซอร์ราวด์ด้วย
คุณ kloa เล่นไวโอลินเหรอครับ เห็นทั้ง avatar ทั้งภาพประดับบ้านเป็นภาพไวโอลิน เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
ห้องสวยมากครับ :ahha:
Quoteอุปกรณ์ดูดซับเสียงและเจ้าของห้องตัวจริงครับ
:lol: มีค้อนด้วยนะ
รูปที่แขวนประดับ รู้สึกว่าจะซื้อแม้กกี้ได้เลยนะครับ
จัดบ้านได้สะบายตาดีจริงๆ ครับ
ห้องสวยมากๆ ครับ ดูห้องแล้วแบบนี้ปรับ DPoLS ยากแน่ๆ เลยละครับ ด้านซ้ายมือมันเป็นท่โล่งกว้างเหลือเกิน
หรือถ้ายกลำโพงข้างซ้ายขึ้นไปบนบันได ระดับซ้ายขวาก็ไม่ได้อีก
ไม่ทราบผลการฟังของเวทีเสียงเป็นอย่างไรบ้างครับ ช่วยเล่นให้ฟังด้วย
สวัสดีด้วยคนครับ ในฐานะใช้Krell KAV-400xi +CEC TL51XZด้วยกัน :P
บ้านสวยสมเป็นศิลปินครับ
เห็นการไม่ยอมเจาะฝาบ้าน แต่ใช้ห้อยรูป ยังกับแกลเลอรี่เลยนะเนี่ย :D
อ้อ.. เปลี่ยนเถอะครับ
Sony CRT KV-HR36 M61 wide-screen
ตอนนี้พลาสม่า พานาโซนิค 42นิ้ว 29,900 บาท
เนทีฟ720พี อับสเกล1080พี
เห็นราคาแล้ว อยากเป็นลมง่ะ :'(
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำชมห้อง ต้องยก credit ให้เจ้าของบ้านตัวจริงเขาน่ะครับ
เคยนึกจะหาอะไรมาช่วย diffuse ผนังด้านหลังลำโพง แต่ยังพอตั้งลำโพงห่างกำแพงได้มากกว่า 2 ฟุต (อยู่ที่ 3 ฟุตนิดๆ ใกล้เคียงกับ minimum distance ตามคู่มือ) ดูหน้าตาและราคาของอุปกรณ์หลาย ๆ เจ้าแล้วคงไม่ผ่านอนุมัติ ก็เลยไม่ได้ทำอะไรครับ
Soundstage ด้านกว้าง OK ครับ แต่ความลึกยังเทียบไม่ได้กับ system ระดับเทพ เผอิญผมชอบฟังแบบ farfiled มากกว่า จึงขยับลำโพงให้ห่างจากผนังด้านหลังและจอ CRT มากกว่านี้ไม่ได้ (ซึ่งน่าจะช่วยให้มิติด้านความลึกดีกว่านี้) ไว้รออีกซัก 2-3 ปีมีงบฯ upgrade amp กับ pre ดี ๆ และเปลี่ยนจอเป็น flat panel ก็หวังว่าคงดีขึ้น ไม่งั้นต้องย้ายบ้านหาห้องใหญ่ ๆ แล้วล่ะครับ
เล่นโวโอลินกับเค้าไม่เป็นเลยซักกะนิดแต่ชอบฟังเสียงอยู่ครับ เผอิญภาพเขียนไวโอลินเป็นผลงานฝีมือญาติผู้ใหญ่ของผมเองครับ เลยขอรับบริจาคมา ท่านเป็นจิตกรที่รักไวโอลินมาก ๆ รูปนี้ชื่อ Double Violin Concerto ครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Sanasilp-VL-2543-03-DoubleViolinCon.jpg)
นี่เป็นอีกภาพที่นำมาให้ชม
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Wim-VL-2548-09-None_resize.jpg)
บ้านสวยครับ SYSTEM ก็เยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งลำโพง ถูกใจมากใหญ่ดี ขนาดไม่เคยฟังผมยังไม่อยากจะฟังเลยครับ :P คือว่าถ้าได้ฟังต้องเดือดร้อนแน่ๆ :'( ไม่มีตังซื้อครับ...แต่ เอ๊ะ ดูรูปอีกเจ้าหนึ่งของเวปเพื่อนบ้าน เขาวาง 3.6 ไม่เหมือนของคุณklao นา คือผมแอบเห็นเขาวางเอาด้านทวีตเตอร์(หรือเปล่า?) เป็นด้านที่มีแถบเล็กอยู่วงใน เหมือนกับลำโพงโปรเอ็ก หรือลำโพงอื่นที่มีทวีตเตอร์เยื้องเข้าใน แต่ของคุณklaoวางแถบเล็กอยู่นอก? มันเป็นไงครับ ช่วยให้ความรู้หน่อย เผื่ออนาคตผมจะมีวาสนามั่งครับ :inlove:
avartar แอ็บแบ๊วดี เอ้ย ซอพแอ็บสแต็กดี ครับ
ฝั่งซ้ายเปิดชั้นล่างกับบันไดขึ้นชั้นบน น่าจะนุ่มหูเปิดโปร่งกว่ากว่า แต่คงไม่มีเสียงพ้องมาจากห้องเหล่านั้น
สุดท้าย แมวตัวนี้ แพงกว่า แอมป๋ไม่ฮับ :love3:
Quote from: jtr on 20 May 2008, 07:49:03 pm
สวัสดีด้วยคนครับ ในฐานะใช้Krell KAV-400xi +CEC TL51XZด้วยกัน :P
บ้านสวยสมเป็นศิลปินครับ
เห็นการไม่ยอมเจาะฝาบ้าน แต่ใช้ห้อยรูป ยังกับแกลเลอรี่เลยนะเนี่ย :D
อ้อ.. เปลี่ยนเถอะครับ
Sony CRT KV-HR36 M61 wide-screen
ตอนนี้พลาสม่า พานาโซนิค 42นิ้ว 29,900 บาท
เนทีฟ720พี อับสเกล1080พี
เห็นราคาแล้ว อยากเป็นลมง่ะ :'(
ถ้าจะเปลี่ยนจริง ๆ ขอรับช่วงต่อได้ไหมครับ
อยากได้จริง ๆ รุ่นนี้ ขนาดนี้
ภาพสวยมากๆๆครับ แทบจะได้ยินเสียงไวโอลินออกมาจากเฟรมเลยครับ
อาจารย์ อ.ส. ใช่ไหมครับ เพิ่งได้มีโอกาสไปชมภาพท่านไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมน่าจะจำไม่ผิดครับ :)
Quote from: akokgolok on 20 May 2008, 09:29:12 pm
ดูรูปอีกเจ้าหนึ่งของเวปเพื่อนบ้าน เขาวาง 3.6 ไม่เหมือนของคุณklao นา คือผมแอบเห็นเขาวางเอาด้านทวีตเตอร์(หรือเปล่า?) เป็นด้านที่มีแถบเล็กอยู่วงใน เหมือนกับลำโพงโปรเอ็ก หรือลำโพงอื่นที่มีทวีตเตอร์เยื้องเข้าใน แต่ของคุณklaoวางแถบเล็กอยู่นอก? มันเป็นไงครับ ช่วยให้ความรู้หน่อย เผื่ออนาคตผมจะมีวาสนามั่งครับ :inlove:
เข้าใจว่าบางท่านที่จัดให้แถบ tweeter อยู่ด้านใน ชอบที่จะให้ image focus แน่นขึ้น เพราะเมื่อเทียบกับลำโพงทั่ว ๆ ไปแล้ว magnepan จะไม่คมชัดเท่า ส่วนตัวแล้วผมชอบให้แถบ tweeter อยู่ด้านนอกเพราะรู้สึกว่าจะได้ในด้านความกว้างขอววงดนตรี ในคู่มือของลำโพงเขาให้หลักการไว้ว่าส่วนที่เป็น bass driver ควรจะอยู่ใกล้ผู้ฟังกว่าส่วนที่เป็น tweeter ดังนั้นการจัดให้ tweeter อยู่ด้านนอกหรือใน ก็ควรจะจัดให้มุม toe in แตกต่างกันด้วย สนใจลองอ่านและดูภาพประกอบได้จากนี้ครับผม
http://www.magnepan.com/man/MG36.pdf
Quote from: จ๊อด ฟุลเรนจ์ on 21 May 2008, 12:42:35 am
ภาพสวยมากๆๆครับ แทบจะได้ยินเสียงไวโอลินออกมาจากเฟรมเลยครับ
อาจารย์ อ.ส. ใช่ไหมครับ เพิ่งได้มีโอกาสไปชมภาพท่านไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมน่าจะจำไม่ผิดครับ :)
ดีใจที่ชอบรูปครับ คุณจ๊อด ฟุลเรนจ์ความจำดี แถมยังรสนิยมด้านศิลปะเยี่ยมมั่กๆ
อ้อ ถ้าน้องเหมียวแพงกว่า amp ผมคงขโมยจากคุณเจ้าของบ้านที่เคารพรักไปขาย แล้วถอย tv ใหม่อย่างที่คุณ jtr กรุณาแนะนำมาแน่เลย มีใครสนมั้ยใจมั้ยครับ? :D
(โพสท์ซ้ำครับ)
โอ้... มิกล้าครับ :worshippy:
บังเอิญเพิ่งไปได้เห็นมาพอดีเมื่อไม่นานมานี้ครับ เลยจำได้
ปล. เพิ่งมาเห็นว่าจริงๆแล้วมีคนตาไวกว่าผมเยอะครับ เรื่องภาพ B)
Quote from: pee on 20 May 2008, 03:58:01 pm
รูปที่แขวนประดับ รู้สึกว่าจะซื้อแม้กกี้ได้เลยนะครับ
Quote from: จ๊อด ฟุลเรนจ์ on 21 May 2008, 02:35:55 pm
ปล. เพิ่งมาเห็นว่าจริงๆแล้วมีคนตาไวกว่าผมเยอะครับ เรื่องภาพ B)
Quote from: pee on 20 May 2008, 03:58:01 pm
รูปที่แขวนประดับ รู้สึกว่าจะซื้อแม้กกี้ได้เลยนะครับ
:thumbup: :thumbup: :thumbup: พี่ๆ ตาไว รสนิยมเยี่ยมกันมากๆ เลยครับ รูปไวโอลินรูปอื่นๆ ของอาจารย์ก็งามมากๆครับ
สำหรับท่านที่สนใจเพิ่มเติม
บทความของอาจารย์ อวบ สาณะเสน
1. อวบ ๗๒ เขียนโดย ส. ศิวรักษ์ http://www.sulak-sivaraksa.org/th/index.php?option=com_content&task=view&id=442&Itemid=3 (http://www.sulak-sivaraksa.org/th/index.php?option=com_content&task=view&id=442&Itemid=3)
2. ภาพวันเปิดงานศิลปะของอาจารย์ อวบ สาณะเสน บล็อกคุณนารีรัตน์http://nareerut1.multiply.com/photos/album/13 (http://nareerut1.multiply.com/photos/album/13)
3. Workshop สีน้ำมัน อ.อวบ สาณะเสน บล็อกคุณตั้ม http://www.tum.in.th/blogrw/files/dcf8254fa11f167c9fbe2521efb3d661-25.html (http://www.tum.in.th/blogrw/files/dcf8254fa11f167c9fbe2521efb3d661-25.html)
4. Uab Sanasen มาสเตอร์พีซ ‘อวบ สาณะเสน’ http://www.artgazine.com/shoutouts/viewtopic.php?p=3840 (http://www.artgazine.com/shoutouts/viewtopic.php?p=3840)
รูปสวยครับ แต่ไร้วาสนา :)
แถวหน้าพระลาน มีตลกเรื่องชื่อ
เคยเห็นแมะ
ชื่อชลูด....แต่ล่ำ
ชื่ออวบ....แต่ผอม
Quote from: pee on 22 May 2008, 09:49:38 pm
แถวหน้าพระลาน มีตลกเรื่องชื่อเคยเห็นแมะ
ชื่อชลูด....แต่ล่ำ ชื่ออวบ....แต่ผอม
เป็นเรื่อง classic ประจำคนศิลปากรรุ่นเก่า ๆ ไปแล้วขอรับ :D เคยเรียนถามท่านว่าทำไมชื่อนี้ อ.อวบ บอกว่าตอนเด็ก ๆ เคยอวบสมชื่อนะ
ขอบคุณคุณ jtr ที่กรุณา post บทความไว้ ผมขออนุญาตเพิ่มเติมไว้ด้านล่างด้วย
และถ้าสมาชิกท่านอยากได้สูจิบัตรประกอบนิทรรศการของอาจารย์ ซึ่งมีรูปสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึกก็บอกมานะครับ จะจัดไว้ให้ฟรี แต่คงจะต้องมารับเอง ส่วนท่านที่อยากฟังเสียงไวโอลินของอาจารย์ในแผ่น CD "พวงร้อย" ที่เคยหมดไป ได้ทำขึ้นมาเพิ่มแล้ว แต่อันนี้ต้องไปหาซื้อเอา ไม่แจกครับผม
Quote from: jtr on 22 May 2008, 08:24:24 pm
รูปสวยครับ แต่ไร้วาสนา :)
เพียงเรารู้ว่าอะไรเป็นที่มันเป็นสุนทรีย สวย เพราะ หรือแม่กระทั่งเสียงดี ๆ และอะไรเป็นสิ่งประเสริฐและดีงาม ก็ถือว่าเราพอจะมีวาสนาแล้วมั้งครับ
http://www.nationmultimedia.com/2007/11/24/lifestyle/lifestyle_30057131.php
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01sun01251150&day=2007-11-25§ionid=0120
http://www1.matichonmultimedia.com/~matichon/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01sun04021250&day=2007-12-02§ionid=0120
Quote from: jtr on 20 May 2008, 07:49:03 pm
สวัสดีด้วยคนครับ ในฐานะใช้ Krell KAV-400xi +CEC TL51XZด้วยกัน :P
เรียนถามคุณ jtr และสมาชิกทุกท่านครับ
หากผมจะเอา power amp อีกสักชุดมาพ่วงกับช่อง pre-out ของ Krell ตัวนี้ ซึ่งคู่มือระบุว่า ภาค "amplifer channel outputs are always active" ในขณะที่ใช้มันเป็น preamp แล้วหาสายลำโพงมา 2 ชุด (4 เส้น) ต่อแบบ bi-wire โดยใช้ครอสเดิมของลำโพง แต่อีกฝั่งต่อสายลำโพงจาก integrated amp ชุดหนึ่ง และจาก power amp อีกชุดหนึ่ง
ทำแบบนี้จะ work มั้ยครับ แล้วเขาจะเรียกเทคนิค (แบบเศรษฐกิจพอเพียง คือมีอะไรก็ใช้ไปก่อนหากทำได้) ว่า shotgun ลูกผสม bi-amp หรืออย่างไร กรุณาให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้วย ขอบพระคุณมากครับ
ผมสงสัยว่าอาจจะลำบากเพราะ
1. Krell integrated amp ตัวนี้ มันยอมให้ภาคกการทำงานเป็น pre out และเป็น intregrated amp พร้อมกันหรือเปล่า ต้องเช็คข้อมูลดีๆนะครับ เดี๋ยวแอมป์พัง
2.Power amp อีกตัวมาพ่วง ถ้ากำลังขับไม่เท่ากัน ก็จะมีปัญหาว่าระดับเสียงที่ขับบน กับขับล่าง ดังไม่เท่ากันอีก นอกจากว่า power amp ตัวนั้นปรับ gain ได้
ถ้าด้านหลังเครล์มีแจ๊ค Pre-out, Main In ก็สามารถทำได้โดยเพิ่มตัวแยกที่ Pre-out
เส้นนึงต่อที่ Main In อีกเส้นก็เข้าที่แอมป์ใหม่ แต่อาจจะไม่แมทช์อย่างคุณหมอว่า
ส่วนตัวผมก็ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้ครับ
ถ้าขับไม่ไหวแนะนำขายเครล์แล้วหาแอมป์ใหม่ครับ :P
Quote from: meng on 30 May 2008, 04:10:25 pm
ถ้าด้านหลังเครล์มีแจ๊ค Pre-out, Main In ก็สามารถทำได้โดยเพิ่มตัวแยกที่ Pre-out
เส้นนึงต่อที่ Main In อีกเส้นก็เข้าที่แอมป์ใหม่
คือความหมายของพี่เกล้าเค้า คือว่า พอต่อภาค pre out ออกมาแล้วเนี่ย ภาค power ของ Krell ก็ยังใช้ได้ด้วย และเอาไปขับ maggie (ที่เป็น biwire)
แต่โดยปกติ เมื่อใช้ภาค pre out แล้ว ภาค power ของ integrated ไม่น่าจะทำงาน
อีกวิธีนึงคือ ต่อจากภาค rec out (ถ้า integrated ตัวนั้นมี tape loop) ออกไปที่ power amp อีกตัวนึง แต่สัญญาณจะแรงมาก ตัว powerอีกตัวจะต้องสามารถปรับเกนได้
:popcorn: มันหละครับ ผมก็เคยคิดคล้ายๆแบบนี้
แต่ออกตัวก่อนว่า ผมไม่รู้จักแม๊กกี้นะ
ควรให้คนที่เล่นลำโพงนี้ แสดงความเห็น มีคุณหมอไกรฤกษ์ คุณดีเอชที-ทู๊ป และก็คุณคีป ว้อล์คกิ้ง
มาว่าเรื่องแอมป์ ตอนแรกผมคิดจะเอาแอมป์หลอดขับ กลางแหลม แอมป์ซิลิกอนขับ เบส
แต่ผลลัพท์ออกมา ไม่เป็นดั่งความฝัน ออกอาการ ฮัม-จี่ มั่วไปหมด
เรียกว่าการแม็ทชิ่งหาดียากๆๆ
แม้แต่การเอาแอมป์สเตอริโอ มาบริดจ์เล่นเป็นโมโนบล็อก ยังทนกันได้ไม่นาน เพราะความเพี้ยนTHD สูงขึ้น
ฉะนั้นแนวทาง เพิ่มๆๆ โมๆๆ ผมเห็นไม่มีใครทนอยู่ได้จริงจังนะครับ
ถ้าเอามันส์ หรือเพื่อเพิ่มความรู้ ก็ว่าไปอย่าง แต่คงไม่ได้ใช้ฟัง"ดนตรี" อย่างจริงจัง
แต่จะว่าไปแล้ว ยังไม่ทราบจุดประสงค์ หรือความต้องการของคุณเกล้าเลยครับ
ว่าแม๊กกี้ มันขาด หรือ มีอะไรเหลือเฟือ รบกวนบอกมาด้วยนาครับ :)
ี
Quote from: Krairerk on 30 May 2008, 02:30:42 pm
ผมสงสัยว่าอาจจะลำบากเพราะ
1. Krell integrated amp ตัวนี้ มันยอมให้ภาคกการทำงานเป็น pre out และเป็น intregrated amp พร้อมกันหรือเปล่า ต้องเช็คข้อมูลดีๆนะครับ เดี๋ยวแอมป์พัง
2.Power amp อีกตัวมาพ่วง ถ้ากำลังขับไม่เท่ากัน ก็จะมีปัญหาว่าระดับเสียงที่ขับบน กับขับล่าง ดังไม่เท่ากันอีก นอกจากว่า power amp ตัวนั้นปรับ gain ได้
1. น่าจะทำได้พร้อมกันตามคู่มือบอก เพราะตอนนี้ผมใช้แอมป์ในขณะที่ต่อช่อง pre outs ไปที่ sub ซึ่งแอมป์และ sub ก็ทำงานทั้งคู่ครับ
2. ถึงแม้ power แอมป์ที่หามาใหม่มีตัวปรับ gain แล้วเราจะทราบได้ไงครับว่าต้องปรับเท่าใด ถ้าใช้หูฟังเองก็คงไม่เนียน 100% ใช่มั้ยครับ
Quote from: jtr on 30 May 2008, 06:04:49 pm
ถ้าเอามันส์ หรือเพื่อเพิ่มความรู้ ก็ว่าไปอย่าง แต่คงไม่ได้ใช้ฟัง"ดนตรี" อย่างจริงจัง
แต่จะว่าไปแล้ว ยังไม่ทราบจุดประสงค์ หรือความต้องการของคุณเกล้าเลยครับ
ว่าแม๊กกี้ มันขาด หรือ มีอะไรเหลือเฟือ รบกวนบอกมาด้วยนาครับ :)
ี
จริง ๆ ก็ทั้งอยากลองมันส์และลองของล่ะครับ คือเดิมตั้งใจจะเอา krell ไปจัดชุดที่บ้านต่างจังหวัด แล้วหากะตังค์ซื้อแยกชิ้น pre + power มาใหม่และใช้ขับ maggie ซึ่งใคร ๆ เขาก็ว่ายิ่งให้กินวัตต์เยอะ ๆ ยิ่งดี
แต่เกรงใจเจ้าของห้องฟังตัวจริงที่นี่ เลยนึกว่าจะค่อย ๆ ละเมียดซื้อเข้ามาทีละชิ้น จะได้ไม่ตกใจไงครับ :P
Quoteคือความหมายของพี่เกล้าเค้า คือว่า พอต่อภาค pre out ออกมาแล้วเนี่ย ภาค power ของ Krell ก็ยังใช้ได้ด้วย และเอาไปขับ maggie (ที่เป็น biwire)
แต่โดยปกติ เมื่อใช้ภาค pre out แล้ว ภาค power ของ integrated ไม่น่าจะทำงาน
ปกติอินติเกรดจะมีแจ็ค PO/MI มาให้เพื่อที่เราจะใช้เป็นปรีหรือพาวเวอร์โดยที่ไม่ใช้ภาคใดภาคหนึ่ง
เพราะมันทำงานแยกกันเหมือนพาวเวอร์และปรีแอมป์ ผมไม่คิดว่ามันจะใช้ไม่ได้นะครับ
Quoteแม้แต่การเอาแอมป์สเตอริโอ มาบริดจ์เล่นเป็นโมโนบล็อก ยังทนกันได้ไม่นาน เพราะความเพี้ยนTHD สูงขึ้น
ถ้ามีสเตอสองตัวที่เหมือนกันก็ให้ต่อแบบ vertical bi-amp สิครับท่านพี่ แต่ต้องเพิ่มสายสัญญาณอีกชุด
เสียงจะดีกว่าบริดจ์อีกด้วย
Quote from: meng on 30 May 2008, 07:55:52 pm
ถ้ามีสเตอสองตัวที่เหมือนกันก็ให้ต่อแบบ vertical bi-amp สิครับท่านพี่ แต่ต้องเพิ่มสายสัญญาณอีกชุด
เสียงจะดีกว่าบริดจ์อีกด้วย
ถูกต้องนาคร้าบ :D
แต่ถ้าจะเสียเงินออก400xi อีกตัว จะมิต้องประสงค์ กับใจที่คุณเกล้าจะขยับขึ้นเป็น ปรี-เพาเวอร์ แยกนะซิ B)
ที่ถามมานั้น ภาคเพาเวอร์ทำงานครับ แม้ว่าจะต่อปรี-เอ้าท์ พร้อมๆกัน
ผมทดลองแล้ว ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม
เพียงแต่ไม่ได้เอาสัญญานมาขยายเสียง
ส่วนการปรับเกน เป็นเรื่องใหญ่ครับ ยังไม่ต้องพูดเรื่องแอมพิแดนซ์ ทั้งด้านกายภาพและด้านสัญญาน
ผมว่าต้องยอมให้เจ้าของบ้านบ่นหน่อยจะดีที่สุด
เจอเสียงดีๆ เดี๋ยวก็ปลื้ม เทวกุลแล้วครับ :D
เท่าที่อ่านๆ มาก็พอจะเข้าใจแอมป์ที่ใช้ และความต้องการของเจ้าของห้อง ผมคิดว่าเท่าที่ของมีอยู่ในตอนนี้น่าลองต่อสองวิธีครับ
๑. ใช้ ปรีเอาท์ ต่อไปยังแอมป์ตัวใหม่ที่ควรจะปรับเกรนได้ด้วย การปรับต้องใช้หูฟังเอาอย่างเดียวละครับ ก็ฟังดูเอาว่ามันดีกว่าใช้ แครลล์ ๔๐๐ ตัวเดียวขับไหม? การต่อแบบนี้แอมป์ทั้งสองชุดขับแบบฟูลล์เร็งค์เต็มย่านของความถี่ (คือไบแอมป์แบบไม่เต็มสูจน์) แอมป์ทั้งสองชุดยังใช้กำลังขยายทุกความถี่กันเต็มที่ ประสิทธิภาพการขับจะไม่สูงขึ้น เหมือนการที่เราจะซื้อ แอกทีป ครอสส์ โอเวอร์ มาใช้ในงานนี้ด้วย ซึ่งน่าจะเห็นผลดีกว่ากันละครับ แต่คงจะเนื่อยหน่อย
๒. แนะนำให้ลองเอาตัวใหญ่ ที่จะได้มาใหม่ต่อจาก ปรีเอาท์ ของตัวเก่า (ควรดูด้วยว่า ถ้าใช้ภาพรีอย่างเดียวเขาให้ทำอย่างไร? เดียวภาคเพาเวอร์ตัวเก่าอาจพังได้นะครับ เคยเห็นมีเส้นลวดต่อระหว่างปรีเอาท์ เมนอิน ตัวนี้น่าจะเอาออก และเอารซิสเตอร์สักสิบโอมห์ตัวใหญ่ๆ ต่อไว้ที่ขั้วเสียบสายลำโพงด้วยก็จะดีครับ บางเครื่องผมเคยเห็นเขามีปุ่มบิดให้เลือกในกรณีใช้ปรีเอาท์อย่างเดียวไว้ให้ด้วย มันก็จะง่ายครับ) การต่อแบบนี้ไม่ต้องกลัวการไม่แมท์ใดๆ ทั้งสิ้น เสียงและกำลังที่ได้ขึ้นอยู่กับเพาเวอร์ตัวใหม่อย่างเดียว อ้อ..เสียงจากปรีแครลล์ ๔๐๐ ด้วย
การเล่นไบแอมป์อย่างเต็มสูจน์นั้น ผมนึกแล้วยังรู้สึกกลัวครับ การเลือกใช้ของให้ลงตัวทุกชิ้นไม่ใช่เรื่องที่มันจะเข้ากันได้ง่ายๆ ละครับ ไหนจะตัว แอกทีป ครอสส์ โอเวอร์ ตัวปรี ตัวแอมป์ที่ขับเสียงสูงและต่ำต้องเข้ากันได้ แล้วสายต่างๆ อีกล่ะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วละครับ หากทำตามข้อสอง ถ้าหาเพาเวอร์แอมป์มาขับให้ได้เสียงและกำลังออกมาพอใจเรา เมื่อเปิดกันเต็มที่ (ที่เห็นดิ้นรนอยู่นี้น่าจะมาจากกำลังขับของแครล์ ๔๐๐ ยังไม่พอใจใช่หรือไม่ครับ? ไม่ใช่เสียงไม่ถูกใจ) เราก็ยกแครล์ ๔๐๐ ที่ใช้อยู่นี้ ไปบ้านต่างจังหวัดซะ แล้วซื้อปรีตัวใหม่เขามาประจำการ ก็จบครับ เมื่อก่อนนี้ผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญของปรี แต่ตอนนี้ผมกลับใจคิดใหม่เลยว่า ปรีเป็นตัวทำเสียงให้เราถูกใจมากกว่าสิ่งอื่นใด ความอวบใหญ่ของเนื้อเสียง เวทีเสียง มิติ ซาวด์สเต็จ ไดนามิก ปรีแอมป์ มีผลเป็นอย่างมากเลยละครับ ตอนนี้ผมใช้ตัวปรีราคาแพงกว่าเพาเวอร์ สองสามเท่าตัวครับ
เป็นผมเอางบมาซื้อ ซิงเกิ้นแอมป์ และปรีดีๆ ง่ายที่สุดครับ
ขอบพระคุณสมาชิกทุกท่านสำหรับความรู้และคำแนะนำครับ
หากกระปุกเต็มเมื่อใดและมีความคืบหน้าเกี่ยวกับ power amp อันใหม่ จะรีบรายงานให้ทราบขอรับ แต่คงจะไม่ใช้ bi-amp แบบเต็มสูตร มิฉะนั้นจะต้องใช้เงินและกำลังภายในเยอะเกินไป ผิดวัตถุประสงค์เดิม
Quote from: jtr on 30 May 2008, 06:04:49 pm
ควรให้คนที่เล่นลำโพงนี้ แสดงความเห็น มีคุณหมอไกรฤกษ์ คุณดีเอชที-ทู๊ป และก็คุณคีป ว้อล์คกิ้ง
เมื่อถูกพาดพิง ก็ขอร่วมหน่อยละกันท่านพี่ jtr
ผมเล่นรุ่นเล็ก SMG20 (น่าจะใช่) ก็พบลักษณะเดียวกันกับที่หลายๆท่าน ก็พบเหมือนกันว่า กินวัตต์ แต่เคยใช้ conrad johnson 11A แต่ใส่หลอด 6550 ก็ขับได้ดีในห้องขนาด 4*5 เมตร สูงประมาณ 2.80 เมตร
ผมว่าแนวเสียงของเขาน่าจะไปได้ไม่ดีนักกับแอมป์ที่มีแนวเสียงแบบ ML น่าจะชอบเสียงแนวอวบๆ มีเนื้อแบบ krell นี่แหละน่าจะสมกันดี แต่อาจจะต้องลองดูพวกรุ่นที่มีแนวเสียงไปทางมีเนื่อซักหน่อย
ถ้าอยากเล่นเป็นหลอด ผมเคยลองยกมาฟังอยู่นอกจาก cj ก็มี manley ก็ไปกันได้ดี
single ended นี่เลิกกันเลยครับ ไม่น่าไหวแน่ๆ นอกจากประเภพแบบว่า 833A 100W/A2 อะไรแนวๆนี้ ซึ่งก็คงไม่ดีนัก เพราะ voltage สูงมากๆ
ส่วนการเล่นไบแอมป์ ผมมีความเห็นว่าไม่ดีนัก เพราะต้องอาศัยโชคช่วยพอสมควรในการที่จะแมทช์แอมป์ 2 ตัว (ในกรณีที่คนละยี่ห้อกัน)
Quote from: K. PJ on 30 May 2008, 10:03:07 pm
...ถ้าหาเพาเวอร์แอมป์มาขับให้ได้เสียงและกำลังออกมาพอใจเรา เมื่อเปิดกันเต็มที่ (ที่เห็นดิ้นรนอยู่นี้น่าจะมาจากกำลังขับของแครล์ ๔๐๐ ยังไม่พอใจใช่หรือไม่ครับ? ไม่ใช่เสียงไม่ถูกใจ) เราก็ยกแครล์ ๔๐๐ ที่ใช้อยู่นี้ ไปบ้านต่างจังหวัดซะ แล้วซื้อปรีตัวใหม่เขามาประจำการ ก็จบครับ เมื่อก่อนนี้ผมไม่ค่อยเห็นความสำคัญของปรี แต่ตอนนี้ผมกลับใจคิดใหม่เลยว่า ปรีเป็นตัวทำเสียงให้เราถูกใจมากกว่าสิ่งอื่นใด ความอวบใหญ่ของเนื้อเสียง เวทีเสียง มิติ ซาวด์สเต็จ ไดนามิก ปรีแอมป์ มีผลเป็นอย่างมากเลยละครับ ตอนนี้ผมใช้ตัวปรีราคาแพงกว่าเพาเวอร์ สองสามเท่าตัวครับ
เป็นผมเอางบมาซื้อ ซิงเกิ้นแอมป์ และปรีดีๆ ง่ายที่สุดครับ
ขอรายงานความคืบหน้าพี่น้องสมาชิกทราบสำหรับ project การขยับขยาย amp สำหรับน้อง Maggie ครับ ว่าขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือการขออนุมัติในหลักการเรื่องหาซื้อพาวเวอร์แอมป์และปรีดี ๆ มาแทนอินทรีเกตเตดตัวเก่า ตามที่พี่ K.PJ กรุณาแนะนำมานั้น ผ่านความเห็นชอบจากท่าน ผบ.สูงสุดที่รักแล้ว เย้! แต่ต้องหางบลับพิเศษมาซื้อเอง
อยากขอความเห็นทุกท่านเรื่องการใช้ preamp ที่ไม่มีระบบ surround/processor bypass มาพ่วงกับ a/v receiver เวลาดูหนัง แต่คงต้องปรับ volume ของ pre ด้วยหูหรือ spl meter เองให้ลำโพง center กับคู่หน้าเข้ากัน ว่าถ้าเราไม่เน้นเรื่อง home theatre มากนัก แต่เน้น 2-channel มากกว่า อย่างนี้น่าจะ OK ไหมครับ คือตอนนี้ดู ๆ เครื่องมือสอง Parasound Halo JC2 อยู่ครับ
ยินดีด้วยครับที่ได้รับอนุมัติแล้ว ค่อยๆ ทะยอยเอาของเข้าบ้านครับ
ผมคิดว่าเล่นระดับนี้แล้ว เลือกปรีเพื่อเล่นกับเพลงดีๆ ไปเลย แล้วไป
ซื้อปรีหรือเครื่องเล่น DVD ที่มีปรีในตัว (เพราะบอกว่าไม่เน้นโฮมฯ)
แบบไม่แพงนักแยกกันต่างหาก แล้วไปใช้แอมป์ดีๆ ซึ่งจะใช้เล่นทั้ง
สองแบบได้ (อาจซื้อแอมป์เดี่ยวเพื่อ ลำโพงตรงกลางอีกสักตัว)
ตอนนี้เขารณรงค์เรื่องประหยัดพลังงานและโลกเขียว ไม่ทราบว่าพี่ ๆ เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรกับ power amp class D ครับ
ผมกำลังมอง ๆ Bel Canto e.OneREF1000 (1,000Wpc@4Ohms) แอมป์ตัวเล็กนี้กินไฟตอนเปิดเครื่องเฉย ๆ แต่ 15w ไปฟังตัว integrated ในงานเครื่องเสียงเมื่อเร็ว ๆ นี้แบบคร่าว ๆ ก็ประทับใจนะครับ
ผมเคยลองเอา Class A/B Bryston 7B-SST มาลองกับ Maggie แล้วเสียงเข้ากันได้ดีมากครับ แต่ราคากับการกินไฟโหดไปหน่อย 215W idle 1,980W peak (ต่อข้าง)
ขายไปหลายรายการและย้ายหลาย ๆ ชิ้นไปประจำการที่บ้าน ตจว. เลยขอ update systems ไว้ให้ทราบครับ
Country House System
Integrated Amp: NAD C372 (150W@8Ohms)
Speakers: PSB Synchrony One B (86dB/4Ohms)
CD Player: C.E.C. TL51XZ w/ HiFi Tuning Fuse
Speaker Cables: Harmonic Tech Pro-9 Reference Bi-Wire
Interconnects: Harmonic Tech Pro-Silway III+ RCA
Others: Kimber PK-10 Gold AC cords; XAV Audio Distributor 4E; XAV Audio EMX-111 platforms; REZET customized rack
Tweaks: XAV Audio X-Filter; Vibrapod isolators & cones
TV: Panasonic TX-34P180B CRT
Processor/AVR: None
HT Speakers: None
DVD: Denon DVD-1920 w/ Kimber PK-10 Gold AC cord
Other HT: Kimber Hero RCA; Nordost Optix component; XAV EMX-111 platforms; Vibrapods
Room Size (LxWxH): 6.50 m. x 6.00 m. x 3.00 m. (21.3 ft. x 19.7 ft. x 9.8 ft.)
Town House System
Amp: Wyred 4 Sound SX-1000 monoblocks (1,140W@4Ohms)
Preamp: Wyred 4 Sound STP (passive/active design)
Speakers: Magnepan MG 3.6/R (85dB/4Ohms)
CD Player: Cambridge Audio Azur 840C
Speaker Cables: Harmonic Tech Pro-9 Reference Bi-Wire
Interconnects: Stereovox Colibri-X balanced IC's
Others: Wattgate 381 wall receptacles; Magnet Audio IRG-600 power conditioner; Audience E version PCs; Harmonic Tech Fantasy AC-10 PC; Rezet customized racks
TV: Sony KV-HR36M61 CRT
Processor/AVR: Onkyo TX-SR805
HT Speakers: Magnepan CC3 center (85dB/4Ohms); Magnepan MC1 surrounds (86dB/4Ohms)
DVD: OPPO DV-983H
Other HT: Nordost Silver Screen Component; Harmonic Tech Silver S-Video; Stereovox XV2 Digital Coax; Harmonic Tech Pro-Silway III+ RCA ICs; Kimber Hero RCA ICs; Kimber 8TC center SC; Kimber 4VS surround SCs
Tweaks:
ROOM: PRS Acoustic Wall One room treatment
AMPS: WBT nextgen 0710Cu binding posts & 0210Cu-Ms RCA jacks; Furutech TF fuses, FI-10(G) inlets, & FP-3TS762 power wires.
PREAMP: Neutrik NC3FBH1 & NC3MBH XLR jacks, WBT nextgen 0210Cu-ms RCA jacks, Kimber TCSS signal & TCX power wires, Nichicon KW caps (1st-2nd stages), Elna RFS silk caps (3rd-4th stages), PS Critical Link fuse, & Furutech FI-10(G) inlet.
SPEAKERS: MyeSound stands, HiFi-Tuning fuses, & by-passed tweeter attenuators.
CDP: GINKO Cloud 14A platform (Pending); Furutech FP-Alpha3 power wires & FI-10(G) inlet; HiFi-Tuning fuse
DVD: Furutech FP-Alpha3 power wires & FI-10(G) inlet; HiFi-Tuning fuse
POWER COND: Wattgate 381 outlets; Furutech FP-Alpha3 power wires; HiFi-Tuning fuses; and Vibrapods & cones.
Room Size (LxWxH): 5.40 m. x 3.80 m. x 3.40 m. (17.7 ft. x 12.5 ft. x 11.2 ft.)
ถ้าใจรักทาง amp digital ละก็ลองดูที่ www.acoustic-reality.com นะครับ ผมเล็งๆไว้หลายทีแล้วเหมือนกัน
Quote from: Krairerk on 10 September 2008, 06:57:11 pm
ถ้าใจรักทาง amp digital ละก็ลองดูที่ www.acoustic-reality.com นะครับ ผมเล็งๆไว้หลายทีแล้วเหมือนกัน
ขอบคุณครับคุณหมอ ราคาน่าสนใจมาก ตัว 1,000W ราคาถูกกว่า Bel Canto เกือบ 50% แถมดูเหมือนจะใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อพวก binding post และ connectors ดีกว่าซะด้วยซี
เมื่อไหร่คุณหมอเหนี่ยวไกแล้วบอกด้วยนะครับ จะขอไปฟังครับ เห็นเขาว่าเจ้า ICE-power แอมป์พวกนี้ เข้าได้ดีกับปรีหลอดมั่ก ๆ ครับ
ดูราคาดีๆนะครับ ตัว eAR1001 ref นี่ราคาเป็นต่อตัวนะครับ ไม่ใช่ต่อคู่
ตัว 1001 ref ที่ รีวิวดีมั่กๆ คนที่ใช้พวก mark 33H ก็เปลี่ยนใจเมื่อเจอคู่นี้ แต่เห็นเขาว่ามันจะค่อนข้าง sensitive กับ power cord อยู่พอควร
ผมเคยสอบถามรุ่น eAR 202ref ว่าจะซื้อราคาไม่รวม vat แล้วค่าส่งเท่าไหร่ เขาบอกมาอย่างนี้
> Dear Sir,
>
> The shipping cost to Asia with DHL Air Express is approx. EURO 110 or USD
> 165
> That include export papers to be made by DHL.
> It is necessary, else you can not purchase VAT and TAX free.
>
> With the best regards,
> Peter Thomsen, Acoustic Reality - Denmark
ก็เลยถามซ้ำไปอีกทีนึงว่า ฉันอยู่นอก EU นะเฟ้ย แล้วทำไมซื้อราคาไม่รวม vat ไม่ได้ล่ะ แล้วก็ส่งแบบ EMS airmail ธรรมดาได้ไหม ไม่เอา courier เพราะว่าจะโดนภาษีหนักเต็มๆเลย มันก็ตอบมาว่า
Dear Sir,
If the export papers are not filled, then the Danish state will charge for
VAT.
This is the reason why it is only possible to ship with DHL or FedEx.
There are no other alternatives.
ผมเลยงงๆ ว่ามันจะคิดราคาไหนกันแน่ ใครแตกฉานเรื่องนี้รบกวนช่วยแปลทีเถิด
เขาหมายถึงต้องใช้บริการ DHL หรือ FedEx เท่านั้น ถึงจะลด VAT ได้
ผมเคยได้ยินมาว่า ถ้าให้เขาส่ง DHL หรือ Fedex โดยให้ทางผู้ขายเป็นผู้เรียกใช่บริการมันจะแพง
แต่ถ้าเป็นเราเป็นคนเรียกใช้บริการให้ไปรับสินค้าให้และนำมาส่งให้เรา มันจะถูกกว่า ไม่รู้ว่ามันเป็นช่องว่างอะไร หรือผมได้ยินมาผิดๆ ก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่ก็น่าจะลองสอบถามเปรียบเทียบดูก็ไม่เสียหายนะครับ
ผมดูกำลังขับกับราคาแล้วก็ยอมรับว่าทึ่งทีเดียว สนใจอยากมีโอกาสลองฟังบ้างแล้วซิ คุณหมดจะสั่งมาเล่นหรือครับ
Quoteแต่ถ้าเป็นเราเป็นคนเรียกใช้บริการให้ไปรับสินค้าให้และนำมาส่งให้เรา มันจะถูกกว่า
ถูกกว่าครับ คอนเฟิม ต้องลองสอบถามดูก่อนครับ
ดิจิตอลแอมป์น่าเล่นมั๊กๆ ครับ อย่างน้อยมันก็น่าจะลด Phase Shift จากอุปกรณ์พวก R, C & L ลงไปได้ระดับหนึ่งละครับ อาจจะเป็นตัวเลือกใหม่ในอนาคตครับ ยิ่งทำได้วัตต์สูงๆ กินไฟบ้านต่ำๆ ด้วยแล้ว ลำโพง อีเล็กโตสะแตร์ตริก ที่ขับยากๆ ยิ้มกันออกละทีนี้
แต่ผมก็ยังคงหลงเสียงหลอดอยู่อ่ะครับ!!! คุณ Klao ไม่ลอง ARC VTxxx หามาลองจับคู่ดูบ้างล่ะครับ? ตอนนี้ผมคบกลับพุทพูลแอมป์หลอดอยู่ครับ เสนห์มันแรงจริงๆ ครับ ฟังได้ทุกแนวเพลง สุดยอดสำหรับผมในขณะนี้ละ
Quote from: Krairerk on 11 September 2008, 05:41:13 pm
ก็เลยถามซ้ำไปอีกทีนึงว่า ฉันอยู่นอก EU นะเฟ้ย แล้วทำไมซื้อราคาไม่รวม vat ไม่ได้ล่ะ แล้วก็ส่งแบบ EMS airmail ธรรมดาได้ไหม ไม่เอา courier เพราะว่าจะโดนภาษีหนักเต็มๆเลย มันก็ตอบมาว่า
If the export papers are not filled, then the Danish state will charge for VAT.Th is is the reason why it is only possible to ship with DHL or FedEx. There are no other alternatives.
ผมเลยงงๆ ว่ามันจะคิดราคาไหนกันแน่ ใครแตกฉานเรื่องนี้รบกวนช่วยแปลทีเถิด
เป็นคำถามค้างคาใจว่าจะเขียนถามเขาอยู่เหมือนกัน คุณหมอก็ post ก่อนพอดี ขอบพระคุณครับ ผมเข้าใจว่า
1. ใน web ของเขาเรื่อง terms of delivery ข้อ 5 transportation เขาบอกว่าผู้ขายจะรับผิดชอบหากของไปไม่ถึงผู้ซื้อหรือเสียหาย แสดงว่าต้องมีประกัน เท่าที่ผมเคยซื้อของทาง net พวก EMS หรือ airmail ธรรมดามักจะไม่รวมค่าประกันและ tracking services ครับ และ
2. น่าจะเป็นบริษัทตงฉิน ปฏิบัติตามกฏถูกต้อง คือหาก stock ของขาดไปโดยไม่ได้ declare ว่าเป็นการส่งออกเต็มมูลค่า ทางการเขาก็จะถือว่าเป็นขายในประเทศและต้องนำส่งภาษีขาย (VAT) แทนลูกค้า
อาจเกี่ยวกันครับ
http://www.infoplease.com/ipa/A0781359.html
อย่างที่เฮียเม้งว่าครับ ... ต้องมีการทำ export document ถึงจะไม่เสีย VAT
แล้วถ้า ship ด้วย DHL, FedEx พวกนี้จะทำให้ครับ
นำเสนอ Wyred 4 Sound SX-1000 จาก California ซึ่งเป็น ICE-based Class D เหมือนกัลย์ ราคาดี และกำลังจะมี review ใน 6moons.com ครับ อันนี้ไม่น่าจะมี VAT ครับ แต่เรื่องค่าส่งกับการ declare มูลค่า คงต้องคุยกันเอง รายละเอียดเพิ่มเติมตาม link ครับ ส่วนผมอาจจะรอ 2nd hand จะได้ราคาถูกกว่านี้ลงไปอีก :yahoo:
Quote from: K. PJ on 11 September 2008, 08:18:11 pm
แต่ผมก็ยังคงหลงเสียงหลอดอยู่อ่ะครับ!!! คุณ Klao ไม่ลอง ARC VTxxx หามาลองจับคู่ดูบ้างล่ะครับ? ตอนนี้ผมคบกลับพุทพูลแอมป์หลอดอยู่ครับ เสนห์มันแรงจริงๆ ครับ ฟังได้ทุกแนวเพลง สุดยอดสำหรับผมในขณะนี้ละ
ผมตกลงปลงใจไปแล้วค่อนข้างจะแน่นอนแล้วครับ ว่าจะลองเล่นแอมป์ class D มาจับคู่กับปรีหลอด กำลังรอ ๆ ดูพวกของใช้แล้ว และที่สำมะคัญ รองบประมาณเบิกจ่ายซึ่งยังมาไม่ถึงซะที
ความรู้เรื่องหลอดของผม ก็มีแค่พอแค่เปลี่ยนหลอดไฟที่บ้าน อย่างไรซะ คงต้องรบกวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ขอคำแนะนำไว้ล่วงหน้าด้วยนะขอรับ
Quote from: klao on 18 September 2008, 11:06:50 am
Quote from: K. PJ on 11 September 2008, 08:18:11 pm
แต่ผมก็ยังคงหลงเสียงหลอดอยู่อ่ะครับ!!! คุณ Klao ไม่ลอง ARC VTxxx หามาลองจับคู่ดูบ้างล่ะครับ? ตอนนี้ผมคบกลับพุทพูลแอมป์หลอดอยู่ครับ เสนห์มันแรงจริงๆ ครับ ฟังได้ทุกแนวเพลง สุดยอดสำหรับผมในขณะนี้ละ
ความรู้เรื่องหลอดของผม ก็มีแค่พอแค่เปลี่ยนหลอดไฟที่บ้าน อย่างไรซะ คงต้องรบกวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ขอคำแนะนำไว้ล่วงหน้าด้วยนะขอรับ
อย่าคิดอย่างนี้ครับ โกรธกันเลยละ ยินดีให้คำแนะนำเต็มที่ครับ คลาส D ผมเคยฟังครั้งนึง ผมยังคิดว่าเสียงยังโรแมนติกสู้หลอดไม่ได้ ถ้าฟังกันจริงๆจังๆ น่าจะสู้แครวตัวที่เคยใช้ยังไม่ได้เลยนะครับ ถ้าเพื่อประหยัดและชั่วคราวก็ โอเค ครับ
หลอดเครื่องรุ่นเก่าๆ ผมคิดว่าดีกว่าเครื่องรุ่นใหม่ที่ทำในจีน ราคาก็น่าต่ำด้วย(?) ก็น่าเล่นนะครับ
ปรีแอมป์หลอดนี่ ถ้าไม่ใช่พวก ARC รุ่นใหม่ ๆ ที่บอกอายุคงเหลือของหลอดนี่ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนหลอดตอนไหน หรือเปลี่ยนตอนมันขาดแล้วเสียงไม่ออกครับผม ปกติเปลี่ยนกันกี่ปีหนครับ?
แล้วเปลี่ยนที่หนึ่ง ๆ แพงไหมครับ ถ้าเราเปลี่ยนเป็นของเดิม ๆ (ทราบว่ามีหลายรุ่น หลายแนวเสียง หลายราคา ให้ลอง) ตอนนี้ผมมอง ModWright LS 36.5; E.A.R. 868; กับ VAC Sigma แต่ก็ไม่รู้ว่าหลอดที่เขาใช้ราคามันแพงกี่มากน้อย และก็ยังกลัว ๆ เพราะทั้งสามเจ้าไม่มีผู้แทนจำหน่ายในไทย จะหาคนซ่อมให้ยากรึเปล่าไม่รู้ เอ หรือเล่นยี่ห้อที่มีตัวแทนดีครับ?
ได้ยินมาด้วยว่าเปิดปิดแอมป์หลอดบ่อย ๆ อาจทำให้อายุหลอดสั้นกว่าเปิดไว้ต่อเนื่อง ควรจะปิดก็ในกรณีที่กะจะไม่ใช้สัก 2-3 วันขึ้นไป จริงป่าวครับ?
งบประมาณจวนเจียนจะออกแล้ว เลยคิดหนักครับว่าจะเอาอย่างไรดี ปรีหลอด หรือปรีโซลิด หรือ Pre/Pro ซะเลยสะดวกดี แต่ไม่ต้องคิดมากเรื่องเสียง pure analog stereo ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลและความเห็นครับ
ผมใช้ปรี ARC ตัวปัจจุบันมา 5 ปีกว่าเปลี่ยนแค่หลอดเร็กติฟาย 2 ครั้งแล้ว
หลอดอื่นยังใช้ได้ปกติไม่มีอาการใดๆ
ส่วนเครื่องหลอดเปิดปิดทุกครั้งที่ฟังตามปกติไม่น่าเป็นปัญหากับอายุหลอดครับ
เรื่องอายุหลอดผมว่าถึงมีมิเตอร์บอก มันก็เป็นการบอกได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น
เพราะเครื่องวัดหลอดที่เป็นที่นิยมกันส่วนใหญ่นั้น (เช่น TV-7) ก็บอกอายุในลักษณะที่ว่าตอนนี้ค่าทางไฟฟ้าต่างๆ เหลือ หรือเป็นเท่าไหร่ อย่างไร ไม่ได้บอกเรื่องว่าเมื่อไหร่หลอดจะเล่นไม่ได้เลย เพราะมันก็ขึ้นอยุ่กับการ set up จุดทำงานของหลอดแต่ละเบอร์ ในแต่ละการออกแบบเพื่อนำไปใช้ในแต่ละเครื่องด้วยเช่นกัน
ถ้าเราเล่นในรูปแบบที่เอาจริงเอาจังกับการฟัง ผมเชื่อว่าเราจะฟังออกได้ไม่ยากเวลาหลอดนั้นๆ เริ่มมีการถดถอยทางด้าน spec ทางไฟฟ้ามากจนมีผลทำให้เสียงของเครื่องนั้นๆ เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เราก็เปลี่ยนซะ
แต่เชื่อได้ว่าก็มีนักเล่นอีกไม่น้อย ก็ไม่ได้ฟังออก หรือมีความเข้าใจในการเล่นมากนัก บางทีไปเอาหลอดมีชื่อ มีตระกูลมาลองเปลี่ยนแทนหลอดที่มากับเครื่องนั้นๆ (ที่ชอบเรียกกันจังว่า พวกหลอดจีน รัสเซีย) แต่สภาพหลอด (ในที่นี้หมายถึงภายใน ไม่ใช่ภายนอก) ที่แก่เก่า เหลาเหย่มาเปลี่ยนใส่เข้าไป แล้วก็ทึกทักฟังกันว่าเสียงมันดี อย่างนั้น อย่างนี้
ก็ต้องลองดูครับ ถ้าสภาพหลอด NOS นั้นดีจริง เราก็คงเชื่อได้กวา 80 เปอร์เซนต์ว่าดีกว่าหลอดที่ผลิตใหม่ (เนื่องด้วยคุณภาพทางวัตถุดิบ) แต่ก็อย่าไปปักใจอะไรมากจนเกินไปครับ
Quote from: klao on 06 October 2008, 12:38:50 am
ปรีแอมป์หลอดนี่ ถ้าไม่ใช่พวก ARC รุ่นใหม่ ๆ ที่บอกอายุคงเหลือของหลอดนี่ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนหลอดตอนไหน หรือเปลี่ยนตอนมันขาดแล้วเสียงไม่ออกครับผม ปกติเปลี่ยนกันกี่ปีหนครับ?
แล้วเปลี่ยนที่หนึ่ง ๆ แพงไหมครับ ถ้าเราเปลี่ยนเป็นของเดิม ๆ (ทราบว่ามีหลายรุ่น หลายแนวเสียง หลายราคา ให้ลอง) ตอนนี้ผมมอง ModWright LS 36.5; E.A.R. 868; กับ VAC Sigma แต่ก็ไม่รู้ว่าหลอดที่เขาใช้ราคามันแพงกี่มากน้อย และก็ยังกลัว ๆ เพราะทั้งสามเจ้าไม่มีผู้แทนจำหน่ายในไทย จะหาคนซ่อมให้ยากรึเปล่าไม่รู้ เอ หรือเล่นยี่ห้อที่มีตัวแทนดีครับ?
ได้ยินมาด้วยว่าเปิดปิดแอมป์หลอดบ่อย ๆ อาจทำให้อายุหลอดสั้นกว่าเปิดไว้ต่อเนื่อง ควรจะปิดก็ในกรณีที่กะจะไม่ใช้สัก 2-3 วันขึ้นไป จริงป่าวครับ?
งบประมาณจวนเจียนจะออกแล้ว เลยคิดหนักครับว่าจะเอาอย่างไรดี ปรีหลอด หรือปรีโซลิด หรือ Pre/Pro ซะเลยสะดวกดี แต่ไม่ต้องคิดมากเรื่องเสียง pure analog stereo ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลและความเห็นครับ
ไม่ต้องกังวนเรื่องการใช้เครื่องหลอดครับ ในนี้มีคนให้คำแนะนำได้แน่ๆ ผมมั่นใจ
ESL ต้องหลอดครับถึงจะสุดยอด (ในความรูสึกส่วนตัวผมนะครับ)
Quote from: klao on 14 September 2008, 10:39:30 pm
นำเสนอ Wyred 4 Sound SX-1000 จาก California ซึ่งเป็น ICE-based Class D เหมือนกัลย์ ราคาดี และกำลังจะมี review ใน 6moons.com ครับ อันนี้ไม่น่าจะมี VAT ครับ แต่เรื่องค่าส่งกับการ declare มูลค่า คงต้องคุยกันเอง รายละเอียดเพิ่มเติมตาม link ครับ ส่วนผมอาจจะรอ 2nd hand จะได้ราคาถูกกว่านี้ลงไปอีก :yahoo:
http://www.wyred4sound.com/ICE_CUBE_200SX/Icecube200SX.html
http://www.6moons.com/audioreviews/wyred/monos.html
http://www.ultimateavmag.com/amplifiers/808wyred/index.html
http://www.positive-feedback.com/Issue39/wyred4sound.htm
http://www.10audio.com/wyred4sound_st1000.htm
กัดฟันสั่งไปแล้วครับ 1000W monoblocks 1คู่ ราคา $2,500 รวมจัดส่งและ upgrade binding posts กับ RCA sockets เป็น WBT nextgen copper
ซุ่มเสียงเป็นไง เดี๋ยวของมาแล้วและยืม NAD integrated จากบ้านพี่สาวมาทำเป็น preamp มาได้ จะรายงานให้ทราบอีกครั้งนะครับ
มาครบแล้วครับ ทั้ง pre (passive/active design) และ power amp class d แต่พอครบลำโพงก็ tweeter ขาด เพิ่งซ่อมกลับมาให้ได้ฟังแต็มชุดแค่ 2 วัน
first impression ถือได้ว่าดีกว่า integrated krell เดิม เพราะรายละเอียดและ image depth ดีกว่า กำลังวังชาเหลือ ๆ และฟังสบายหูกว่าเยอะครับ โดยเฉพาะเวลาดนตรีดัง ๆ แต่ตอนนี้ถ้าให้เทียบกับ Bryston ที่เคยอยากได้ รู้สึกว่าไอ้ class d นี่มันยังขาดความฉ่ำ ความเกือบเสมือนจริงของ class a/b หรือแอมป์หลอดตัวใหญ่ ๆ หวังว่าเล่นไปซักพักพ้นเบิร์นอินจะดีขึ้นบ้าง แต่ค่าตัวถูกกว่าเขา 1 ใน 3 ก็ถือว่าสมน้ำสมเนืิอครับผม พอเพียง ๆ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_1593.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_1594.jpg)
น่าสนใจจริงๆครับ ดีใจด้วยที่เสียงถูกใจครับ
อย่าลืมรีวิวเต็มๆให้อ่านกันบ้างครับ
Quote from: dht_tubes on 20 May 2009, 04:33:19 pm
น่าสนใจจริงๆครับ ดีใจด้วยที่เสียงถูกใจครับ
อย่าลืมรีวิวเต็มๆให้อ่านกันบ้างครับ
เท่าที่ผมได้ฟังเพิ่มเติม เสียงแอมป์ class-d คู่นี้ก็ใกล้เคียงกับผลรีวิวของฝรั่งตาม link ด้านล้างครับ
http://www.avguide.com/review/tested-wyred-4-sound-sx-1000-and-bel-canto-ref-1000-mk-ii-monoblocks
http://www.sixmoons.com/audioreviews/wyred/monos.html
http://www.10audio.com/wyred4sound_st1000.htm
http://www.positive-feedback.com/Issue39/wyred4sound.htm
ปลื้มมากครับ preamp เสือใบ (passive/active) ของผมได้รางวัล Blue Moon แห่ง 6moons.com โดยนาย Srajan เขาว่าเสียงละม้ายคล้ายปรีแอมป์หลอดซะด้วย :jump:
http://www.sixmoons.com/audioreviews/wyred2/preamp.html
และสำหรับท่านที่สนใจ นี่เป็นอีกริวิวสำหรับแอมป์ class D โดย Wyred4Sound ครับ
http://www.audiophilia.com/wp/?p=1840#more-1840
ขอบคุณครับคุณ klao
กำลังเล็งๆ ว่าจะซื้อแอมป์โซลิทซักตัวให้ญาติๆ กันเล่นครับ ราคามันน่าสนใจดีและก็ดูยืดหยุ่นดีในการจัดชุด
เมื่อเข้าประจำการแล้ว ชุดคุณเกล้าเหมาะไปทางเพลงจำพวกใหนเป็นพิเศษใหมครับ
อยากฟังข้อมูลจากคนเล่นจริงๆ ผมไม่เชื่อนักวิจารณ์ซักเท่าไหร่
B&O's ICEpower เป็นของเล่นที่น่าสนนา น้องทิ้วป์
ไม่ลอง DIY ซักตัวล่ะ
http://www.wimdehaan.nl/printable/variousamps/icepowerclassd/
Quote from: pee on 17 July 2009, 06:04:50 pm
B&O's ICEpower เป็นของเล่นที่น่าสนนา น้องทิ้วป์
ไม่ลอง DIY ซักตัวล่ะ
http://www.wimdehaan.nl/printable/variousamps/icepowerclassd/
ก็ว่าจะอยู่เหมือนกันนี่แหละครับพี่
ประวัติของเพาเวอร์ตัวนี้ น่าสนใจจริงๆ เป็น dissertation ตั้งแต่ 1994
จากนั้น B&O ก็เลี้ยงต้อยเรื่อยมาจนเดี๋ยวนี้กลายเป็นมาตรฐานไฮเอนด์ไปได้
แถมไม่ขายปลีกแหน่ะ
จะซื้อต้องหาหนทางเอง แต่ก็ไม่พ้นมือนักทำเอง.......แฮ่ม
ตอนทำอย่าลืมเรียกใช้ จะขอเป็นลูกมือวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้นะครับ
มิบังอาจขอรับ
ผมเชื่อลึกๆ (ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำนี่แหละ) ว่า เสียงของแอมป์แบบนี้ จะดีหรือไม่
POWER SUPPLY ที่เหมาะสมเป็นจุดตายของมันอย่างแน่นอน
จะพยายามดูครับ
ภาค input เป็นพริกน้ำปลา :P
ลองแว๊บไปสวรรค์
ปรึกษา Julian Vereker เรื่องนี้ดู
Quote from: pee on 17 July 2009, 06:04:50 pm
เมื่อเข้าประจำการแล้ว ชุดคุณเกล้าเหมาะไปทางเพลงจำพวกใหนเป็นพิเศษใหมครับ
อยากฟังข้อมูลจากคนเล่นจริงๆ ผมไม่เชื่อนักวิจารณ์ซักเท่าไหร่
ตอนนี้คิดว่าชุดใหม่นี้เริ่ม burn in ได้มากขึ้น เสียงดีขึ้นหน่อยแล้วครับ แต่แผ่น CD classical อยู่ที่บ้าน ตจว. ทั้งหมด เลยยังไม่ได้ลองฟังเพลงทุกประเภทครับพี่ Pee
เท่าที่ได้ฟังเพลง light/pop jazz พวก Stan Getz, Lee Ritenour, Sadao Watanabe, Michael Franks หรือ Earl Klugh กับ pop/rock เบา ๆ ที่ arrangement มีชั้นเชิงหน่อย เช่น Lionel Richie, Roberta Flack, Randy Crawford, Sting, และ U2 ต้องบอกว่าประทับใจในรายละเอียดต่าง ๆ ว่าออกมาได้ชัดขึ้นกว่าสมัยใช้ integrated ของ Krell มากครับ ทำให้เชื่อว่าหากฟังดนตรีประเภท chamber ที่มีอะไรกุีกกิ๊กหยุมหยิม น่าจะเพลินดี
ไว้ขึ้นไปเชียงใหม่เที่ยวนี้กลับมาจะติดแผ่น chamber ลงมาด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าแอมป์ชุดนี้เรื่อง timbre ของเครื่องดนตรีแบบ acoustics จะเป็นอย่างไร
ส่วนดนตรีวงใหญ่ ๆ คงถูกจำกัดด้วยสภาพห้องเล็ก ๆ ของผมมากกว่าเครื่องเสียงครับ ทว่า ไว้ภายหลังลองหา subwoofer มาช่วยได้แล้ว จะลองทดสอบด้วย Mahler กับ Bruckner เสียให้เพื่อนบ้านทาว์นเฮ้าส์ที่ติดกัน ค้อนเวลาเจอหน้า :sulk: ฮิ ฮิ
Quote from: dht_tubes on 17 July 2009, 08:18:01 pm
Quote from: pee on 17 July 2009, 06:04:50 pm
B&O's ICEpower เป็นของเล่นที่น่าสนนา น้องทิ้วป์
ไม่ลอง DIY ซักตัวล่ะ
ก็ว่าจะอยู่เหมือนกันนี่แหละครับพี่
ยินดีให้ยืมเครื่องไปแกะและศึกษาดูนะครับ บอกมาละกัน
เตือนไว้ก่อนว่าน็อตมันหลายตัวมาก แถมทั้งถอดทั้งประกอบก็ยาก ช่างที่ผมใช้ให้เปลี่นฟิวส์ สายไฟ และ inlet บ่นอุบมาแล้วครับ
Quote from: dht_tubes on 17 July 2009, 05:23:57 pm
ขอบคุณครับคุณ klao
กำลังเล็งๆ ว่าจะซื้อแอมป์โซลิทซักตัวให้ญาติๆ กันเล่นครับ ราคามันน่าสนใจดีและก็ดูยืดหยุ่นดีในการจัดชุด
ยินดีครับ ... เห็นทาง W4S แว่วออกมาว่ากำลังจะออก Reference Series รุ่นใหม่ในเดือนสองเดือนนี้ มาสู้กับ Bel Canto Ref Mark II หลักใหญ่ใจความคือปรับปรุง input stage กับ power supply ก็อย่างที่คุณ dht_tubs ทราบดี
http://www.avsforum.com/avs-vb/showthread.php?t=1005943&page=25
ในกรณีของแม๊กกี้นั้น ผมสนใจอยู่สองประเด็นคือ
ขนาดของเสียง ซึ่งรวมถึงความสดสมจริงของเสียงด้วย
กับการถ่ายทอดแรงปะทะ ที่เป็นพลังงานฉับพลัน
ขอยกตัวอย่างก็คือ การเริ่มต้นของเพลง spinning wheel ของ BS&T
http://www.youtube.com/watch?v=qi9sLkyhhlE
เสียงแผดจากทรัมเปตนั้น 57 จะทำได้เหมือนจริงมาก โดยที่ไม่แสบหู
จะบอกว่าเกือบจะจำลองลมที่พุ่งออกมา ประมาณนั้นเลย
และตอนจบเพลงนั้น ก็ให้รายละเอียดเสียงหยอกล้อของนักดนตรีอย่างมีมิติน่าประหลาดใจ :wow:
เหมือนเขายืนอยู่ไกล้ๆ เรา
การที่แม๊กกี้เป็นลำโพงที่รับประทานวัตต์ขนาดหนัก ย่อมจะทำได้ไม่เด่นเท่ากับ 57
(57 ต้องการกำลังแค่พุชพูล สามสิบสี่สิบวัตต์ เท่านั้น)
นี้ว่าตามประสบการณ์ที่เคยฟังจาก(อดีต)ชุดเก่งของคุณหมอ
แต่ผมเชื่อว่าถ้าแอมป์ถึง ทำได้แน่นอน
ส่วนเรื่องเบสนั้น ถ้าได้มาแบบดัดจริตไม่จริงใจ อย่าเอาเข้ามาแปดเปื้อนเลยครับ
อ้อ
เรื่องแผ่นเทสต์นั้น ถ้าคุณ jtr หรือคุณ sw บังเอิญแวะมาอ่าน
กรุณาก๊อปซีดีรัสเซียและบาโรค ส่งให้น้องเกล้าฟังแก้เหา เอ้ยเหงาด้วย
คิดว่าน่าจะช่วยเรื่องการจูนเสียงได้ดีพอสมควร :thumbup:
ต้องรบกวนเพราะทั้งบ้านผม ไม่มีแผ่นซีดีเปล่าเหลือเลย
แผ่นนี้รึเปล่าครับ Russians Are Coming พรุ่งนี้จัดการให้ครับ
บาโร๊ค ใช่แผ่น Invitation รึเปล่าครับ
โอ้
ทันใจดีจัง :yahoo:
II Early Sound
VIII Russians Are Coming
.........ถูกต้องแล้วครับ
ถือว่าอภินันทนาการที่หนับหนุนโครงการสามสิบยังแจ๋ว สองปีซ้อน :cheer:
ช่วยส่งที่อยู่ให้คุณ sw ด้วยนะครับ
Early Sound จะเด่นที่แอมเบี้ยนและทิมเบรอะ รวมทั้งรายละเอียดด้วย inner detailed แพรวพราว
Russians Are Coming ก็ตามชื่อละครับ ตั้งรับไม่ดี พ่ายแพ้ราบคาบ มันมาเป็นกองทัพ
ทั้งไดนามิค ทั้งคอนทราสต์ และความสมจริง อ้อ ใช้สอบความสูงของสนามเสียงได้อีกด้วยแหนะ
แผ่นเดียวตรวจได้หลายอาการ
ค่าแรงคุณ sw เดี๋ยวจ่ายให้อย่างงาม 555555
==========================
II Early Sound
01 Gregorian Chant (Ca.1500) Puer Natus Est Nobis
02 Monterverdi (1567–1643) Sonata a 8 sopra
03 Monsieur de Sainte-Colombe (ca.1640-1700) Pieces pour viole de gambe
04 John Playford's Dancing Master (1651-1703) 3 Tunes
05 Jean-Fery Rebel (1666-1747) Sonatas
06 Vivaldi (1678–1741) Sonata in E minor, RV 40
07 Vivaldi (1678–1741) Ouverture zur Oper ''L'Olimpiade''
08 Georg Philipp Telemann (1681-1767) Concerto pour flute traversi่re, cordes et basse continue
09 Bach (1685-1750) BWV 846 Prelude and Fugue in C from WTC
10 Bach (1685-1750) Goldberg Variations
-------------------
VIII Russians Are Coming
01 Alexander Porfir'yevich Borodin (1833-1887) Polovtsian Dances from Prince Igor
02 Piotr Ilitch Tchaikovsky (1840-1893) Capriccio Italien Op. 45
03 Modest Mussorgsky (1839-1881) Tone Poem; Night on the Bare Mountain
04 Nikolay Andreyevich Rimsky-Korsakov (1844-1908) Spanish Rhapsody
05 Nikolay Andreyevich Rimsky-Korsakov (1844-1908) Scherazade, op.35, The Sea and Sinbad's Ship
06 Sergei Vasilievich Rachmaninoff (1873-1943) Rhapsody on a Theme of Paganini, 18th Variation
07 Sergei Sergeyevich Prokofiev (1891-1953) Romeo and Juliet; Montagues and Capulets Dance of the Knights
08 Dmitri Dmitriyevich Shostakovich (1906-1975) Symphony No 08, Op 65
09 Aram Il'yich Khachaturian (1903-1978) The Sabre Dance from ballet Gayane
ขอบพระคุณทั้งพี่ pee และพี่ sw ล่วงหน้าสำหรับแผ่นครับ
ถ้าไม่รังเกียจบ้านเล็ก ๆ รก ๆ ของผม สงสัยวันหลังต้องอัญเชิญพี่ ๆ เพื่อน ๆ สมาชิกมาช่วยกันฟัง น่าจะดีกว่า ผมวิจงวิจารณ์ไม่ใคร่จะเก่งครับ อ้อ นั่งฟังกันทีละได้ไม่เกิน 2 คนนะครับ ถึงแม้โซฟาจะนั่งได้ 3 เพราะมันจะ off center ไปพอสมควร
เรื่องซับฯ นั้น จะพยายาม set ให้เนียนที่สุดสำหรับการฟังเพลงครับ ถ้าไม่เวิร์ค คงเอาไว้ดูหนังเป็นหลัก
ไม่ยาก ไปหกคน นั่งหน้าบ้านเสียสี่ สลับกันฟัง
แฮ่ม
ยินดีรับคำชวนครับ ใครจะใจบุญพาผมไปส่งได้ล่ะ
----------------
เรื่องเสียงทุ้มนี้ ผมพบปรากฏการณ์แปลกเมื่อเล่นกับลำโพงเต็มผนัง
เดิมผมจัดวาง SoundWall ไว้แค่ 14+1 (1 คือซับลูกเล็กๆ) เสียงก็ใหญ่โตฟังอร่อยอยู่พอประมาณ
อยู่มาวันหนึ่ง คุณ trens ก็หิ้วลำโพงลูกเต๋ามาเติมอีกสี่ลูก
ก็นึกว่าดุลย์เสียงคงออกไปทางแปร๋นตามนิสัยของลูกเต๋าทั้งสี่ ปรากฏว่าผิดถนัดครับ
เสียงเล็กๆ ของลูกเต๋ากลับมาเพิ่มเสียงทุ้มให้แน่นขึ้น สะอาดขึ้น รับรู้ง่ายขึ้น
หมายความว่า ความถี่ที่ประมาณหมื่นกลางๆ (ผมเดาว่าลูกเต๋าพวกนี้คงให้ได้แค่นี้)
จะมาเสริมให้ความถี่ที่ห้าหกพันลงไป มีคุณภาพยิ่งขึ้น
เปรียบเหมือนถ้าเพิ่มทวีตเตอร์ ทุ้มจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
อีกประการหนึ่ง เมื่อผมใช้ไบแอมป์ขับเจ้ากระป๋องแพลตตินั่ม
ปรากฏว่า เสียงจากทวีตเตอร์นั้นเบามากๆ แต่ขาดไปไม่ได้เลย ยิ่งเร่งดังเสียงทุ้มยิ่งเป็นตัวตน
ดังนั้น เทคนิคในการเค้นเสียงทุ้มในระบบให้โดดเด่น
กลับกลายเป็นการหาทางเติมเสียงแหลม(แฮะ) แล้วทุ้มจะได้มาเอง
ส่วนทุ้มที่ผมคุ้นนั้น ไม่ใช่จากพวกกลองหรือดับเบิลเบส แต่เป็นเครื่องเป่าครับ
เครื่องพวกนี้สร้างเสียงทุ้มที่พิเศษมาก ลงลึกและต่อเนื่องดีจริงๆ
เหล่าออดิโอไฟล์ลองหาแผ่นของ ma recordings มาลองฟังดู ที่เคเอส(แขก) คงยังมีเหลืออยู่
http://www.marecordings.com/main/product_info.php?cPath=26&products_id=48
ในแผ่นนี้จะมีแทรคหนึ่งใช้ทูบาสร้างเสียงเลียนปลาวาฬ ใครบ้าเบสขอบอกว่า อย่าพลาด
ส่วนคลิบเวิล์ดมิวสิคนี้ แถมให้ดู บรูส สตร๊าค คนแต่งและเจ้าของอัลบั้ม เล่นเปียนโนอยู่
http://www.youtube.com/watch?v=kyIvpjret-w
http://www.youtube.com/watch?v=0p8MOgUbXRU
คลิบสองนี่ ขลิบทั้งเพลง ถ้าเครื่องไม่ดีพอ
แต่เชื่อว่าชุดของคุณเกล้า น่าจะเอาอยู่
ขอชื่อที่อยู่คุณ klao ด้วยนะครับ ทาง pm ก็ได้ พอดีเช้านี้ต้องไปส่งของที่ไปรษณีย์ ถ้าทันจะส่งแผ่นไปด้วยเลย
เผาด้วย Nero ที่ 40x เสียงจะเป็นไงก็ไม่รู้ ผมพวกโลเทคครับ
โอ้ มาย ก็อช
ทำไมน้องเจ ไม่มีแผ่นที่พี่พีว่าอ่ะคับ
แงๆๆ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นหวัดตอนนี้
ก็อยากไปครับ :sick:
เจี๊ยก.......
แมสเซ็นเจอร์เบี้ยว
เคลียร์กันเองนะท่าน
ชุดนี้มี ๘ แผ่น คัดเพลงคลาสสิคเพื่อการเซ็ทอัพระบบ
ตามคำสั่งซื้อของท่าน sw ฟังแล้วจะได้ให้แต้มชุดตัวเองถูก
(หวังว่า นะครับ ไม่รับประกันคุณภาพ แหะๆ)
คร่าว ๆ ว่าขอเชิญเป็นช่วงหลังจากกลางเดือน ส.ค. ไปแล้วละกันนะครับ
เพราะช่วงต้นเดือน ท่าน ผบ.สุดที่รักของผมจะเดินทางไป ตปท. ไม่อยู่บ้าน เดี๋ยวไม่มีคนช่วยเก็บของ & รับแขก :P
อ้อ บ้านผมเป็นทาว์เฮาส์ 3 ชั้น หากเก้าอี้ไม่พอ นั้งบันไดกันก็ละกันนะครับ มีหลายขั้น
รับแซ่บครับ
ลงนามจองหนึ่งที่นั่ง ..........
ขอบคุณล่วงหน้าอีกตั่งหาก
Quote from: pee on 21 July 2009, 03:01:30 am
เหอๆๆๆๆๆ..........
ร้านน่ะเล็ก ใช่
ทำเลเงียบ....ก้อใช่
แต่
ขอประทานโทษนะครับ
แกเลอรี่นี้ คนที่ไม่รู้จัก ไม่ควรบอกว่าตัวเองอยู่ในแวดวงศิลปะ
ส่วนคนที่รู้จัก ก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองอยู่ในแวดวงศิลปะ
(เพราะระดับตัวเองมันเขย่งไม่ถึงอ่ะ)
ใหนๆ ก็เจอตัว ดีละ ทำไมไม่จัดนิทรรศการให้อาจารย์อวบสักครั้ง ทำให้สุดใจขาดดิ้นไปเลย
ขอใช้หอศิลป์แห่งชาติ รับประกันไม่พลาด เพราะอาจารย์ช่วยกรมศิลป์ไว้มากมาย
ทั้งนี้ทั้งนั้น งานที่อาจารย์อวบทำไว้ เทียบไปแล้วก็ดีกว่าศิลปินแห่งชาติกว่าครึ่ง
นอกจากนั้น ก็อยากให้อาจารย์อวดฝีมือถ่ายรูปที่เจ๋งหนึ่งไม่มีสอง
อยากให้เป็นศิลปินแห่งชาติครับ เว้ากันซื่อๆ เห็นด้วยใหมครับ
ตอนปลายปี 50 ต้นปี 51 จัดให้อาจารย์เนื่องในโอกาสอายุครบ 72 ปีไปแล้วครับพี่ที่ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าฯ เข้าใจว่าสมาชิกบางท่านได้กรุณาแวะเข้าไปชม หางานอาจารย์มาแสดงได้ 270 กว่าชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยืมมาจากท่านผู้มีอุปการคุณ เหนื่อยกันพอสมควรครับ แต่ก็ชื่นใจที่หลาย ๆ คนที่ไปชมแล้ว (บางคนไป 3-4 เที่ยว) ชอบผลงานของอาจารย์อวบ http://www.rama9art.org/artisan/2007/november/uab_sanasen/index.html
ไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ หรือศิลปินผู้สร้างสรร แต่เป็นช่างเขียนที่ (หลาย ๆ ศิลปินใหญ่เขาหาว่า commercial ไม่มีจิตวิญญาณ) คนที่ได้ซื้องานไปติดบ้าน/ได้ดู แล้วมีความสุขกับความงาม คุณพ่อผมท่านก็ปลื้มแล้วครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/silps.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/silp2s.jpg)
นิทรรศการแบบนี้ เหมือนประกาศว่าจะล้างมือในอ่างทองคำ
ผมเห็นว่าท่านเป็นศิลปินที่ยังแอคถีพครับ
จะศิลปินไม่ศิลปินไม่รู้ละ
ดูเพลินกว่าอีกครึ่งค่อนประเทศละกัน
Quote from: pee on 21 July 2009, 08:58:42 am
พ่อเพื่อนผม (ขอประทานโทษที่จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว) นามสกุลมากไมตรี เล่าว่า เป็นเพื่อนถ่ายรูปมากับอาจารย์ ชวนกันไปถ่ายรูปอาจารย์ฝรั่งประจำ ถ้าไปถามใครในทุกวันนี้ มักจะบอกว่ารูปศาสตราจารย์ศิลป์ อาจารย์พูนเป็นผู้ถ่าย ในฐานะที่เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ ควรบ่งชี้ก่อนที่จะเลือนหายไป
ผมยังทราบมาอีกว่า รูปถ่ายสวยๆ ที่อาจารย์ยูรท่านใช้ในบทความรุ่นแรกๆ (ก่อนประจำการที่เมืองโบราณ)
ก็ฝีมืออาจารย์อวบเหมือนกัน สุดท้าย ก็อาจารย์เฟื้อเอง ที่บอกกับผมว่าเวลาเดือดร้อนเงินขาดมือ ก็ได้อาจารย์อวบเป็นธุระในการทำให้งานของท่านกลายเป็นเงินมาใช้จ่าย
ผลงานของอาจารย์อวบนั้น ใครจะวิจารณ์อย่างไรก็แล้วแต่ แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ก็คือ
เป็นงานที่วางรากฐานวิชาชีพช่างเขียนให้กับคนรุ่นต่อมา เป็นมาตรฐานขั้นสูงเสียด้วย
นานมาแล้ว พี่สนิท คิ้วฮกเอางานอาจารย์มาอวดอย่างภูมิใจว่า ได้รับความเมตตาให้มาร่วมแสดง
เป็นงานที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งในงาน อ้อ สองชิ้นสิ ............ยังจำติดตามาถึงทุกวันนี้
ถ้าทำอะไรให้ส่วนรวมมามากขนาดนี้ แล้วจะบอกว่ามีความสุขในสิ่งที่ทำนั้น ผมเห็นด้วยครับ :thumbup:
แต่ทำงานมากขนาดนี้ แล้วไม่ได้รับเกียรติอย่างที่ควรจะได้รับ ผมว่าประเทศเราขาดทุนแฮะ :thumbdown:
ทุกวันนี้ ศิลปินแท้กับศิลปินปลอมมันปนกันจนป่วยการจะแยกแยะ ขอของจริงเข้าทำเนียบสักคน คงไม่ใช่ความต้องการที่เกินเลยกระมัง :wacko:
ปล
ใจหายที่คิดว่ามีการจัดงานหกรอบให้ใครก็ตาม คือผมคิดถึงอาจารย์เหมือนคนเป็นๆ อะครับ
แม้ว่างานของท่านจะไม่ใช่ชาแก้วโปรดของผม (ผมคอกาแฟครับ ลิ้นไม่ถึง....กรรม)
ฝากขอร้องท่านว่า อยากเห็นงานที่ท่านทำเพื่อประชันกับ Dali สักชิ้น ตอนนั้นแหละ ผมจะหัดดื่มชาให้ได้
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
เท่าที่อาจารย์เล่าให้ฟังและถูกบันทึกไว้โดยอาจารย์ พิษณุ ศุภ.ในหนังสือ อวบ สาณะเสน 72 ปี ก็จะมีคุณอาสมบัติ วนทรัพย์ ร่วมช่วยกันถ่ายภาพอาจารย์ศิลป์ครับ ตกหล่นชื่อคุณพ่อเพื่อนพี่ pee ไป ต้องขออภัยด้วย อาจารย์คงลืมไป ในหนังสือเล่มนั้น ได้ลงรูปขาวดำของอาจารย์ฝรั่งกับอาจารย์เฟื้อฝืมืออาจารย์อวบไว้เป็นหลักฐานแล้วด้วยขอรับ ถ้าพี่พียังไม่มี ไว้ตอนมาฟัง Maggie ผมจะมอบให้เล่มนึง พี่จะได้แก้ประวัติศาสตร์ให้ถูกต้อง :)
ผมมันลูกไม้หล่นไกลต้น แถมยังค่อยเอาไหน เลยยังไม่ได้จัดการดูแล negatives กับ slides เก่า ๆ ของอาจารย์เสียที ว่าจะซื้อ scanner ดี ๆ มาเก็บเข้า file เป็น digital ไว้เหมือนกัน
ยังจำได้สมัยผมเด็ก ๆ ที่พ่อกับแม่และทีมงาน (อาจจะมีอาสนิท คิ้วฮก อยู่ด้วยก็ได้ตอนนั้น) ช่วยกันจัดนิทรรศการให้อาจารย์เฟื้อที่ศูนย์ศิลปะนวลนาง เขาเล่าให้ฟังว่างานอาจารย์เฟื้อดีขนาดนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเชียร์แขกผู้มีฐานะทั้งหลายสุดแรงให้ช่วยซื้องานท่านเก็บไว้ (เถอะแล้วจะดีเอง)
มันอย่างเนี้ยละครับ พอศิลปินไม่อยู่แล้ว ค่อยเริ่มอยากจะเห็นคุณค่าและมาขวนขวายหากัน จริงบ้างปลอมกันบ้าง ก็แล้วแต่ใครมีโชควาสนามากน้อย เฮ้อ...
ส่วนเรื่องศิลปินแห่งชาตินั้น เมื่อต้นปี 51 อาจารย์เกียรติศักดิ์ ชานนารถ ในฐานะศิลปินแห่งชาติและลูกศิษย์ที่น่ารัก ก็ได้กรุณาใช้สิทธิ เป็นธุระเสนอชื่ออาจารย์อวบเข้าไปในคณะอนุกรรมการสรรหาฯ แต่คงไม่ทันการณ์ หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คณะกรรมการชุดใหญ่ในปีนั้น ก็ไม่ได้เห็นชื่ออาจารย์ถูกเสนอขึ้นไป (ศิลปินแห่งชาติซึ่งอยู่ใน คกก.ชุดใหญ่นั้นและมีสำนักอยู่แถว ๆ เอกมัยแอบกระซิบมา)
ที่บ้านก็คุยกันเล่น ๆ เพราะไม่ได้ซีเรียสอะไร ว่าอาจารย์อวบคงได้เป็นศิลปินแห่งชาติหน้ามากกว่า เฮ... แต่ดูแนวโน้มสุขภาพท่านปีนี้ ก็อาจเป็นเช่นนั้นจริงครับ เรื่องทำงานเขียนรูปประชันกับ Salvador Dali ให้สมหวังพี่ pee ตอนนี้คงจะไม่ไหวแล้วล่ะครับ
คกก อะไรที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปินแห่งชาตินั้น เขามีลูกเล่นแยะครับ
มีการชักเข้าชักออก มีการชักคะเย่อ และมีการชักหน้าไม่ถึงหลัง
เฮ้อ........หลายชื่อต้องวนหลายรอบ บางชื่อต้องแอบเสียบ
คุณชายจักรรถท่านเคยบ่น เมื่อผมโวยวายว่าทำไมระดับอาจารย์จิตร บัวบุศย์ยังไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ
บอกว่า....เฮ้อ ท่านยา(ใจ จิตรพงศ์) ยังไม่ได้เป็นเลย เขาหาว่าท่านวางมือเลิกออกแบบไปแล้ว .... กรรม
อายุหกรอบ ยังถือว่าหนุ่มครับ ทอสกานีนี่ยังเกษียณตอนเก้าสิบกว่า
สโตกอฟสกี้ก็อัดแผ่นเสียงสุดท้าย วัยเฉียดร้อย
มองเตอะอายุแปดสิบกว่าแล้ว วงลอนดอนซิมยังเสนอสัญญา ๒๕ ปีให้
ผมเชื่อของผมว่าอาจารย์อวบจะต้องได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ ในไม่ช้านี้
ขอแต่ท่านทำงานต่อไปตามอัตภาพ
มองไปทั่วแผ่นดิน ไม่มีใครเหลือพอเหมาะสมกับเกียรติยศนี้แล้ว เว้นแต่จะยอมให้รางวัลกับศิลปินปลอมๆ
เรื่องสแกนฟิล์มนั้น ถ้าไม่รังเกียจก็ให้ลูกศิษย์ผมที่เวบ cameraeyes เขารับทำ
ผมเชื่อว่าในท้องตลาด ไม่มีมือดีกว่านี้อีกแล้ว
เรื่อง scan ฟิล์ม ขอบพระคุณและไม่รังเกียจเลยครับ เพราะหากผมซื้อเครื่องมาใช้เอง ก็คิดว่าคงงก ๆ เงิ่น ๆ ใช้ไม่ค่อยจะเป็น
พร้อมเมื่อไหร่ จะเข้าไปรบกวนลูกศิษย์พี่ แต่ขอราคามิตรภาพนะครับ
ผมเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ อ.อวบ มากไปกว่านี้ไม่ได้ชัด ๆ ครับพี่ เดี๋ยว กลต.จับ หาว่า insider กะจะปั่นราคารูป :P
เอาเป็นว่าน่าเป็นห่วงมากพอสมควรครับ เจอกันที่บ้านแล้วจะเล่าให้ฟัง
ในวงการเขาลือกันเรื่องสุขภาพอาจารย์มาตั้งแต่ท่านยังไม่เกษียณ
นี่แป๊ปเดียว ผ่านมาหนึ่งรอบนักษัตร์แล้ว การแพทย์ปัจจุบันก้าวหน้ามาก
ทั้งอาหารและยาล้วนแต่ช่วยเรื่องอายุยืนได้จริงๆ ถ้าเข้าใจกลไกของมัน
ตามที่เป็นจริงแล้ว ร่างกายมนุษย์สามารถอยู่ได้ถึงสามร้อยปี
ที่อายุสั้น ก็เพราะไม่เข้าใจ ตะบี้ตะบันใช้ เหมือนผมใช้รถยุโรปแบบรถยี่ปุ่น
ภาวนาให้ท่านอยู่ไปอีกนานๆ
เป็นหมุดเชื่อมอดีตให้ต่อกับอนาคตครับ
Quote from: sw on 18 July 2009, 02:16:13 pm
ขอชื่อที่อยู่คุณ klao ด้วยนะครับ ทาง pm ก็ได้ พอดีเช้านี้ต้องไปส่งของที่ไปรษณีย์ ถ้าทันจะส่งแผ่นไปด้วยเลย
เผาด้วย Nero ที่ 40x เสียงจะเป็นไงก็ไม่รู้ ผมพวกโลเทคครับ
เมื่อคืนได้ฟังแผ่น Russians Are Coming แล้ว ขอบพระคุณขอรับ ใช้เทสท์ระบบได้ดีครับ แต่ชุดของผมจะสอบผ่านแก้วหูของพี่ ๆ เพื่อน ๆ รึเปล่า ไว้มาฟังกันที่บ้านผมนะครับ (เดี๋ยวขอนัดคิวคุณแม่บ้านของผมให้ดีซะก่่อน)
บาง track เป็น recording ยุคเก่าที่พี่ pee นิยมเก็บใช่ไหมครับ เสียงสูงกับมิติมันไม่ค่อยเหมือน recording ใหม่ ๆ ใน track อื่น
ผมได้แผ่นพี่พีมาเดือนนึงแล้วก็ยังฟังเอาเรื่องไม่ได้ซักที เดี๋ยววันอาทิตย์ไปเอาเครื่องแล้วจะลองฟังดู
คุณ klao จัดคิวเปิดบ้านได้เมื่อไหร่ จะขอไปลองฟังแม็กกี้ด้วยคนนะครับ
แผ่นที่ผลิตให้คุณ sw วางอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า
๑ เป็นตัวแทนสำเนียง การตีความ และรสนิยมที่ดีของเพลงนั้นๆ
แต่ก็มีบางแทรค ที่ผมเห็นว่าเล่นห่วยกว่ามาตรฐาน แอบยัดไส้ เผื่อจะจับพิรุธได้
อย่างแผ่นอิตาเลี่ยน
๒ มีคุณภาพเสียง ที่พอรับได้
บางแทรคก็ระดับโฮมเมดเรคอร์ดิง แต่ฟังแล้วสด ได้ความรู้สึกร่วม เสียงอาจจะดร็อปหน่อย
ถือว่าดีกว่าการบันทึกเสียงแบบดัดจริต ใช้ของแพงๆ แต่เล่นได้ราคาถูก
๓ ความยาวพอเหมาะ เพราะต้องจัดให้ลงซีดีหนึ่งแผ่น เจ็ดสิบห้านาที โดยมีจำนวนเพลงครบถ้วนพอสมควร
แผ่นรัสเซียนี้ ที่ไฮเอนที่สุดน่าจะเป็นแทรคที่ แปดครับ บารไชกำกับ เป็นคอนดัคเตอร์ที่น่าจับตามอง
ผมคิดว่าฝีมืออยู่ะดับเดียวกับดูทั่ว แต่ทีเด็ดทีขาดนั้น ถูกใจขาร็อคแบบผม แหะๆ
อนึ่ง ลองเปิดยูถูปดูโอซาว่ะเล่นเซเบอร์ดานส์สดๆ กะวงเบอร์ลินฟิลดูเถิด
ผมดูไปด้วยความเวทนา ดาบมันบิ่นอ่ะครับเมื่อเทียบกับแทรคที่สิบของแผ่นนี้
เล่นโดยวงโนเนมจากรัสเซีย
ผมดูดมาจากที่เขาแจกเพื่อโปรโมทววง ฟังแล้วทึ่งครับ มันทำเรากระดิกเท้าได้ไม่รู้ตัว
ขออนุญาตย้ายการนัดหมาย เข้ามาในกระทู้นี้ จะได้ไม่ไปกวนกระทู้ DIY ของพี่ SW ครับ
ลืมไปว่าในซอยใกล์ ๆ บ้านผม ยังมีร้านก๋วยเต๊่ยวหมูต๋น + ก๋วยเตี๋ยวเนื่อสูตรพริกไทดำ ให้บริการ แต่ร้อนหน่อยเพราะไม่มีแอร์ฯ ครับ ถ้าเป็นฟู้ดคอร์ทในคริสตั้ล ก็จะมีอาหารมาตฐาน เช่น สกายลาร์ค ข้าวมันไก่ ก๋วยเต๊่ยวแคระ ราดหน้า ข้าวขาหมู ผัดไทย/หอยทอด เป็นต้น ส่วนสมพงษ์ อาหารอร่อย ราคาใช้ได้เลยครับ
อย่างไรก็ตาม ผมจะให้ท่าน ผบ. เตรียมจานชามไว้ใส่กล้วยปิ้งพี่ jtr ครับ :popcorn:
Quote from: klao on 12 September 2009, 07:36:28 am
Quote from: sw on 11 September 2009, 03:51:32 pm
ขอเสนอว่านัดกัน 11.30 น. เพราะว่าถ้าสั่งอาหารตอนเที่ยงเดี๋ยวจะรอนาน ส่วนร้านไหน คุณ klao แนะนำดีกว่าครับ ผมอยู่ใกล้แต่ไม่เคยทานข้าวที่คริสตัลเลยครับ ส่วนค่าอาหารจ่ายยังไงคงต้องทำตามธรรมเนียมรุ่นพี่ล่ะครับ
ในคริสตัลมีร้านอาหารไทยชื่อเสวย นั่งสบายเงียบ ๆ ดีครับ หรือถ้าชอบไทย-จีน ก็มีฮั่วเซ่งฮง แต่อาจจะเสียงดังกว่าหน่อย นอกจากนั้นก็มีอิตาเลี่ยน Scoozi ญี่ปุ่น Zen และเกาหลีจำชื่อร้านไม่ได้ (ผมไม่เคยทาน) ให้เลือกครับผม
Quote from: จ๊อด ฟุลเรนจ์ on 12 September 2009, 04:10:38 pm
ไม่รู้จะได้ไปกินด้วยรึเปล่า แต่ขอเมนท์ว่าเสวยบรรยากาศดี น่านั่ง ราคาสูงนิส... แต่รสชาติอร่อยสมราคา
Quote from: klao on 22 September 2009, 08:37:40 am
ถ้าสะดวกกัน วันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. นี้ขอเชิญพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่อยากมาฟัง amp class D กะเจ้า Maggie ที่ทาวเฮ้าส์หลังน้อย ๆ ของผมครับ
หากคอนเฟิร์ม ก็พบกันประมาณ 11.30 ที่เดอะคริสตั้ลปาร์ค (เลีบบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ส่วนจะทานข้าวกันร้านไหนก็โหวตเข้ามาได้ครับ ถ้าไม่มีเสียงข้างมาก เรายังมีฟู้ดคอร์ทเป็นไม้ตาย
สำหรับแผ่น software ที่จะนำมาลองฟังกันนั้น ได้เฉพาะ CD ซึ่งต่อตรงเข้า preamp กะ SACD และ DVD-A/V ซึ่งใช้เครื่อง Oppo ต่อผ่าน coax เข้า AV receiver เท่านั้นนะครับ :)
Quote from: pee on 22 September 2009, 02:54:58 pm
นั่งร้านจะใช้เวลา เสนอว่านั่งฟูก.....เอ้ยฟูดคอร์ต ใครกินใครจ่าย สะดวก เร็ว จะได้ฟังเพลงแยะๆ
หลังจากนั้น ค่อยมาหาเรื่องอิ่มท้องกันอีกที
เฮียทิวป์ ไปด้วยกันได้บ่
-----------------
ปล. ผมขอนำแผ่นบางแวกไปลองฟังสักหน่อยนะครับ
Quote from: dht_tubes on 22 September 2009, 04:13:57 pm
ถ้าผมไปได้ พี่ก็ต้องไปกะผมอยู่แล้ว เป็นกันชนให้วีซ่าผมผ่าน อิอิอิอิอิ
Quote from: jtr on 22 September 2009, 06:40:03 pm
ขอออกความเห็น
เราต่างคนต่างทาน Brunce กันไปเอง แล้วไปเจอกันที่ คริสตัล เพื่อไปฟังเพลง จะได้ไม่เสียเวลาครับ
เดี๋ยวจะซื้อ กล้วยปิ้ง เจ้าอร่อยไปฝาก เหล่า ส.ว. พออิ่มหู ค่อยออกมา หาอะไรทาน ตอนบ่ายๆ ร้านสมพงษ์ ก็รสชาติดี ราคาบ้านๆหน่อยครับ
ดีไหมครับ จะได้ไม่ต้องพะวง เรื่องอาหารเที่ยง ซัดเช้ามาหนักหน่อยละกัน
ซาหลุบว่า ต่างคนต่างกินกันมา เพื่อที่จะมีเวลาฟังเพลงแยะๆ นะครับ
ผมจะได้สะโล่โกเบข้างบ้านให้อิมหนำ ตั้งแต่ยังมีโกเบเต็มร้าน
จากนั้น ก็พกอาหารว่างติดตัวไป เผื่อเกิดความตะกละที่หน้าแมกกี้(ฮี่....ชูชกเข้าสิง)
ก็จะเป็นว่า ลุยตรงไปบ้านเจ้าภาพเลยอย่างตัวใครตัวมัน
เจอกันหน้าบ้านนะครับ
งั้นได้เลยครับตามอัธยาศัย ผมกะท่าน ผบ. จะได้ทาน brunch กันไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว standby ต้อนรับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ตั้งแต่ตอนเที่ยงเป็นต้นไป
รบกวนส่ง e-mail มาที่ klao@alumni.duke.edu เพื่อผมจะได้ส่งแผนที่บ้านและเบอร์โทรฯ ไปให้ครับ
ถ้าให้เจ๋ง บอกพิกัด GPRS มาเล้ย
ผมได้บอกแท็กซี่..........ฮิฮิ (ล้อเล่ง)
บอกเบอร์โทรมาทาง PM ก็พอมั้งครับ
ถามทางสองสามคำน่าจะไปถูกแระ
รับทราบข้อมูล พร้อมปฏิบัติ ด้วยความปิติยินดีอย่างสูงครับ :worshippy:
นอกจากคลาสสิคแล้ว
คุณเกล้าฟังเพลงแนวไหนอีกครับ
เผื่อจะได้ติดไม้ติดมือไป ลองฟังกันครับ
บอกมาได้เลย
ผมมันฟังมั่ว แนวตั้งแต่ ไกร์ดคอร์/เด็ธเมทัล :dracula: ยัน โซยอนชิเด :coyote: ครับ
ที่บ้านนี้มี cd แผ่น classical อยู่ไม่กี่แผ่นเองครับ ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นพวก pop/rock (หนักไปยุค 80's และ 90's ต้น ๆ) และ jazz ตลาด ๆ อีกนิดหน่อย
ช่วงหลังเสียเงินไปกับซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียง เลยยังไม่ได้เริ่มซื้อ software ใหม่ ๆ มาเพิ่ม
อยากนำแผ่นอะไรมาลอง ให้สิทธิ์เป็นของแขกผู้มาเยือนตามซำบายเลยครับ :headphone:
Quote from: jtr on 24 September 2009, 05:17:44 pm
ผมมันฟังมั่ว แนวตั้งแต่ ไกร์ดคอร์/เด็ธเมทัล :dracula: ยัน โซยอนชิเด :coyote: ครับ
ทราบมาว่าแมกกี้ไม่ค่อยถูกกะพวกเมทัลไม่ใช่รึ ^_^
เท่าที่ผมฟัง Pink Floyd กะ Queen อะไรประมาณนี้ก็พอถูไถครับสำหรับ Maggie แต่ด้วยมันไม่ใช่ลำโพง dynamic ก็อาจบางเบาไปบ้าง
น่าลองเฮฟวี่เมทัลดูเหมือนกันครับ ลืมบอกไปว่าได้ subwoofer ใหม่มาซักพัก อาจพอสู้เพลงดัง ๆ โหด ๆ ได้ในระดับนึง
ตอนนี้ มีสมาชิกที่น่าจะมาชุมนุมกันในวันอาทิตย์ดังนี้: pee, sw, jtr, dht tubes, และ blackmore ส่วนคุณ pakorn อาจจะตามมา และคุณจ๊อดฯ ยังไม่ได้รับการยืนยันครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_1790-resize.jpg)
ขาดคุณ trens ไปหนึ่งหน่อครับ จองโดยคุณ jtr
หึหึ ต้องอ่านข้อความของพ่อคนนี้ให้ทะลุ แกไม่ค่อยเหมือนใครเขา
ลำโพงที่เล่น Overture to Light Cavalry หรือ Overture to William Tell ได้
แค่เพลงสปีด หรือเดธ หรือแทรช พวกเพลงเด็กๆ จิ๊บๆ ครับ
กลัวจะขลิบเมื่อเจอ วิคตอเรีย เดอ ลอสแองเจลีสน่ะซี้
ดีเลยครับ ผมจะได้พบพี่ trens ด้วย คราวที่แล้วผมพลาดไม่ได้ไปบ้านคุณหมอ เสียดาย ๆ
ถ้าพี่ pee ทำแอมป์ผมคลิป หรือฟิวส์ลำโพงขาด ต้องช่วยบอกท่าน ผบ.ผมด้วยนะ ว่าอุปกรณ์ยังไม่เข้าขั้น อนุมัติงบฉุกเฉินกระตุ้นเศรษฐกิจด่วน ;)
ชุดที่ทำให้คุณ sw ในแผ่นเศษฝรั่ง มีอยู่แทรคหนึ่ง Gounod-Bach : Ave Maria
ประมาณนาทีที่ ๒.๒๒ ชุดไม่ถึง ขลิบเห็นๆ เลยครับ
ไม่ทราบว่าคุณ sw ผ่านจุดนี้สะบายใหม
ส่วนแผ่น A Perfect Decade 1944-1954 แทรคคาลัสร้องคู่ดี สเตฟาโน จากทอสก้า
แถวๆ นาทีที่สิบสามลงไป ก็ฟ้องเหมือนกัน
เรื่องทำของเสียนี่ ถนัดอยู่แล้ววว :cop:
เดี๋ยวก็รู้ครับ ว่าผบ ทบ ท่านจะสั่งตัดสัมพันธไม้ตรี หรืออนุมัติงบติดเขี้ยวเล็บ
เห็นมีซับด้วย งั้นผมขอเอาแผ่นร็อคเสียงดีไปลองซักแผ่น :wacko: แต่จะไม่เปิดดังมากหรอก แค่ฟังดูบุคคลิก เกรงใจทั่นผบ. ผมไม่มีตังค์ซ่อมลำโพงให้ด้วย
Quote from: pee on 25 September 2009, 09:09:32 am
ชุดที่ทำให้คุณ sw ในแผ่นเศษฝรั่ง มีอยู่แทรคหนึ่ง Gounod-Bach : Ave Maria
ประมาณนาทีที่ ๒.๒๒ ชุดไม่ถึง ขลิบเห็นๆ เลยครับ
ไม่ทราบว่าคุณ sw ผ่านจุดนี้สะบายใหม
ส่วนแผ่น A Perfect Decade 1944-1954 แทรคคาลัสร้องคู่ดี สเตฟาโน จากทอสก้า
แถวๆ นาทีที่สิบสามลงไป ก็ฟ้องเหมือนกัน
ผมฟังได้ดีนะครับ ทั้งสองแทรคนี้ฟังหลายรอบแล้ว
รูปสวย + เสียงดี เป็นสุนทรียศาสตร์อย่างแท้จริงครับ :thumbup: :thumbup:
ขอบคุณมากๆๆครับ
ผมจะไปเจอได้จากที่ไหนอีกเนี่ย :dizzy: ชอบจริงๆๆ
เมื่อวาน ฝนตกหนักมากๆ ที่อ่อนนุชครับ
ขอบคุณ ท่านเจ้าของบ้านผู้น่ารักทั้งสองครับ
โอ๊ะ ทั้งสาม ซิครับ
สำหรับฟังในบ้านแบบนี้ ลำโพงแม็กกี้ สวยสง่า และเสียงเป็นธรรมชาติ ผ่อนปรนที่สุดๆแล้ว
การฟังในชั้นลอย ไม่ถูกอาณาเขตของผนังห้อง มาจำกัด
และการใช้งานที่เป็นอิสระ
นั่งดูหนัง
นอนฟังเพลง
แปรงขนลูกชาย
...
ชุดนี้ ห้ามเปลี่ยนไรแระ :thumbup:
ส่วนไอ้ความคิด จะเอาไดนามิค บรรยากาศ มิติเวทีเสียง ไอ้พวกพรรค์นั้น
ไม่คุ้มกับ ความสบายๆ ความปลอดโปร่ง อย่างที่เป็นอยู่ครับ
อาจจะลอง ความหวาน จากเครื่องหลอด ได้อีกนิด เพื่อความสมบูรณ์ ในเนื้อเสียง
ส่วนสุนทรียะทางสายตานั้น
บอกได้สั้นๆว่า
"บุญตาแท้ๆ"
ก่อนอื่น ก็ขอขอบคุณเจ้าของบ้านที่น่ารักมากๆ สำหรับการต้อนรับขับสู้พวกกระผม
:worshippy: :worshippy:
กาแฟหอมกรุ่น สุนทรียภาพทางสายตา และสมอง ที่มาพร้อมทั้งเจ้าของภาพอันมีค่า ผู้พาชมอย่างเต็มที่ และท่านอาจารย์เราเป็นผู้แนะนำอีก
ผมคิดได้คำเดียวว่า "อิ่ม" ครับทั้งกายเนื้อ และอิ่มเอมจิตใจ
โดยเฉพาะภาพแรกที่ผมเห็นปุ๊บ สะดุดตาและใจเป็นอย่างมากครับ :heart: :heart:
เรื่องเครื่องเสียง ถ้าไปถามนักเล่น ออดิโอฟาย ฯลฯ ผมก็ไม่ทราบว่าจะบอกกันว่าอย่างไร :headphone: :headphone:
แต่ถ้าถามผมว่าให้ที่บ้านผมมีพื้นที่และชุดที่เอาไว้ฟัง แบบนี้เอามั๊ย
ตอบได้ทันควันว่า ไม่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงครับ
ผมรู้จักศิลปินมาก ไปบ้านพวกเขาก็มาก
แต่ไม่เคยไปบ้าน "ลูก" ศิลปินมาก่อน
ไปมาแล้วบังเกิดความประทับใจ แต่คนอื่นที่ไปด้วยอาจจะไม่รู้สึกอย่างที่ผมรู้สึก คงไม่ว่ากัน
ในยุคของผม การเป็นศิลปิน หรือเรียกอย่างถุกต้องกว่าว่า ช่างนั้น เป็นสภาวะที่เหลือลำเค็ญ
ตามคำพังเพยก็คือชักหน้าไม่ถึงหลัง เอาตัวรอดเองยังยาก อย่าว่าแต่จะมีครอบครัวและมีลูกเต้าเป็นตัวเป็นตน
ผมจึงคิดอยู่เสมอมาว่า คนที่ซวยกว่าศิลปิน เห็นจะเป็นลูกศิลปินนั่นแหละ
มาเที่ยวบ้านคุณเกล้า จึงทราบว่า เข้าใจผิดถนัดแฮะ
ส่วนข้อนี้ ไม่รู้จะเกี่ยวกับการเป็นลูกศิลปินหรือเปล่า เพราะเกี่ยวกับรสนิยม
ขอบอกว่า วิธีที่คุณเกล้าและผู้บัญชาการจัดการกับชุดดูหนังฟังเพลงนี่ เหนือชั้นและมีค่ามาก
คือทำให้การเล่นเครื่องเสียง เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตปกติในบ้านของเราเอง
ไม่ใช่แยกตัวออกไปซุกอยู่ในหีบเล็กๆ ที่เรียกกันว่าห้องฟัง แล้วในห้องนั้นก็ทำเหมือนเป็นโลกลี้ลับ
มีแต่ข้อห้าม ห้ามขยับโน่น ห้ามแตะนี่ ห้ามเปลี่ยนแปลง ห้ามย้าย ห้ามยก
ห้ามดุกดิก ห้ามหายใจ......เออ ยังกะห้องดับจิต
เสียใจครับ มุมฟังเพลงของบ้านนี้ เป็นมุมสบายที่สุดของบ้าน เปิดโล่งเห็นไปหมดทั้งสามชั้น
มีโซฟานั่งสบายด้านหนึ่ง เก้าอี้เดี่ยวนั่งเอกขเนกหรืออ่านหนังสือ อยากดูวิก็มองผ่านหน้าต่างออกไป
อยากให้สลัวก็ปิดม่าน
เราสามารถทำตัวได้สบายๆ ระหว่างเสพย์รสแห่งสุนทรีย์ของเสียงและภาพเคลื่อนไหว
ที่สำคัญ ไม่จำกัดคนที่มาร่วมวง แยะหน่อยก็เบียดกัน หรือหลีกออกไปอีกมุม ก้อได้ยินเสียงดีๆ เหมือนกัน
หนึ่งในสิ่งที่เซ็งที่สุดในการฟังเพลงบ้านคนอื่น คือการที่ต้องเปิดประตูออกไปจากห้อง
ประตูห้องฟังเพลงนี่แหละ ที่ผมว่าเป็นตัวทำลายความงดงามของดนตรีที่เราชอบ
บ้านคุณเกล้า เป็นหนึ่งในห้องฟังเพลงที่ไม่มีประตู........แต่ก็ยังฟังเพลงได้ไพเราะ เกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้
เป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดครับ
ต้องขออภัยคุณklao และทุกท่านด้วยครับ ที่ผมพลาด(อีกแล้ว เฮ้อ) ที่ไม่ได้ไป ทั้งๆ บ้านอยู่ห่างแบบขับรถไม่เกินสิบห้านาทีน่าจะถึง เพราะกว่าจะเสร็จธุระเรื่องของลูกก็เกือบจะห้าโมงแล้วครับ .. เลยตัดสินใจไม่ไปรบกวน อีกทั้งไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของใครๆ ด้วย เลยไม่ทราบว่ากลัีบกันไปหรือยัง
รู้แต่ว่า .. แย่จริงเลยผมนี่ เฮ้ออ
Quote from: pee on 28 September 2009, 09:16:34 pm
มุมฟังเพลงของบ้านนี้ เป็นมุมสบายที่สุดของบ้าน เปิดโล่งเห็นไปหมดทั้งสามชั้น
มีโซฟานั่งสบายด้านหนึ่ง เก้าอี้เดี่ยวนั่งเอกขเนกหรืออ่านหนังสือ อยากดูวิก็มองผ่านหน้าต่างออกไป
อยากให้สลัวก็ปิดม่าน
เราสามารถทำตัวได้สบายๆ ระหว่างเสพย์รสแห่งสุนทรีย์ของเสียงและภาพเคลื่อนไหว
ที่สำคัญ ไม่จำกัดคนที่มาร่วมวง แยะหน่อยก็เบียดกัน หรือหลีกออกไปอีกมุม ก้อได้ยินเสียงดีๆ เหมือนกัน
นี่แหละในอุดมคติผมเลยละครับ ผมมีแล้วหนึ่ง คือห้องฟังที่ไม่มีประตู ไม่ว่าอยู่ตรงใหน โต๊ะกินข้าว ห้องครัว ก็ฟังเพลงได้
... แต่ยังไม่มีเครื่องเสียงให้ฟัง ฟังดีวีดีต่อกับลำโพงคอมพ์ไปก่อน
ถ้ามีโอกาสขอรบกวนคุณเกล้าด้วยนะครับ
คุณ santi และคุณ pakorn มีโอกาสที่พอจะแว้บมาได้เมื่อไหร่ บอกมาได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะการที่มีเพื่อนหลาย ๆ คนมาช่วยกันฟัง ถือว่าเป็นการเฉลี่ยต้นทุนการใช้ให้เกิดความคุ้มค่า ผมจะได้มีข้ออ้างดี ๆ กับท่าน ผบ เมื่อถึงเวลาอันสมควรในการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ ฮิ ฮิ :whistling:
ดีใจที่มีโอกาสต้อนรับและได้พบพี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนที่สละเวลามาเยี่ยมบ้านผมครับ ขนมและอาหารที่นำมาฝากก็แสนอร่อย ตอนนี้ผมกันท่าน ผบ ยังนั่งทานเข้าเม่าทอดกับกล้วยแขกที่เหลืออยู่เลยครับ :popcorn:
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_1880.jpg)
ขออนุญาตอัพเดทระบบ เพื่อทราบครับ คงอีกซักพักใหญ่มาก ๆ กว่าจะได้เปลี่ยนอะไรอีก แต่ถ้าให้แอบวางแผน คงเป็น TV กับ Bluray player
Home Theater
TV: Sony KV-HR36M61 CRT
A/V Receiver: Onkyo TX-SR805
Center & Surround Speakers: Magnepan CC3 & MC1's (85-86dB/4Ohms)
Subwoofer: JL Audio Fathom f112
Source (DVD): OPPO DV-983H
HT Cabling: Nordost Silver Screen Component; Harmonic Tech Silver S-Video; Kimber 8TC center SC; Kimber 4VS surround SCs; Stereovox XV2 Digital Coax; Harmonic Tech Pro-Silway III+ w/ Furutech FP-120F (R) RCA IC's for AVR to preamp; Furutech FA-220-50 w/ FP-701M/702F (G) XLR ICs for subwoofer; Harmonic Tech Fantasy AC-10 PC w/ Furutech FI-15(R) for DVD; Furutech FP-Alpha 3 PCs w/ Furutech FI-11(G) for AVR & w/ Oyaide P/C-079 for subwoofer
Stereo/Music (integrated with HT via preamp's bypass mode)
Amplifier: Wyred 4 Sound SX-1000 monoblocks (1,140Wpc@4Ohms)
Preamp: Wyred 4 Sound STP Special Edition (passive/active)
Speakers: Magnepan MG 3.6 (85dB/4Ohms)
CD Player: Cambridge Audio Azur 840C
Cables: Stereovox Colibri XLR IC's; Harmonic Tech Pro-9 Reference bi-wire SCs w/ WBT nextgen 0610Cu bananas at amp ends; Audience "e" PCs w/ Oyaide P/C-079 for power amps, preamp, & CDP and w/ Furutech FI-32M(G)/FI-25(G) for power conditioner
Others: Wattgate 381 wall receptacles; Magnet Audio IRG-600 power conditioner; Rezet customized racks; Shunyata Dark Field cable elevators; Caig DeoxIT & ProGold
Room: 5.40 (L) x 3.80 (W) x 3.40 (H) meters; with PRS Acoustic Wall One diffusor/isolator
Tweaks
POWER AMPS: WBT nextgen 0710Cu binding posts & 0210Cu-Ms RCA jacks; Furutech TF fuses, FI-10(G) inlets, & FP-3TS762 power wires
PREAMP: Neutrik NC3FBH1 & NC3MBH XLR jacks, WBT nextgen 0210Cu-ms RCA jacks, Kimber TCSS signal & TCX power wires, Nichicon KW caps (1st-2nd stages), Elna RFS silk caps (3rd-4th stages), PS Critical Link fuse, & Furutech FI-10(G) inlet
SPEAKERS: MyeSound stands, HiFi-Tuning fuses, & by-passed tweeter attenuators
CD PLAYER: Gingko Cloud 14A platform; Furutech FP-Alpha 3 power wires & FI-10(G) inlet; HiFi-Tuning fuse
DVD: Furutech FP-Alpha 3 power wires & FI-10(G) inlet; HiFi-Tuning fuse
AVR: Furutech FP-Alpha 3 power wires; HiFi-Tuning fuse
POWER COND: Wattgate 381 outlets; Furutech FP-Alpha 3 power wires; HiFi-Tuning fuses; and Vibrapods & cones
ได้ยินคนไปฟัง ไปเห็น กลับมาเล่าก็พอนึกภาพออกเเล้ว บ้านคงจะน่าอยู่ไม่เเพ้ที่เเม่ริมละครับ บ้านลูกศิลปิน ก็คือบ้านศิลปินด้วยเหมือนกัน การตกเเต่ง การจัดการกับบ้าน ย่อมมีความเป็นศิลป์
ขอขอบคุณท่านผบ.และคุณเกล้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น (กาแฟอร่อยมากกก)
เป็นวันที่ได้เสพทั้งทางทัศน์และทางโสต ในบรรยากาศสบายๆ
ทำให้ฟังได้ทั้งจากด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ของลำโพง เพลินดี
ทั้งนี้เพราะก่อนฟังโดนครอบด้วยศิลป ทำให้ทุกเสียงเป็น ดนตรี สุนทรีจึงบังเกิด
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
เป็นบ้านที่ประทับใจอย่างยิ่งครับ กับการต้อนรับอันอบอุ่นของเจ้าของบ้านทั้งสอง (บวกหนึ่ง) บ้านและเฟอร์นิเจอร์สวยๆ งานศิลปะของท่านอาจารย์ ซึ่งคงต้องติดตามชมต่อในโอกาสหน้าอีกนานๆ ยิ่งชมนานๆยิ่งงดงามนะครับ และซิสเต็ม ที่ทำให้กลับมาบ้านแล้วไม่ค่อยอยากฟังของตัวเองซะแล้ว
ชุดนี้ต้องขอเรียกว่า Out Of The Box ไม่มีตู้ ไม่มีกล่อง โดยสิ้นเชิง เป็นประสบการณ์แบบใหม่ของผมเลยครับ ฟังแล้วเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ท เปิดดังๆ หลับตาฟังจะไม่รู้ว่ากำลังฟังอยู่ในบ้านเลย การวางลำโพงข้างผนังตัวนึง อีกตัวไม่มีผนังข้างๆ ก็ไม่รู้สึกเอียงข้างแต่อย่างใด ใครคิดว่าต้องมีห้องฟังที่ดีจึงจะฟังเพลงได้ดี ต้องมาฟังชุดนี้ก่อน ผมฟังเปลี่ยนความคิดไปแล้วละครับ
ต้องคิดใหม่ว่าการที่จับเครื่องเสียงเข้ามาไว้ในห้องนั้น เหตุผลก็เพื่อจะไม่ให้เสียงออกไปรบกวนคนอื่นในบ้าน หรือคนนอกบ้าน มากกว่าจะเป็นการทำให้เสียงดีขึ้นนะครับ แต่การจัดวางแบบนี้ ก็เหมาะกับซิสเต็มนี้ ถ้าเป็นลำโพงตู้ ไม่รู้จะได้เสียงแบบนี้รึเปล่านะครับ
อ้อ เคยอ่านมาว่าลำโพงแผ่นอย่างแมกกี้ เล่นร็อคไม่ค่อยดี ตรงข้ามเลย ชุดนี้บวกซับ เล่นร็อคได้ดีกว่าที่เคยฟังมาทั้งหมดเลย นี่ล่ะ ที่เขาว่าอย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่อ่าน ต้องลองฟังด้วยตัวเองครับ
....เข้าเว็บมาได้ด้วยความลำบากอย่างยิ่งเลย พักนี้เป็นไรเนี่ย เมื่อวานเข้าไม่ได้เลย ค้างตลอด แต่เว็บอื่นเข้าได้ ไม่รู้คนอื่นเป็นยังงี้มั้ยครับ
รายงานบรรยากาศไปแล้ว ต่อไปนี้เป็นเรื่องเสียง
แต่ฟังไปยังไม่กี่พยางค์ คุณเกล้าก็พาป่วน แกไปงัดสมบัติล้ำค่ามาอวดครับ
แผ่นเสียงในตำนานชุดพวงร้อย ที่ร่ำลือกันในหมู่นักเล่นแผ่นดำ
พวกเรามาเจอของจริงเข้าจังๆ เลย อึ้งสิครับ คนอื่นเขาเคยแค่ได้ยินชื่อ แต่นี่ยกมาทั้งถุง
พวกขาอะซีเตทพากันหันหลังให้ลำโพง รื้อแผ่นกันกระจุยกระจาย .....หาเชื้อราอ่ะครับ
แผ่นตั่งแต่ ๒๕๑๘ เก่าไม่เก่าก็คิดกันเอาเอง
แผ่นชุดนี้ มีพูดถึงและบทสัมภาษณ์นักร้องชาย
http://www.pisutshop.com/webboard_detail.asp?TopicID=1677
ส่วนนักร้องหญิงนั้น มิใช่ใครอื่น แหะๆ คุณแม่คุณเกล้าน่ะเอง
ดาราดวงหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปากร
เชิญฟังเสียงครับ
http://www.imeem.com/sheradia/music/EC1q5oTR//
แทคนี้ เสียงดีกว่า ....น่าฟังมากครับ
http://www.imeem.com/gift-kae555/music/MS_XK-xH//
เสียงซอนั้น ก็มิใช่ใครอื่น อาจารย์อวบ สาณะเสน บิดาเจ้าของบ้าน
คณะที่จัดทำแผ่นเสียงชดนี้ ว่าไปแล้ว ก็คือฐานรากของวงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศเรา
มือคีย์บอร์ดนั้น คือเปียนนิสต์ที่ถ่อมตัว อาจารย์ปิยะพันธืู สนิทวงศ์ ศิลปินแห่งชาติ
(ลูกศิยษ์ของคลอดิโอ อะราวนะครับ......ใช่คนธรรมดาเสียที่ใหน)
ส่วนนามว่าพวงร้อยนั้น ก็คือท่านผู้หญิงพวงร้อย เจ้าของเพลงบัวขาวอันลือลั่น
และอีกนับร้อยเพลงที่ทำให้เราไม่อายหู
แม้ว่าจะมีเศษนักร้องแหกปากกันเต็มเมืองในทุกวันนี้
คุณเกล้าบอกว่า ไม่ทราบว่าแผ่นเสียงชุดพวงร้อยที่หลงอยู่นี้
จะมีมูลค่ามากน้อยเพียงใหน
เพิ่งไปเจอจากเวบหนึ่ง มีคนลงข้อความแสวงหา
-----------------------
นานๆจะอยากได้อะไรเพิ่ม ใครมีแผ่นLP มล.พวงร้อย บ้างครับ
ท่านใดเก็บรักษาไว้นานแล้ว อยากเปลี่ยนมือให้ผู้อื่นได้มีโอกาสครอบครองบ้าง
รบกวนโทรแจ้งราคาที่ 086-766xxxx จะมีพนักงานคอยรับสายให้ครับ ขอสภาพ
สวยๆนะครับ ราคาถ้าสู้ได้จะสู้ครับ
------------------------
อ่านแล้วก็มั่นใจว่า ราคาไม่น่าจะแพ้แผ่นเขาควาย "ทำในประเทศไทย"
หรือของน้าหงา เสียงดิบๆ อึดอัดๆ ที่ชาวบ้านไล่ล่าตามหากันสักกี่มากน้อย
แต่จะสูงถึงแผ่นปลาสติคที่เขาทำแจกเวลาโปรโมทหนังตามประเทศต่างๆ
แล้วมีคนเอามาปั่นราคาจนจะถึงชุดละเฉียดครึ่งแสน.....เฮ้อ
สวรค์เบื้องบนคงจะทรงทราบ
นึกถึงคำพยากรณ์ที่ว่า กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม
ของดีจะด้อยค่า ของไร้าคาคนจะควานหากัน
การฟังเพลงนี่ ทำให้สติฟ่นเฟือนก็ได้แฮะ
Quote from: klao on 29 September 2009, 01:55:07 am
คุณ santi และคุณ pakorn มีโอกาสที่พอจะแว้บมาได้เมื่อไหร่ บอกมาได้ครับ
... ลืมขอบคุณเจ้าของบ้านในน้ำใจไมตรีอีกครั้งครับ
Quote from: pee on 04 October 2009, 08:03:14 am
อ่านแล้วก็มั่นใจว่า ราคาไม่น่าจะแพ้แผ่นเขาควาย "ทำในประเทศไทย" หรือของน้าหงา เสียงดิบๆ อึดอัดๆ ที่ชาวบ้านไล่ล่าตามหากันสักกี่มากน้อย
แล้วแผ่นเขาควาย หรือแผ่นของน้าหงาเขารับกันที่กี่มากน้อยครับพี่?
วันก่อนได้คุยกับเจ้านายของท่าน ผบ. เห็นเขาบอกว่าที่ USA มีบริการปรับสภาพแผ่นงอ ๆ ให้เรียบได้
เอาไปใส่น้ำยาแล้วเข้าเครื่องอบอะไรสักกะอย่าง ไม่รู้ดีและคุ้มทำรึเปล่า ฮิ ฮิ
ตะก่อนเสี่ยเปาสมัยฟอรูจูนมีเครื่องรับทำแผ่นละเท่าไรไม่รู้จำไม่ได้ครับ แล้วเสี่ยแกเลิกกิจการขายเครื่องต่อลุงพงไทยแกรมโมโพน ลุงพงเลยรับทำสักพักแล้วรู้สึกจะขายต่อไปแล้วอันนี้ไม่รู้แล้ว่าใครรับต่อไปครับ
เท่าที่ทราบ ราคาทั้งวานทั้งบาว คงจะแตะหลักหมื่นไปแล้ว
แต่ของพวกนี้ เป็นลมๆ ครับ บางวันก็อาจจะลอยติดเพดาน บางวันก็หล่นลงมาหน่อย
เวบที่ตามล่าของพวกนี้ ก็เห็นมีเวบลุงพง และเวบพ่อพิสุทธิ์ฉ็อบ
ถ้าไม่รีบร้อน เก็บจนเต็มห้าหลักแน่ๆ ค่อยคิดการต่อไป จะคุ้มกว่าครับ
มั่นใจว่าราคาไม่มีวันถอยลง เพราะของมีน้อย มีแต่จะหากันเพิ่มขึ้นๆ
เรื่องแก้แผ่นคด เห็นคุณดุสิตเคยทำ นัยว่าได้ผลเหมือนกัน คือเอากระจกทับ บีบให้สนิท
ใส่ท้ายรถ ขับไปทำงาน สองสามวันก็กลับคืนสภาพได้ แต่จะได้กี่เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ทราบแน่ชัดครับ
Quote from: blackmore on 31 October 2009, 08:00:48 am
ตะก่อนเสี่ยเปาสมัยฟอรูจูนมีเครื่องรับทำแผ่นละเท่าไรไม่รู้จำไม่ได้ครับ แล้วเสี่ยแกเลิกกิจการขายเครื่องต่อลุงพงไทยแกรมโมโพน ลุงพงเลยรับทำสักพักแล้วรู้สึกจะขายต่อไปแล้วอันนี้ไม่รู้แล้ว่าใครรับต่อไปครับ
LP Flattener เป็นเครื่องทับแผ่นโดยใช้ความร้อนครับ
ถ้าแผ่นงอไม่มากเครื่องที่ว่าช่วยได้ครับ
ท่าน Pollpo มีใช้สองตัว แต่ตอนนี้ไม่รู้หายเงียบไปไหนแล้ว
ไม่ยอมติดต่อเพื่อนฝูงเลย :huh:
สงสัยหนีเข้าป่าไปดักยิงนก(ด้วยกล้อง)....:)
คิดถึงเนอะครับ
ขออนุญาตแจ้งข่าวการจากไปอย่างสงบของ อ.อวบ สาณะเสน เมื่อช่วงก่อนเช้ามืดของวันพุธที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ที่บ้าน ต.แม่แรม อ.แม่ริม ให้สมาชิกที่ชื่นชมผลงานศิลปะของท่านทราบโดยทั่วกันครับ
กำหนดสวดอภิธรรมเวลาประมาณ 20.00 น. ตั้งแต่คืนวันพุธที่ 7 จนถึงคืนวันเสาร์ที่ 10 เม.ย. ณ วัดเจดีย์หลวง (ศาลาสิลา อุปติพงษ์) ในตัวเมืองเชียงใหม่
ส่วนงานฌาปนกิจ จะเป็นวันอาทิตย์ 11 เม.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. ที่สุสานหายยา ในเชียงใหม่เช่นกันครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
อาจารย์ทำแต่คุณงามความดี สุขคติย่อมเป็นที่หวังได้
ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งครับ
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจงขึ้นสู่สุขติภพด้วยเทอณ
และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างสูงยิ่งกับคุณเกล้า คุณแม่ พร้อมทั้งญาตพี่น้องด้วยครับ
(บอกช้าไปนิดเดียว ผมเพิ่งจะขึ้นมาบ้านที่ภูซางเมื่อเช้ามืดนี้เอง วันนี้ก็เลยไม่ได้เข้าเนทในตอนเช้ามืด
น่าเสียดาย)
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
น้ำลงที่ต่ำ
คนขึ้นที่สูง
ท่านได้หล่อหล่อมเข้ากับธรรมชาติแล้ว
กราบลาอาลัยรักศิลปินครูครับ
ขอแสดงความเสียใจกับคุณเกล้าด้วย
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
:( ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อ ครอบครัว สาณะเสน ด้วยค่ะ :(
:bowdown: :( :bowdown: และขอแสดงความคารวะและอาลัยจากก้นบึ้งแด่ ท่านอาจารย์ มา ณ. ที่นี้ :bowdown: :( :bowdown:
:( ท่านจากเราไปแต่กายค่ะ :(
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
เสียใจกับคุณเกล้าและครอบครัวอย่างสูงครับ
.. ขอแสดงความรักความอาลัยมาแด่อาจารย์ฯ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ท่านผู้หญิง พวงร้อย - บรรเลง, 99% ... 750.
-----------------------
แวะมาบอกคุณเกล้าว่า ราคาแผ่นซีดีล่าสุด อยู่ที่ตัวเลขนี้แล้วครับ
99% คงหมายถึงสภาพแผ่น
เรียนท่านสมาชิกทราบ ขณะนี้ผมระเบิดชุดไปเรียบร้อยแล้วครับผม เก็บไว้เพียงแต่น้อง Maggie
ตอนนี้จะหันมาเล่น file เพลงแล้วครับ มีแหล่ง classical recordings ดี ๆ ให้ down load แบบเสียตังค์ (ก็ได้) ที่ไหนบ้างครับ? ไม่อยากไปซื้อแผ่นแล้วริป CD หรือ SACD เอง เพราะทำไม่เป็นครับ ผมเพิ่งลองเข้าไปดูของ HDtracks แต่ก็ยังมีไม่เยอะมาก
นี่ front end ตัวใหม่ของผม เอามาอวดให้ดูคร้าบ Bryston BDP-1
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/BrystonBDP-1_WebBot1.jpg)
คุณน้องเกล้าคงจะรู้จัก foobar เปิดใช้งาน เอาแผ่นซีดีของเราแนะนำให้เขารู้จัก เมื่อรายการเพลงขึ้นมาครบทุกแทรค ก็ซีเหล็กออล แล้วคลิกขวา เลือกคอนเวิรต์
โปรแกรมจะถามว่า คอนเวิร์ตเป็นฟอแมทอะไร และให้ไปเก็บที่ใหน เลือกคอนเวิร์ทเป็น wavepac ก็จะเลือกคุณภาพไฟล์ได้
สั่งคอนเวิร์ตปุ๊ป ไม่กี่นาทีก็สำเร็จครับ
ง่ายกว่ากดเปลพาลแยะครับ
อิอิ ไม่ต้องเจอกดผิด ซื้อผิดอีกด้วย....... :whistling:
Quote from: klao on 26 January 2011, 05:56:10 am
นี่ front end ตัวใหม่ของผม เอามาอวดให้ดูคร้าบ Bryston BDP-1
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/BrystonBDP-1_WebBot1.jpg)
:dribble: เทียบกับชุดเดิม เสียงเป็นยังไงบ้างครับ
ขอบคุณครับพี่ pee เคยได้ยิน foobar แต่ไม่เคยเล่น ผมมัน computer music virgin ครับ แค่ copy/burn file ธรรมดา หรือ CD ผมยังไม่คล่องเลย แต่ซื้อ digital player มาแล้ว ก็คงต้องหัดให้เป็นแล้วล่ะครับ เคยอ่านเจออีกอันที่เขาแนะนำกันชื่อ dBpoweramp
สรุปแล้วดูเหมือนว่า ถ้าไม่เล่น turntable กะแผ่นดำ ก็คงต้องซื้อ CD หรือ SACD มาเล่น และ/หรือ rip ลง file อยู่ดี
เอ ไม่มีสมาชิกท่านใดที่มีชุด turn เทพ ๆ แล้วรับจ้าง rip แผ่นดำลง file เป็นธุรกิจบ้างเหรอครับ ถ้ามี ผมจะได้ซื้อแผ่นดำ แล้วนำไปให้ rip ให้ง่ะ ถ้าค่าจ้าง rip แผ่นละ 1 พันบาท ได้ลูกค้าซัก 1,000 แผ่น ก็ซื้อชุด turn ชุดละล้านได้เลยนะเนี่ย แต่หัวเข็มคงพังไว :headphone:
ใครเคยศึกษาตัวนี้บ้างมั้ยครับ ? http://www.channld.com/purevinyl/index.html
Quote from: pee on 26 January 2011, 06:07:57 am
คุณน้องเกล้าคงจะรู้จัก foobar เปิดใช้งาน เอาแผ่นซีดีของเราแนะนำให้เขารู้จัก เมื่อรายการเพลงขึ้นมาครบทุกแทรค ก็ซีเหล็กออล แล้วคลิกขวา เลือกคอนเวิรต์
โปรแกรมจะถามว่า คอนเวิร์ตเป็นฟอแมทอะไร และให้ไปเก็บที่ใหน เลือกคอนเวิร์ทเป็น wavepac ก็จะเลือกคุณภาพไฟล์ได้
สั่งคอนเวิร์ตปุ๊ป ไม่กี่นาทีก็สำเร็จครับ
ง่ายกว่ากดเปลพาลแยะครับ
อิอิ ไม่ต้องเจอกดผิด ซื้อผิดอีกด้วย....... :whistling:
ไว้เดี๋ยวพร้อม อีกซักสองสามเดือน เรียนเชิญมาฟังกันเล่น ๆ นะพี่ ตอนนี้ยังรอ pre หลอด กับ DAC อยู่ครับ
Quote from: sw on 26 January 2011, 03:29:05 pm
:dribble: เทียบกับชุดเดิม เสียงเป็นยังไงบ้างครับ
แนะนำน้องฟู เพราะน้องเค้าเป็นมิตรกับชาวบ้านที่สุดแล้ว ตัวเล็ก ใช้ง่าย ดีบีเพาเวอร์แอมป์ยุ่งกว่ามากครับ ทำงานก็ช้ากว่า ผมจะใช้สำหรับการทำงานแบบข้ามคืนครับ จะดีกว่าน้องฟู ก็ตรงที่เขาไม่แก้ชื่อเสียงเรียงนามของไฟล์เลย ไม่เหมือนน้องฟู
สำหรับไฟล์แผ่นดำนั้น มีให้เล่นเกลื่อนอินเตอร์เน็ตครับ ไม่ต้องเสียเงินด้วย ยูทุปยังมีเลย กรณีแผ่นดำนี้ ผมว่าเราน่าจะเล่นของฟรีได้โดยไม่ต้องตะขิดตะขวงใจนะครับ เพราะเจ้าของแผ่นเขาทำเอง และเขาทำแจกไม่ได้ทำขาย จึงไม่ทำให้สิทธิของใครต้องเสียหาย
นี่ว่าตามสาระของกฏหมายไทยเนื้อๆ เลย
ไปเจอร้านนี้มาครับ ไม่ทราบผู้สันทัดกรณี เห็นว่าควรเสียกะตังค์ไปโหลดชุดไหนมาลองบ้างดีครับ
เห็นมี recording เก่า ๆ ยุคที่พี่ pee และคุณ genzo ชอบอยู่พอสมควร
http://www.pristineclassical.com/
mp3 ขายเพลงละ7euro นี่เกือบซื้อ CDได้เลยนะครับ แต่ดูแล้วมีของดีเยอะจริงๆ
Quote from: klao on 23 February 2011, 09:27:12 am
recording เก่า ๆ ยุคที่พี่ pee และคุณ genzo ชอบอยู่พอสมควร
http://www.pristineclassical.com/
ผมลองฟังเทียบกับที่มีเก็บอยู่ในโกดังแล้ว ดูเหมือนเขาได้ขัดเกลาสัญญานในบางความถี่ทิ้งไป โดยใช้ฟิลเตอร์ที่ทำงานละเอียดกรอง ทำให้เสียงละมุนหูขึ้น แต่เท็กสเจอร์ของเสียงและไดนามิคบางระดับที่ไกล้ๆ กัน จะลดลงไปหน่อย
ถ้าเป็นผลงานที่อายุเกิน ๕๐ ปีไปแล้ว กฏหมายไทยไม่ถือว่ามีลิขสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นผมอาจจะแจกไฟล์ที่ผมปรุงไว้ให้ไปฟังเล่นได้ครับ หรือถ้าเกรงใจอยากซื้อขึ้นมา ผมจะขายให้ในราคาถูกกว่าเขาสักเจ็ดเท่า คือเพลงละหนึ่งยูโรละกัน....อิอิ อ้อ ถูกกว่า๑๕ เท่าสิ เพราะผมทำให้เป็น ๒๔ บิทไปด้วยเลย .........แต่มันแย่ตรงที่เป็นเพลงที่ผมชอบ ท่านอาจจะไม่ชอบ....เซ็งเลย
หายไปนานครับ แต่แวะมาอ่านเรื่อย ๆ เอาแบบห้องใหม่ที่จะทำตอนไปปลูกบ้านที่ ตจว. มาให้ดูกันครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/CONCEPT4.jpg)
ป.ล. ถ้าพี่ sw สนใจทำงาน interior ที่ต้องเกี่ยวกับเรื่อง acoustics ด้วย ผมจะเชิญให้มาดูแบบเมื่อรายละเอียดเสร็จครับ ว่าแต่ว่าพี่รับงาน ตจว. รึเปล่า?
อยากมีห้องอย่างนี้บ้างจัง.. คุณ klao สร้างบ้านอยู่จังหวัดไหนครับ งานตจว. ต้องดูปริมาณงานทั้งหมดก่อนครับ ว่าทำได้รึปล่าว ถ้าปริมาณไม่มากจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องเดินทางและที่พักสูง ทำให้ราคาสูงครับ แต่ถ้างานปริมาณมากก็ไปเช่าบ้านอยู่เป็นเดือนเลย ราคาก็ไม่แพงกว่าในกท. เพราะค่าเดินทางน้อยกว่าครับ :)
Quote from: klao on 03 May 2011, 05:08:58 am
หายไปนานครับ แต่แวะมาอ่านเรื่อย ๆ เอาแบบห้องใหม่ที่จะทำตอนไปปลูกบ้านที่ ตจว. มาให้ดูกันครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/CONCEPT4.jpg)
ป.ล. ถ้าพี่ sw สนใจทำงาน interior ที่ต้องเกี่ยวกับเรื่อง acoustics ด้วย ผมจะเชิญให้มาดูแบบเมื่อรายละเอียดเสร็จครับ ว่าแต่ว่าพี่รับงาน ตจว. รึเปล่า?
บ้านใหม่ต้องการสระว่ายน้ำไหมครับ
ราคากันเอง แถมไฟล์เพลงด้วย :D
Quote from: sw on 03 May 2011, 03:53:18 pm
อยากมีห้องอย่างนี้บ้างจัง.. คุณ klao สร้างบ้านอยู่จังหวัดไหนครับ งานตจว. ต้องดูปริมาณงานทั้งหมดก่อนครับ ว่าทำได้รึปล่าว ถ้าปริมาณไม่มากจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องเดินทางและที่พักสูง ทำให้ราคาสูงครับ แต่ถ้างานปริมาณมากก็ไปเช่าบ้านอยู่เป็นเดือนเลย ราคาก็ไม่แพงกว่าในกท. เพราะค่าเดินทางน้อยกว่าครับ :)
ในเขตอำเภอปากช่อง จ.โคราช ครับพี่ ที่อยู่แยกจาก ถ.ธนะรัชต์ กม. ต้น ๆ ก่อนขึ้นไปช่วงที่เขามีเรื่องขยายถนน 4 เลน :D
Quote from: jtr on 04 May 2011, 04:05:23 am
บ้านใหม่ต้องการสระว่ายน้ำไหมครับ ราคากันเอง แถมไฟล์เพลงด้วย :D
ผมคงไม่ล่ะครับ แต่เพื่อนที่ไปซื้อที่แปลงที่ติดกันเขาบอกว่าอยากได้สระว่ายน้ำ หากจะสร้างบ้าน ถึงเวลานั้นแล้วผมจะแจ้งพี่ jtr ทราบนะครับ
เห็นพี่ K.PJ. อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เลยอยากบ้างครับ ละแวกที่ผมจะไปปลูกบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นสวนกับพืชไร่ครับ
ทิวเขาไกล ๆ จะเป็นวิวด้านหลังบ้าน
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_3033-1.jpg)
ดีครับกลับเข้าไปอยู่กะธรรชาติ ผมก็ตัดสินใจกันแล้วว่า จะเข้าป่าลึกเข้าไปอีกจากบ้านลำพูน (ที่ตอนนี้ยังก็คิดว่ามันยังเป็นแบบเมืองกรุงเกินไป) เพราะจะอย่างไร ผมก็จะโฮมสกูลล์ลูกๆ ของผมอยู่แล้ว นานๆ ก็พากันออกมาดูแสงสีซะที :beer: คราวนี้เป็นบ้านป่าผสมภูเขาจริงๆ ละครับ แต่บ้านก็ยังอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นภูชี้ฟ้านะครับ ห่างภูชี้ฟ้าขับรถครึ่งชั่วโมงกว่าๆ เองละครับ (ห่างกันแค่ 45 โลเอง
(http://uppic.mobi/image-1E9E_4DC0BA4E.jpg))
Quote from: klao on 04 May 2011, 08:36:22 am
ในเขตอำเภอปากช่อง จ.โคราช ครับพี่ ที่อยู่แยกจาก ถ.ธนะรัชต์ กม. ต้น ๆ ก่อนขึ้นไปช่วงที่เขามีเรื่องขยายถนน 4 เลน :D
:thumbup: ทำเลเยี่ยมจริงๆครับ น่าอยู่มาก ใกล้ๆกรุงเทพ จากบ้านผมเดินทางไป ใช้เวลาพอๆกับไปสนามหลวงเลย
Quote from: klao on 03 May 2011, 05:08:58 am
ป.ล. ถ้าพี่ sw สนใจทำงาน interior ที่ต้องเกี่ยวกับเรื่อง acoustics ด้วย ผมจะเชิญให้มาดูแบบเมื่อรายละเอียดเสร็จครับ ว่าแต่ว่าพี่รับงาน ตจว. รึเปล่า?
ผมไม่ได้เน้นเฉพาะงานเกี่ยวกับเรื่อง acoustics หรอกครับ มันมักจะเป็นงานที่แถมพ่วงเข้ามาในงานโปรเจค บังเอิญผมสนใจอยู่ก็ค้นคว้าหามาอ่าน เพราะว่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิปาฎิหารย์ต่างๆ บางทีผมอธิบายทางวิทยาศาสตร์ให้ลูกค้าฟัง เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาตัดสินใจไปทำตามคนที่เล่าเรื่องปาฎิหารย์มนต์ดำให้เขาฟัง ต่างคนก็ต่างเชื่อครับ ผมก็ต้องทำตามด้วยความเคารพในสิทธิของเจ้าของ :sad2:
เสียงดีของเราอาจจะไม่ใช่เสียงดีของเขาด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่อยากจะรับงานด้านนี้โดยเฉพาะครับ
(http://cgim.audiogon.com/i/vs/s/f/1269798081.jpg)(http://cgim.audiogon.com/i/vs/s/f/1242099268.jpg)
เพดานห้องที่ทาง Rives Audio ออกแบบมาจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด :)
โหใช่เลยครับเฮีย รู้งี้หารูปในเน็ทไปให้ช่างแกะแบบดีกว่า แต่ก็เอาเฮอะ เสียเงินไปแล้วนี่ครับ :P
บางท่านที่เข้าไปในเวป TAC คงทราบว่าผมได้ไปแอบจอง Linn Majik 12LP ใน group buy กะเขาเหมือนกัน แต่ยังไม่มีปัญญาไปรับเครื่องกับจ่ายกะตังค์ส่วนที่เหลือ กอปรกับบ้านใหม่ยังไม่เสร็จ และตอนนี้ในทาวน์เฮ้าส์ผมไม่มีที่วางเครื่องอยู่ดีครับ
แต่ปัญหาที่ผมอยากจะขอหารือคือว่า ที่แรกผมกะจะใช้ prepro Onkyo ที่มีภาค phono แบบ mm เพราะชุดที่มากะลินน์ ใช้หัว mm ทว่า เห็นมีคนประกาศขาย pre phono ของ EAR 834P สีดำ (เขาว่าเสียงสู้ตัว chrome ไม่ได้) อยู่สองหมื่นต้น ๆ ก็เลยเกิดคัน ว่าจะไปแอบซื้อมาเก็บไว้ก่อนดีมั้ย หรือว่ารอบ้านรอห้องใหม่เสร็จปีหน้า แล้วค่อยขวนขวายเรื่อง phono ดีครับ
คือคอนนี้ใช้ปรีหลอด และ cd/sacd/bd หลอด แล้วเริ่มติดใจอ่ะครับ ว่าถ้าได้โฟโนหลอดด้วย น่าจะแจ่ม
ราคานี้ซื้อไ้ด้ครับพี่เกล้า แถมตัวนี้รองรับหัวเข็ม MC ด้วย (มีปุ่มอยู่ด้านหลังให้เลือก)
ผมไม่เชื่อว่าสีดำกับสี chrome จะเสียงต่างกัน
หาหลอดดีๆใส่ ไปได้อีกเยอะ
เปลี่ยนแผนไปแล้วครับ เรื่อง Linn Majik 12LP ที่ group buy มา เลยปล่อยออกไปก่อน และไม่ได้ตามไปซื้อ EAR 834P มือสอง
ตอนนี้กะว่าจะวางแท่นใกล้ตัว แทนที่จะวางไว้ด้านหน้า เพราะกลัวหมดแผ่นแล้วจะวิ่งไปกลับด้านไม่ท้น และอยากจะป้องกันปัญหาเรื่องแรงสั่นสะเทือนจากลำโพงด้วยครับ
ก็เลยไปมอง ๆ pre-phono แบบ balance แทน มีในใจและในงบอยู่คือ Parasound JC3 ซึ่งมี spec ดังนี้
S/N Ratio (MM)
> 86 dB, input shorted, IHF A-weighted
> 80 dB, input shorted, unweighted
S/N Ratio (MC)
> 75 dB, input shorted, IHF A-weighted
> 70 dB, input shorted, unweighted
Crosstalk
72 dB at 1 kHz
Phono Input Impedance
MM setting: 47k ohm
MC setting: 47k ohm or 100 ohm
Output Impedance
Unbalanced: < 100 ohm
Balanced: < 100 ohm per leg
Input Sensitivity at 1 kHz
MM: 4mV in for 1.0V output
MC: 0.4mV for 1.0V output
Total Gain
MM: 47 dB
MC: 68 dB
ดูเหมือนจะปรับค่าอะไรไม่ได้มาก สำหรับปรีโฟโนตัวนี้
เลยอยากจะถามว่า หากผมจะลดงบตัวชุดเครื่องเล่นแผ่นเสียง จาก LP12 ที่คงไม่ทำ group buy กันอีกแล้ว และไปเล่นพวก Rega ซึ่งประหยัดลงมาหน่อย เช่นชุด RP3 หรือ ชุด RP6 หัว MM มาเล่นกับ JC3 นี่ มันจะพอไปกันไหวมั้ยครับ หากผมไม่เน้นฟังเพลงร๊อค คือคงเอาไว้เปิดแผ่น "พวงร้อย" โชว์นาน ๆ ครั้งซะเป็นส่วนใหญ่
หรือควรจะเป็น RP6 ที่มาเฉพาะอาร์ม แล้วไปหาหัวเข็ม MM หรือ MC ที่ดีกว่ามาเป็นชุด แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องหัวมีมี spec ยังไง
โปรดแนะนำด้วย ขอบคุณครับ (ไม่อยากไปถามบอร์ดเพื่อนบ้านที่มี คยส. กปห. เดี๋ยวจะไปกันใหญ่)
ผมว่าสองข้อนี้ต้องชัดก่อนครับ
1 ฟังแผ่นดำเป็นหลักหรือเปล่า
2 แผ่นดำที่มี แนวใหน
ถ้าฟังคลาสสิค ซอนเดคไม่เหมาะแน่
ถ้าฟังพวงร้อย ยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่
ถ้าไม่ได้ใช้เป็นชุดหลัก ก็จำกัดงบอย่าให้เลยเครื่องเล่นตัวอื่น
ถ้าเครื่องไกลมือ ก็ต้องหาพวกที่เล่นจบ ยกเข็มขึ้นเอง
ฟังแผ่นดำแล้วตาลีตาเหลือกไปยกเข็มเอง พลาดได้ครับ
ขออนุญาติออกความเห็นเรื่องเิทิร์น
ผมเห็นด้วยกับพี่พีนะครับ
คุณเกล้าหาตัวอื่นเล่นดีกว่าครับ โฟโน JC3 น่าจะดี แต่ราคาสูงหรือเปล่า
ถ้าไม่ได้รักแผ่นดำมาก ลงทุนที่ละน้อยกับของมือสอง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในช่วงแรกครับ
แผ่นดำที่มี ส่วนใหญ่ก็ของพ่อกับเพื่อนพ่อที่ให้มา และของที่ผมกับพี่ ๆ ซื้อไว้ตอนวัยรุ่นอีกนิดหน่อย รวม ๆ กันน่าจะ 80-90 แผ่น โดย 50% คงจะเป็นคลาสสิคครับ แต่ยังไม่รุ้ว่าสภาพจริง ๆ เป็นไงกันบ้าง ยังไม่ได้ขัดล้าง หลังไปขุดเจอมาตอนย้ายบ้านพ่อ ถ้าเหลือพอฟังได้ซัก 30-40 แผ่นก็บุญแล้วครับ
ตั้งใจไว้ว่าจะไม่เล่นแผ่นเสียงเป็นหลักแบบจริงจังครับ น่าจะใช้เวลาฟังจากแหล่งนี้ไม่ถึง 20% และหากจะซื้อแผ่นดำเพิ่ม ก็คงเป็นแค่หลักสิบ
ปรีโฟโนตัวที่ว่า ผมก็กะจะหามือสองอยู่เหมือนกันครับ ระหว่างรอ อาจจะใช้ mm phono ใน pre/pro ออนเกียวใช้ไปก่อน
แต่ปัญหาคือผมคงต้องวางทั้ง pre/pro กับเทิร์นไว้ด้านหน้าห้องทั้งคู่ครับ
เครื่องเล่นแบบออโต้ก้เข้าท่าดีครับ แต่ผมกลัวว่าจะหารุ่นที่เสียงแจ๋ว ๆ ไม่ได้ อันนี้นึกไปเองนะครับ
เห็นเขาว่า Rega ปรับเซ็ทไม่ยาก เลยสนใจอยู่ครับ
RP3 พอแล้วครับพี่
JC3 ออกแบบโดยเทพที่เก่งเรื่อง MC low noise โดยเฉพาะ ถ้าเอามาเล่น MM ถือว่าใช้ประโยชน์น้อยมากครับ เว้นแต่ backdrop.
เคยอ่านว่า JC ต้องการจะทำบอร์ดphno ไปเสียบเพิ่มสำหรับ JC2 แต่ด้วยการตลาด JC3 add phono capability เลยกลายเป็นกล่องเบ้อเริ่มและเพิ่มราคา ซื้่ง JC ก็ไม่แฮปปี้ แต่ทำไรไม่ได้
ยังงัยก็เชีย JC3ครับ วันไหนเบื่อผมรับเอง
แผ่นจากอาจารย์อวบ น่าจะหนักไปทางซอ อายุอานามก็ราว 30 ปี
ผมคิดว่า เล่น B&O จะเหมาะ
1 เขาทำมาสำหรับแผ่นในช่วงนั้น เสียงเข้ากั๊น เข้ากัน
2 ปรับตั้งง่าย เพราะไม่ต้องปรับ ออโต้ด้วย
3 รูปร่างหน้าตางดงาม เข้ากับสไตล์ของคุณเกล้า
4 มีที่ปรึกษาคือท่านนรินทร์ ซึ่งควรจะเริ่มด้วยการยืมมาเล่นสักชุด อิอิ
รับรองว่า จะรักไคร่กับแม๊กกี้เหมือนเวลาเหยาะไข่ดาว.....
ซวยล่ะซิ JC3 ควรใช้กับหัวแพง - mc แต่ไอ้ RP3 มันแถมหัว mm มานี่นะ สงสัย end-up ใช้ mm stage ของ Onkyo แหง่ม ๆ
เอ...หรือแอบไปขอซื้อ Aesthetix Rhea ที่มีคนใช้มานาน ๆ น่าจะหาง่าย และถูกกว่าใช่มั้ยครับ อิ อิ
เทิร์น B&O ยี่ห้อนี้มันไล้สไตล์ไฮโซนี่ครับพี่ แต่ตัวที่เชียร์เป็นมือสอง จากยุค 20-30 ปีที่แล้วใช่มั้ยครับ ?
งั้นเดี๋ยวรอปลายปีบ้านเสร็จจะไปขอลองมายืมครับผม
ขอบคุณครับ
ไม่ได้หมายถึงหัวแพงครับพี่ หมายถึงหัวMCเท่านั้น ยิ่ง เอาทุ์พุทต่ำนี่ยิ่งบอกสักภาพของงานแก
แกมาถกเองในนี้ครับ แกกวนดี
http://www.diyaudio.com/forums/analogue-source/158911-parasound-jc3-phono.html
แอบไปขอซื้อ Aesthetix Rhea ที่มีคนใช้มานาน ๆ น่าจะหาง่าย และถูกกว่าใช่มั้ยครับ อิ อิ
ตอบไม่ได้ครับ เดี๋ยวโดนเซ็นเซอร์ แต่มันเข้ากับปรีดีนะ 555
(http://cdn.slashgear.com/wp-content/uploads/2010/01/Parasound_Halo_JC3_0813.jpg)
JC คงจะทำแค่บอร์ดเล็กๆ นั่นเท่านั้น
พาราซาวด์จัดการขยายให้มันกลายเป็นสองพันเหรียญ
ด้วยสิ่งเกินจำเป็นตามที่้ห็น
เจ็บปวดสำหรับคนซื้อ
แต่อันนี้เป็นไปตามคัมภีร์จตุคาโมฟายด์นะ
:ahha:
B&O ถ้าสนใจยินดีให้ยืมไปลองฟัง
ข้อจำกัดคือใช้หัวของ B&O เองและเป็นแบบ MM เท่านั้น
ขอบคุณพี่ trens ล่วงหน้าครับ
อ่านบอร์ดที่น้อง BlackLabel มาแปะไว้ได้ครึ่งนึงแล้ว JC แกมันส์ดีครับ
ทำให้มีแนวโน้มหา JC3 มือสองมาเล่นมากขึ้น เพื่อจะได้เป็นจตุคามไฟล์ตัวน้อย ๆ ครับพี่พี (ทั้งนี้หากไม่ติดใจแนวออโต้ของ B&O ไปซะก่อน)
แต่ตัว Rhea เนี่ย เห็นเขาประกาศขายมาตั้งนานแล้วนา ไม่ถูกใจเรื่องไรรึ?
นี่ผมก็กำลัง debate อยู่ว่า จะเลือกเก็บ ARC REF40AE หรือ Calypso Sig. ไว้ใช้ดี ตอนนี้กั๊ก ๆ ไว้
หน่วยแรกนั้น มีคนอยากได้แน่ ๆ ปล่อยไปผมก็ไม่เจ็บตัว แถมเอาตังค์มาใส่ระบบด้านอื่นได้ (วันก่อนพี่หมอไกรฤกษ์ทักเรื่องแอมป์สำหรับ Maggie ตัวใหญ่ ผมเลยหวั่น ๆ อยู่) หากปล่อย Calypso นอกจากจะเข้าเนื้อแล้ว ยังอดเอาไปเข้าชุดกับ Rhea อีกด้วยแน่ะ :ahha:
ไม่เห็นมีใครแนะนำ Dual เลย ผมว่ามันเป็น turntable semi auto ที่ดีมากๆเลยนะ เคยใช้ CS5000 ตอนอยู่ที่อเมริกา ราคาไม่แพงเลย
ดูอัลดีมากครับ ยิ่งได้รุ่นลูกยางละก้อ.....
แนะนำให้ปล่อย 40 ปีครับ....แต่ดึงให้ราคามันทะลุเพดานก่อน
แนวโน้มจะขึ้นไปได้อีก
อั๊พแอมป์ให้น้องแม๊กกี้สำคัญที่สุด
ปรีดีๆ ขอแบ่งคุณคฤณดีกว่า...จบข่าว
แม๊กกี้ยังอยู่รึปล่าว วันก่อนรู้สึกเห็นแว้บๆ :)
บ้านคุณเกล้าสร้างไปถึงไหนแล้วครับ
Quote from: klao on 14 April 2012, 12:14:08 am
ขอบคุณพี่ trens ล่วงหน้าครับ
อ่านบอร์ดที่น้อง BlackLabel มาแปะไว้ได้ครึ่งนึงแล้ว JC แกมันส์ดีครับ
ทำให้มีแนวโน้มหา JC3 มือสองมาเล่นมากขึ้น เพื่อจะได้เป็นจตุคามไฟล์ตัวน้อย ๆ ครับพี่พี (ทั้งนี้หากไม่ติดใจแนวออโต้ของ B&O ไปซะก่อน)
แต่ตัว Rhea เนี่ย เห็นเขาประกาศขายมาตั้งนานแล้วนา ไม่ถูกใจเรื่องไรรึ?
นี่ผมก็กำลัง debate อยู่ว่า จะเลือกเก็บ ARC REF40AE หรือ Calypso Sig. ไว้ใช้ดี ตอนนี้กั๊ก ๆ ไว้
หน่วยแรกนั้น มีคนอยากได้แน่ ๆ ปล่อยไปผมก็ไม่เจ็บตัว แถมเอาตังค์มาใส่ระบบด้านอื่นได้ (วันก่อนพี่หมอไกรฤกษ์ทักเรื่องแอมป์สำหรับ Maggie ตัวใหญ่ ผมเลยหวั่น ๆ อยู่) หากปล่อย Calypso นอกจากจะเข้าเนื้อแล้ว ยังอดเอาไปเข้าชุดกับ Rhea อีกด้วยแน่ะ :ahha:
ที่แกมาเขียนอะแกปล่อยไม่หมดนะครับ แกเคยเขียน "I've made my living on my design." คนส่วนใหญ่อยากจะรู้ วงจรที่แกทำ ทำไมต้องใช้โน่นนี่นั่น
เล็กๆน้อยๆ JC เคยทำงานกะมาร์ก เลวินแล้วโดยโกงครับ เลยออกกมาทำเอง ชื่อ Vendetta Research (The inspiration for the name? "I'll show the bastards!")
Rhea นี่ถูกใจครับ แต่ผมก็คันไปเรื่อย ก็ลงราคาขายโดยที่ขายไม่ได้ก็ไม่ป็นไร ขายไปคือไม่มีใช้ครับ ยืมลองได้นะครับถ้าพี่เกล้าคัน อิอิ หุหุ
short list ไว้อีกยี่ห้อครับ Dual แบบ semi-auto
ขออภัยพี่หวังด้วย ที่ผมยังไม่ได้ตอบอีเมล์กลับซะที บ้านผมตอนนี้ขึ้นโครงหลังคาไว้เสร็จแล้วครับ
เห็นว่ากำลังมุงกระเบื้องโรงรถอยู่ สำหรับตัวบ้าน ก็กำลังฉาบปูนผนังชั้น 2 ครับ
พอดีทีมสถาปนิก/ผู้รับเหมาผม ซึ่งก็อยู่ที่เขาใหญ่ จะจัดการดูแลงาน interior ให้ด้วยครับ
คงจะไม่รบกวนทีมพี่ เพราะหนึ่งอยู่ไกล และสองจำนวนงานไม่ค่อยมากครับ และก็เบสิค ๆ ครับ
เกรงว่าให้พี่มาทำฝ้า ทำแผง diffusor แค่ห้องฟังเพลงห้องเดียว อาจจะไม่คุ้มเวลาพี่กระมังครับ
ผมขายแม้กกี้ 3.6 ไปเกือบปีแล้วครับ กะจะอัพเป็น 3.7 แต่คนขายบอกสีผิด เลยต้องรอสั่งใหม่
รอไปรอมา รุ่น 20.7 ดันออกมา เลยเปลียนใจไปเล่นตัวใหญ่กว่าแทน
ตอนนี้ใช้ลำโพง Triangle ที่ร้านให้ยืมมาไปพลาง ๆ ครับ
เรื่อง Rhea รับทราบครับน้องป๊อก บ้านพร้อมแล้วจะเรียนเชิญทุกท่านมาเที่ยวครับ มาช่วยเซทเทิร์นครับ
ให้ทีมสถาปนิกเดิมทำก็ดีครับ งานจะได้ต่อเนื่องกันไป อยู่ใกล้ดีด้วย
แล้วห้องฟังใช้แบบ Rives Audio รึป่าวครับ
ห้องฟังที่จะทำ ใช้แบบของ Rives แน่นอนครับพี่หวัง เพราะอุตส่าห์ไปยืมสะตังค์ค่าออกแบบจากท่าน ผบ. ไปจ่ายเขาแล้ว
แต่ที่ยังไม่แน่ใจ คือฝีมือช่างที่จะทำตามแบบ และเสียงที่จะออกมาฮะ ว่าจะโดนเพื่อน ๆ โห่รึเปล่า O0
ห้องชั้นบนด้านซ้ายของรูปครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0545.jpg)
เมื่อวานแว้บไปงานเครื่องเสียง ได้พบคุณหมอไกรฤกษ์ คุยกันเรื่องภาพเขียนของเพื่อนคุณหมอ แต่ผมลืมให้เบอร์ไว้
อย่างไรคุณหมอโทรมาได้ที่ 081-621-0112 นะครับ แล้วผมจะแว้บไปดูรูปให้ด้วยฟามยินดีครับ
ได้ฟัง Rega RP6 กับหัว MM ที่แถมมากับชุด เสียงก็โอเลยนะ ถึงแม้จะเล่นกับลำโพงเล็ก ๆ
ที่สนใจ ก็เพราะตอนนี้ปล่อย ARC REF40A ไปแล้ว (ตามคำแนะนำของพี่พี) เลยพอมีกะตังค์เหลืออยู่นิดหน่อย กะว่าจะขยับรุ่นของ TT ขั้นมาสูงอีกกะติ๊ดนึงฮะ :filrt:
ใน PFO online เขาบอกว่า RP6 ติดหัว Dynavector รุ่น DV-20X2 แบบ low-output MC แล้วแจ่ม แต่เขาใช้ Audio Note AN-S2 MC stepup transformer เลยไม่รู้ว่าหากเปลี่ยนเป็น JC3 ที่ผมหมายตาไว้นี่ จะเวิร์คมั้ยครับ ?
ใน sick moon รีวิว บอกเกียวกับหัวเข็มนี้ ว่า "I would recommend a phono preamplifier with a minimal 60dB of gain to not run out of steam...." และ
"The internal impedance of the 20X-2 L is a lowish 5Ω and Dynavector recommends loading it at 30Ω. None of my phono preamplifiers provide for this exactly but on the Esoteric E03 the 50Ω setting worked beautifully while 10Ω was clearly too low. This load mismatch resulting in bloated bass as the main symptom. The high version is designed for MM phono stages and has an internal impedance of 150Ω to be more compatible with the typical 47.000Ω loading of most MM phono preamplifiers."
ถ้าต้องการโหลด 30 โอห์ม และมีอุปกรณ์ข้างล่างนี้อยู่
1 SUT 1:20X (สเตปอัพยี่สิบเท่า)
2 MM โฟโนอินพุท 47kΩ
สามารถนำความต้านทานค่า 16.1kΩ มาต่อคล่อม (ขนาน) ที่ขาออกของสเตปอัพฯ
ก็จะได้โหลด 30 โอห์มทางขาเข้าของสเตปอัพฯ ตามต้องการครับพี่เกล้า
(http://farm8.staticflickr.com/7234/7265865424_d503c4781c.jpg)
*ถ้าต้องการโหลดเป็นค่าอื่นๆ ก็สามารถคำนวณหาเอาได้ครับ
ขอบคุณครับน้อง Witti แต่พี่ไม่รู้เรื่องเลยอะ ทำไม่เป็น...ขออภัย
เอาซาเป็คบางส่วนของ JC3 มาแป่ะให้ช่วยดูใหม่แล้วกัน ว่าใช้กะ Dyna ตัว low mc ดังกล่าวได้อะป่าว
Phono Input Impedance
MM setting: 47k ohm
MC setting: 47k ohm or 100 ohm
Output Impedance
Unbalanced: < 100 ohm
Balanced: < 100 ohm per leg
Input Sensitivity at 1 kHz
MM: 4mV in for 1.0V output
MC: 0.4mV for 1.0V output
Total Gain
MM: 47 dB
MC: 68 dB
MC: 68 dB -> OK
MC setting: 100 ohm -> มากกว่าค่า 30 โอห์มที่ต้องการครับ
แต่ถ้าพี่เกล้ามี SUT 1:10X (สเตปอัพสิบเท่า)
สามารถนำความต้านทานค่า 3.2kΩ มาต่อคล่อม (ขนาน) ที่ขาออกของสเตปอัพฯ
ก็จะได้โหลด 30 โอห์มทางขาเข้าของสเตปอัพฯ ตามต้องการ
และเกนรวมทั้งหมดที่ทำงานร่วมกับ JC3 (MM: 47dB, MM setting: 47k ohm) จะเท่ากับ 67dB ครับ
หรือ
พี่เกล้ามี SUT 1:20X (สเตปอัพยี่สิบเท่า)
สามารถนำความต้านทานค่า 16.1kΩ มาต่อคล่อม (ขนาน) ที่ขาออกของสเตปอัพฯ
ก็จะได้โหลด 30 โอห์มทางขาเข้าของสเตปอัพฯ ตามต้องการ
และเกนรวมทั้งหมดที่ทำงานร่วมกับ JC3 (MM: 47dB, MM setting: 47k ohm) จะเท่ากับ 73dB ครับ
Quote from: klao on 25 May 2012, 06:41:31 pm
ปล่อย ARC REF40A ไปแล้ว (ตามคำแนะนำของพี่พี) เลยพอมีกะตังค์เหลืออยู่นิดหน่อย กะว่าจะขยับรุ่นของ TT ขั้นมาสูงอีกกะติ๊ดนึงฮะ :filrt:
แตะเบรคก่อนครับ น้องเกล้า....ที่นี่ไม่มีนโยบายผลาญเงินเพื่อน....ฮา
ก่อนจะเลือกเนื้อคู่ ควรจะเอาสินสอดมากางให้เห็นจะจะก่อน
คือ
ตอนนี้มีแผ่นอะไรบ้างแล้ว และอนาคตจะมีแผ่นอะไรอีก
ชนิดและประเภทของมัน จะช่วยให้จ่ายเงินได้ตรงเป้าครับ
เล่นเทิร์นนี่มันหลุมดำของแท้
เผลอแพล๊บเดียว ค่าแผ่นจะทะลุแสนเอาง่ายๆ
หลังจากนั้น เราจะใจอ่อนกับเข็มราคาห้าหมื่น
เพราะคิดว่ายังถูกกว่าหัวละแสนที่เขาเล่นๆ กัน
ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เข็มที่เหมาะกับเสียงของอาจารย์วิสุตา.....หุหุ
ถ้าให้ผมเดาล่วงหน้าละก้อ....
แนวที่เล่นต้องการเทิร์นสามอาร์ม.......เป็นอย่างน้อย
ออฟายหนึ่ง คลาสสิคหนึ่ง......
อันสุดท้าย เอาไว้เล่นแผ่นผิวโลกพระจันทร์
ผมว่างั้นนะ
บีบให้แคบหน่อย
คือเลือกครับ ว่าจะเล่นกี่ตัว หรือ กี่หัว
ผมใจแข๊งกับเรื่องแผ่นดำมาได้ตั้งนาน ด้วยความขี้เกียจปวดหัว แลชอบความง่ายในการเล่นแผ่นเงินเล็ก ๆ กับไฟล์เพลง ดังนั้น พี่ ๆ เพื่อน ๆ คงไม่ต้องกลัวผมผลาญหรอกครับ และเพราะยังมีท่าน ผบ. ผมอยู่คอยเตือนใจและคุมกระเป๋าด้วย อิ อิ
งบฯ ที่ผมตั้งไว้ โดยเทียบเคียงกะชุดในใจตอนนี้ ผม cap รายการที่ 1+2 ต้องต่ำกว่าที่เคยไปจอง LP12 group buy ไว้ (ประมาณ 100k) เลยออกมางี้ฮะ
1. TT+arm - 45k
2. หัวเข็ม - 25k
3. phono stage (xlr out) - 75k
แค่นี้ก็หรูสุด ๆ แล้วสำหรับผมครับ เล่นหัวเดียว แขนเดียว แน่นอนครับ :hb:
ดูตัวเลขก็มีเหตุผลดีครับ
แต่ผมอยากให้เวทน้ำหนักใหม่
คือเข็มกับโฟโนตอนนี้ ราคา 25 : 75
ถ้าปรับเป็น 50 : 50
หรือ 40 : 60
น่าจะได้อะไรเพิ่มมาอีกแยะทีเดียว
ครับพี่พี เดี๋ยวลองดูก่อน
หากหัว Dyna 20X2L กับ JC3 ในสัดส่วนงบฯ ข้างต้น มันไปกันไหวในด้านเทคนิค ก็คงจะไม่เปลี่ยนสัดส่วนของหัวเข็มขึ้นไป (ในเร็ว ๆ นี้ :headphone:)
ตะกี้เช็คในเว็บของ Dyna บอกว่า recommended load resistance ของหัวดังกล่วคือ > 30 ohms ครับ เลยโทรไปคุยกับเจ้าของร้านที่ขายทั้งสองอย่างนั้น พี่เค้าค่อนข้างมั่นใจว่าการ set ค่า mc ใน JC3 ที่ 100 ohms น่าจะพอได้ ยังไงผมจะลองหักคอให้แกสั่งของมา แล้วสละหัวเป็น demo ต่อให้ผมฟังก่อนกับ JC3 น่าจะดีที่สุด
เท่าที่ค้นอ่านรีวิวหัวตัวนี้ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นปัจจุบัน น่าจะเล่นแนว ๆ ผสม Jazz + Classic ที่ผมฟังเป็นส่วนใหญ่ได้มังครับ
แจ๊ส + คลาสสิค :worshippy:
คุณเกล้า ไม่ต้องคิดมาก
มันจะเป็นอะไรไม่ได้เลยครับ
ต้องหัวตาปู เอ้ย สะบู่ เท่าน้านนน...
ortofon SPU พร้อม แท่นหมุนแบบลูกยาง แจ่มๆ
(http://images.craigslist.org/5Ga5E65P43Le3M53mbc4l1729a77792c41474.jpg)
โฟโน ก็ของคุณวิตติ์เลยคร้าบบบ :thumbup:
Quote from: klao on 25 May 2012, 08:49:08 pm
ผมใจแข๊งกับเรื่องแผ่นดำมาได้ตั้งนาน ด้วยความขี้เกียจปวดหัว แลชอบความง่ายในการเล่นแผ่นเงินเล็ก ๆ กับไฟล์เพลง ดังนั้น พี่ ๆ เพื่อน ๆ คงไม่ต้องกลัวผมผลาญหรอกครับ และเพราะยังมีท่าน ผบ. ผมอยู่คอยเตือนใจและคุมกระเป๋าด้วย อิ อิ
งบฯ ที่ผมตั้งไว้ โดยเทียบเคียงกะชุดในใจตอนนี้ ผม cap รายการที่ 1+2 ต้องต่ำกว่าที่เคยไปจอง LP12 group buy ไว้ (ประมาณ 100k) เลยออกมางี้ฮะ
1. TT+arm - 45k
2. หัวเข็ม - 25k
3. phono stage (xlr out) - 75k
แค่นี้ก็หรูสุด ๆ แล้วสำหรับผมครับ เล่นหัวเดียว แขนเดียว แน่นอนครับ :hb:
ไม่เหมาะกันสถานที่ตั้งเลยครับ
อย่างงี้เข้าท่ากว่า...........................................
1. TT+arm - 450k
2. หัวเข็ม - 250k
3. phono stage (xlr out) - 750k
จะเวอร์ไปหน่อยมั้ยอะฮะน้องแบล๊ค :lol:
เอาเป็นว่าขาย Rhea ให้พี่ในราคา JC3 แล้วกัน เห็นบ่นอยากได้งานของนายจอห์น มาเล่นไม่ใช่เรอะ ?
หรือว่าขยับขึ้นเป็นหัว Dyna 17D3 ดีครับ ?
ราคาทำให้เข้าใกล้สัดส่วนตามที่พี่พีเสนอ แถม recommended load resistance: > 100 ohms ซะด้วย
อันนี้ทาง Tone เขาเดาว่าน่าจะ match กับ RP6 เช่นกัน
http://www.tonepublications.com/analogaholic/rega-rp6/
เป็นผมจะเลือก...
Rega rp6 + ตัวคุมรอบ (เปลี่ยนแมทรองแผ่นเป็นไม้ค๊อก,เปลี่ยนตุ้มท้ายอาร์ม,แท่นรองดีๆ)
หัวเข็มMMดีๆ ที่ไม่ใช่ของRega อย่างเช่นShure v15 (ไม่รู้จะแมทช์กับอาร์มป่าว?)
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อแบรนด์นอกที่มีวงจรแค่กระจุกเดียว (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
แค่นี้ก็เหลือๆ :headphone:
ส่วนหัวMC+SUT ไว้อีกสักพัก....ถึงตอนนั้นท่านผบ.อาจจะมีคำสั่งให้อัพเกรดก็ล่ายกั๊บ
Quote from: klao on 25 May 2012, 09:51:58 pm
จะเวอร์ไปหน่อยมั้ยอะฮะน้องแบล๊ค :lol:
เอาเป็นว่าขาย Rhea ให้พี่ในราคา JC3 แล้วกัน เห็นบ่นอยากได้งานของนายจอห์น มาเล่นไม่ใช่เรอะ ?
เป๋าทะลุละครับ โดนโทนอาร์มตัวใหม่ไป
Quote from: jtr on 25 May 2012, 09:35:07 pm
โฟโน ก็ของคุณวิตติ์เลยคร้าบบบ :thumbup:
อู้ย... มีเชียร์กันด้วย ขอบคุณครับๆๆๆ :worshippy: :worshippy: :worshippy: อิ อิ :clown:
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อ (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
ฮือๆๆ :'( ทามมายย.....
ปัญหาการกวนจากมือถือ
ใช้ ฟาราเดย์เคจ ของตัวถังรุ่นต่อไปแก้ไขครับ น่าจะไม่เป็นปัญหาครับ :filrt:
*ขอโทษที่รบกวนกระทู้ครับพี่เกล้า :bowdown:
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
เป็นผมจะเลือก...
Rega rp6 + ตัวคุมรอบ (เปลี่ยนแมทรองแผ่นเป็นไม้ค๊อก,เปลี่ยนตุ้มท้ายอาร์ม,แท่นรองดีๆ)
หัวเข็มMMดีๆ ที่ไม่ใช่ของRega อย่างเช่นShure v15 (ไม่รู้จะแมทช์กับอาร์มป่าว?)
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อแบรนด์นอกที่มีวงจรแค่กระจุกเดียว (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
แค่นี้ก็เหลือๆ :headphone:
ส่วนหัวMC+SUT ไว้อีกสักพัก....ถึงตอนนั้นท่านผบ.อาจจะมีคำสั่งให้อัพเกรดก็ล่ายกั๊บ
ขอบคุณครับ เข้าใจว่า RP6 มีชุดคุมรอบมาให้ด้วยอยู่แล้ว สบายผมไป
เรื่อง phono คือผมติดใจหน้าตาขาว ๆ ของ JC3 อ่ะครับ
และเผอิญห้องมันใหญ่หน่อย เลยอยากได้ที่มี XLR out ลากสายยาวได้ 8-10 เมตรด้วย
หัว mc ถ้าใช้กันได้โดยไม่ต้องมี SUT ผมคงลุยไปเลยครับ...โดนบ่นครั้งเดียวดีกว่า :rolleyes:
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:19:23 pm
*ขอโทษที่รบกวนกระทู้ครับพี่เกล้า :bowdown:
ยินดี ไม่มีปังหาครับ รายละเอียดอยู่หนาย link กระทู้มาให้ดูหน่อยซิครับ
ผมขี้เกียจเซิร์ช
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:19:23 pm
Quote from: jtr on 25 May 2012, 09:35:07 pm
โฟโน ก็ของคุณวิตติ์เลยคร้าบบบ :thumbup:
อู้ย... มีเชียร์กันด้วย ขอบคุณครับๆๆๆ :worshippy: :worshippy: :worshippy: อิ อิ :clown:
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อ (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
ฮือๆๆ :'( ทามมายย.....
ปัญหาการกวนจากมือถือ
ใช้ ฟาราเดย์เคจ ของตัวถังรุ่นต่อไปแก้ไขครับ น่าจะไม่เป็นปัญหาครับ :filrt:
*ขอโทษที่รบกวนกระทู้ครับพี่เกล้า :bowdown:
มือถือเข้าแบบไหนครับ แบบ ตือติ๊ดๆ ปะครับ
(http://d1xw7fnq30zy05.cloudfront.net/uploads/image/image/479863/scaled_DSCN4530.JPG)
ตัวนี้น่าเล่นครับ
ให้ปั๊ม wisa ด้วย
ให้ Airtech surge tank/air reservoir
ราคาถ้าถึงมือ 800 USDx35 ได้นี่ไม่แพงกับสิ่งที่ได้เลย
ใพิมพ์ eminent ใน audiogon อะครับ ผมลิงค์มาไม่ได้
Quote from: klao on 25 May 2012, 10:28:08 pm
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:19:23 pm
*ขอโทษที่รบกวนกระทู้ครับพี่เกล้า :bowdown:
ยินดี ไม่มีปังหาครับ รายละเอียดอยู่หนาย link กระทู้มาให้ดูหน่อยซิครับ
ผมขี้เกียจเซิร์ช
ขอเชิญครับ Phono จาก Turntable ของคุณพี่หมอไกรฤกษ์ (http://www.thaiavclub.org/Forum/index.php?topic=6536.0)
Quote from: blackmore on 25 May 2012, 10:30:13 pm
มือถือเข้าแบบไหนครับ แบบ ตือติ๊ดๆ ปะครับ
ใช่ครับพี่ป๊อก ตือติ๊ดๆ แบบนี้เลยครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับพี่ :bowdown:
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:57:34 pm
Quote from: blackmore on 25 May 2012, 10:30:13 pm
มือถือเข้าแบบไหนครับ แบบ ตือติ๊ดๆ ปะครับ
ใช่ครับพี่ป๊อก ตือติ๊ดๆ แบบนี้เลยครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับพี่ :bowdown:
เล่นมากี่ตัวก็โดนครับ คือถ้าเอามือถือไว้ใกล้โฟโน, หัว หรือ สาย
ว่าแต่ฟาราเดเคจนี่น่าลองมาก
ถ้าชอบหน้าขาวๆก็นี่เลยคร๊าบบ... Tawnshend Rock 7 เสียดายบ้านเราไม่มีผู้นำเข้า
แต่ห้ามเอาไปเล่นแผ่นเสียงนา เดี๋ยวหน้าดำหมด...ฮา ล้อเล่งๆ :P
http://www.avguide.com/review/townshend-audio-rock-7-turntable-tas-209 (http://www.avguide.com/review/townshend-audio-rock-7-turntable-tas-209)
แต่คุณเกล้าไปอยู่ไกล้ธรรมชาติแล้ว ยังไงๆก็ต้องเล่นturnนะครับ ห้ามตกขบวนอนาล็อกเป็นอันขาด
กับเพลงที่ได้ยินได้ฟัง...มันจะเพราะขึ้นอีกหลายเท่าเลยอ่ะ
สถานีต่อไป...ไล่ล่าหาแผ่นความหลังฝังใจ อิอิ
Quote from: klao on 25 May 2012, 06:29:15 pm
ห้องฟังที่จะทำ ใช้แบบของ Rives แน่นอนครับพี่หวัง เพราะอุตส่าห์ไปยืมสะตังค์ค่าออกแบบจากท่าน ผบ. ไปจ่ายเขาแล้ว
แต่ที่ยังไม่แน่ใจ คือฝีมือช่างที่จะทำตามแบบ และเสียงที่จะออกมาฮะ ว่าจะโดนเพื่อน ๆ โห่รึเปล่า O0
ห้องชั้นบนด้านซ้ายของรูปครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0545.jpg)
บ้านสวยมากครับ :thumbup:
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:19:23 pm
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อ (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
ฮือๆๆ :'( ทามมายย.....
อ๋อ เพิ่งจะอ่านรู้ความ ผมตัดวรรคผิด ได้ความหมายเป็น ไม่กล้าซื้อของป๋ม ขออภัยที่เข้าใจผิดครับ :worshippy:
แต่จริงๆแล้วน้า Hexaphonic (ป๋มคิดเอง เออเอง :P) ต้องการพูดว่า
"Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้ว
ไม่กล้าซื้อแบรนด์นอกที่มีวงจรแค่กระจุกเดียว"
โฮ่ะๆๆ ยิปปี้ วี๊ดวิ้ว.. :jump: :thrilled: ขอบคุณครับๆๆๆ :worshippy: :worshippy: :worshippy:
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
เป็นผมจะเลือก...
Rega rp6 + ตัวคุมรอบ (เปลี่ยนแมทรองแผ่นเป็นไม้ค๊อก,เปลี่ยนตุ้มท้ายอาร์ม,แท่นรองดีๆ)
หัวเข็มMMดีๆ ที่ไม่ใช่ของRega อย่างเช่นShure v15 (ไม่รู้จะแมทช์กับอาร์มป่าว?)
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อแบรนด์นอกที่มีวงจรแค่กระจุกเดียว (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
แค่นี้ก็เหลือๆ :headphone:
ส่วนหัวMC+SUT ไว้อีกสักพัก....ถึงตอนนั้นท่านผบ.อาจจะมีคำสั่งให้อัพเกรดก็ล่ายกั๊บ
Quote from: Witti on 26 May 2012, 07:54:25 am
Quote from: Witti on 25 May 2012, 10:19:23 pm
Quote from: Hexaphonic on 25 May 2012, 10:05:34 pm
Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้วไม่กล้าซื้อ (แก้ปัญหาการกวนจากมือถือได้ยังอ่ะครับ?)
ฮือๆๆ :'( ทามมายย.....
อ๋อ เพิ่งจะอ่านรู้ความ ผมตัดวรรคผิด ได้ความหมายเป็น ไม่กล้าซื้อของป๋ม ขออภัยที่เข้าใจผิดครับ :worshippy:
แต่จริงๆแล้วน้า Hexaphonic (ป๋มคิดเอง เออเอง :P) ต้องการพูดว่า
"Phono ของคุณWitti อุปกรณ์ใช้แต่ของดีๆที่เห็นแล้ว ไม่กล้าซื้อแบรนด์นอกที่มีวงจรแค่กระจุกเดียว"
โฮ่ะๆๆ ยิปปี้ วี๊ดวิ้ว.. :jump: :thrilled: ขอบคุณครับๆๆๆ :worshippy: :worshippy: :worshippy:
ครับ
Quote from: klao on 25 May 2012, 06:29:15 pm
ห้องฟังที่จะทำ ใช้แบบของ Rives แน่นอนครับพี่หวัง เพราะอุตส่าห์ไปยืมสะตังค์ค่าออกแบบจากท่าน ผบ. ไปจ่ายเขาแล้ว
แต่ที่ยังไม่แน่ใจ คือฝีมือช่างที่จะทำตามแบบ และเสียงที่จะออกมาฮะ ว่าจะโดนเพื่อน ๆ โห่รึเปล่า O0
ห้องชั้นบนด้านซ้ายของรูปครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0545.jpg)
เพิ่งเห็นครับ บ้านเสร็จแล้วคงสวยมากครับ ฝีมือทำห้องนี่คงไม่เกี่ยวกับเสียงเท่าไหร่ ถ้าทำตรงตามสเป๊คทุกอย่าง
เสียงออกมายังไงก็ขึ้นอยู่กับแบบละครับ ไม่รู้ว่าแบบตกแต่ง พวกชิ้นส่วนตกแต่งผนังหรือเพดาน เขา built-in ทั้งหมดหรือว่าเลื่อนได้ ถ้าเลื่อนได้ก็จะง่ายในการปรับจูนนะครับ หรืออาจคุยกับช่างให้คิดวิธีติดตั้งที่สามารถขยับได้โดยของไม่เสีย
ผมว่าถ้าฟังแบบออดิโอฟายละก็ ได้เลื่อนกันแน่นอนครับ
Quote from: sw on 26 May 2012, 04:13:50 pm
เพิ่งเห็นครับ บ้านเสร็จแล้วคงสวยมากครับ ฝีมือทำห้องนี่คงไม่เกี่ยวกับเสียงเท่าไหร่ ถ้าทำตรงตามสเป๊คทุกอย่าง
เสียงออกมายังไงก็ขึ้นอยู่กับแบบละครับ ไม่รู้ว่าแบบตกแต่ง พวกชิ้นส่วนตกแต่งผนังหรือเพดาน เขา built-in ทั้งหมดหรือว่าเลื่อนได้ ถ้าเลื่อนได้ก็จะง่ายในการปรับจูนนะครับ หรืออาจคุยกับช่างให้คิดวิธีติดตั้งที่สามารถขยับได้โดยของไม่เสีย ผมว่าถ้าฟังแบบออดิโอฟายละก็ ได้เลื่อนกันแน่นอนครับ
bass traps ที่ติดสี่มุมห้อง กับตัวสะท้อนเสียงบนฝ้า (ในรูปเป็นตัวอย่างห้องคนอื่นฮะ) เป็น build in คงปรับยากหน่อย
แต่ diffusion panel หกแผ่นที่จะผนังด้านข้าง อาจเลื่อนตำแหน่งแขวนได้บ้าง ตอนห้องเสร็จแล้ว ต้องวัดค่าทางเสียงต่าง ๆ ส่งไปให้ Rives ดูด้วยครับ ว่าต้องแก้ไขอะไรรึเปล่า
ขอบคุณพี่หวังสำหรับข้อมุลร้านกระเบื้องลายโบราณนะครับ แวะไปดูและเลือกลายกันแล้ว อีกเจ้าคือสินพงศธร ถูกกว่าหน่อย แต่สุดท้ายผุ้รับเหมาเขาจะ shop around ดูอีกทีครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/gi.jpg)
ใครรู้จักเศรษฐี รสนิยมดี รักศิลปะไทย ช่วยบอกต่อหน่อยนะครับ ว่าคุณแม่ผมหาคนมารับดูแลเรือนแพหลังนี้ต่อให้หน่อย
ขนาดประมาณ 7 x 8 เมตร ส่วนราคา เดี๋ยวถามให้อีกที :)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_1460_resize.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_1484_resize.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3151.jpg) (http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3135.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3140.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3146.jpg) (http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3142.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3147.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_1497_resize.jpg)
อัพเดทห้องตัวเองต่อ หลังจากขาย Maggie 3.6 ไปเมื่อปีกลาย แล้วยืมลำโพง Triangle เค้ามาใช้อยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่ค่อยอยากฟังเพลง เพราะเสียงไม่ถูกหู
เมื่อเดือนก่อน ได้ 1.7 มาใช้ใน town house ไปก่อน happy ขึ้นเยอะเลยครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0607.jpg)
คนที่ชินเสียงลำโพงแผ่น จะทนฟังลำโพงตู้ไม่ได้นาน...น่าเห็นใจ
บ้านเสร็จ ผมขอไปเยี่ยมชมด้วยนะครับ
อยากไปฟังแมกกี้ชนิดไร้ขีดจำกัดสักครั้ง
อ้อ ไรเวสเขาชำนาญอะคูสติคลำโพงแผ่นหรือเปล่าครับ มันคนละเรื่องกับลำโพงกล่องเลยนะครับ
เรื่องเรือนแพ
ผมว่าต้องลงเว็บต่างขาติแหละครับ คนไทยที่ใจถึงหายาก
ปล
100 บาตอง รอคุณเกล้าจนเปื่อยแล้วนา
เท่าที่ได้ติดตาม...ผมคิดว่า คุณเกล้า เป็นนักเล่นที่ไปชมไปฟังเพลงคอนเสิร์ตสดๆบ่อยมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว
นอกจากได้ดื่มด่ำในดนตรีสดๆแล้ว...ยังเป็นภูมิคุ้มกันในการเล่นเครื่องเสียงที่ดีอีกด้วย
นั่นหมายความว่า เสียงที่ได้จากลำโพงแผ่น มีความใกล้เคียงกับเสียงจากการฟังสด....รึเปล่า?
Quote from: pee on 09 August 2012, 07:55:46 pm
คนที่ชินเสียงลำโพงแผ่น จะทนฟังลำโพงตู้ไม่ได้นาน...น่าเห็นใจ
บ้านเสร็จ ผมขอไปเยี่ยมชมด้วยนะครับ
อยากไปฟังแมกกี้ชนิดไร้ขีดจำกัดสักครั้ง
อ้อ ไรเวสเขาชำนาญอะคูสติคลำโพงแผ่นหรือเปล่าครับ มันคนละเรื่องกับลำโพงกล่องเลยนะครับ
เรื่องเรือนแพ
ผมว่าต้องลงเว็บต่างขาติแหละครับ คนไทยที่ใจถึงหายาก
ปล
100 บาตอง รอคุณเกล้าจนเปื่อยแล้วนา
ตอนนี้ กลับมาฟังเพลงอย่างมีความสุขขึ้นเยอะฮะพี่
สงกรานต์หน้า บ้านปากช่องน่าจะเสร็จชัวร์ ๆ เรียนเชิญทุกท่านล่วงหน้าครับ
เพิ่งได้ถาม dealer ว่า Rives ตกลงมันออกเสียงไงแน่ เขาบอกว่า "รีฟส์" ฮะ ผมก็ ไรเวส ๆ อยู่ตั้งนาน :whistling:
ตอนจะเป็นลูกค้า ต้องกรอกใบสมัครค่อนข้างละเอียด ให้บอกว่าเราใช้อุปกรณ์ อะไรยังไง มีแผนเปลี่นมั้ย ห้องใช้ทำอะไรดูหนังหรือฟังเพลงมากกว่า เน้นเสียงหรือสวยมากกว่ากัน นั่งกี่คน ฯลฯ
ดูใน port รูปห้องลูกค้าและ articles ที่ลงใน magazine/internet เห็นเขาทำให้พวกสาวก Maggie อยุ่เหมือนกันครับ ส่วนนาย Richard Bird เองที่เป็นคนออกแบบ ก็บอกผมว่ามี Martin Logan อยุ่ชุดนึง คุย ๆ กันแล้ว รุ้สึกว่าคงไม่มั่ว มีหลักการอยุ่บ้าง และน่าจะเข้าใจเรื่องลำโพงแผ่น ว่าควรวางห่างผนังด้านหลัง แต่ต้องไม่ห่างเกินไป
เรือนแพจากอยุธยาหลังนั้น ตอน folk museum ของเกาหลีมา เขาก็อยากได้ แต่กรมศิลป์/พิพิธฯ แห่งชาติ ท่านบอกว่า ห้ามนำออกนอกประเทศครับ
มาลงชื่อไว้ก่อนเลย คิว 0
พี่พีคิว 1
Quote from: Hexaphonic on 09 August 2012, 08:13:17 pm
เท่าที่ได้ติดตาม...ผมคิดว่า คุณเกล้า เป็นนักเล่นที่ไปชมไปฟังเพลงคอนเสิร์ตสดๆบ่อยมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว
นอกจากได้ดื่มด่ำในดนตรีสดๆแล้ว...ยังเป็นภูมิคุ้มกันในการเล่นเครื่องเสียงที่ดีอีกด้วย
นั่นหมายความว่า เสียงที่ได้จากลำโพงแผ่น มีความใกล้เคียงกับเสียงจากการฟังสด....รึเปล่า?
ผมรู้สึกว่า มันค่อนข้างจะใกล้เคียงพอสำหรับผมครับพี่ ถึงแม้เรื่องได้นามิค ความหนักแน่นจะไปไม่ค่อยไหว
ไม่รุ้เพราะมันไม่ precise (เสียงฟุ้ง ๆ หน่อย) และ waveform มันเป็นธรรมชาติ เนื่องจากไม่มีกล่อง และสปีดมันกระชับเร็วรึเปล่า ?
แต่ด้วย low-medium price/ high performance อย่างนี้ เหมาะกับผมมาก :rolleyes:
ต้องขอบคุณบารมีคุณพ่อผมครับ เลยทำให้ผมได้ตั๋วฟรีไปฟังเพลงบ่อย ๆ
Quote from: klao on 09 August 2012, 08:14:09 pm
ปล
100 บาตอง รอคุณเกล้าจนเปื่อยแล้วนา
เรือนแพจากอยุธยาหลังนั้น ตอน folk museum ของเกาหลีมา เขาก็อยากได้ แต่กรมศิลป์/พิพิธฯ แห่งชาติ ท่านบอกว่า ห้ามนำออกนอกประเทศครับ
[/quote]
ขอบคุณที่บอหเสียงอ่านครับ
100 บาตอง ยังไม่ตอบ จะรอสงกรานต์เลยใหม
เรื่องเรือนแพ ถ้าต้องการจริงให้ทางเกาหลีทำเรื่องมา คงสำเร็จครับ
จะให้ผมกำลังภายในไปทางอธิบดีป่าว...แต่ผลอาจจะออกมาเนกกะตีปนะ เพราะคุยตรงเขาอาจจะหักคอเราได้
แต่ผมยังสนับสนุนให้อาจารย์วิสุตาส่งมอบทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหมดให้คนที่พร้อมกว่า ดูแลครับ
ผมก็จะทำเช่นกัน ถ้าผมมีของมีค่าอย่างของอาจารย์ เมืองไทยยังไม่พร้อมที่จะดูแลมรดกของตนเอง ทิ้งไว้ก็จะสลายตัวไปตามยถากรรม เราก็จะทำได้แค่นั่งดูอย่างเจ็บปวด
อาจารย์ยูร ท่านมอบห้องสมุดส่วนตัวให้ศิลปากร
แทนที่พวกนั้น จะจัดตู้จัดมุมให้ท่านเป็นการจำเพาะ มันเอาหนังสือทั้งหมด แยกกระจายให้พวกมือหนักตีนหนักเอาไปใช้กัน บางเล่มยืมออกได้ด้วย นี่แหละครับ ความรักประเทศชาติในทางที่ผิด
ผมเคยฟังในงาน BAV เป็นรุ่น 1.7 ตอนที่ออกงานครั้งแรก ร้านสวนเสียง เขาเปิดเพลงจากเทิร์น
งงเลย...เสียงเบสมาได้งัยอ่ะ เสียงจากลำโพง line source มันฟังดีฟังสบายงี้นี่เอง นั่งฟังอยู่นานทีเดียว
อยากถามคุณเกล้าว่า แมกนีแพนมีคู่แข่งมั้ยครับ ที่เป็นประเภท line source ด้วยกันเนี่ย?
Quote from: pee on 09 August 2012, 08:39:34 pm
ขอบคุณที่บอหเสียงอ่านครับ
100 บาตอง ยังไม่ตอบ จะรอสงกรานต์เลยใหม
เรื่องเรือนแพ ถ้าต้องการจริงให้ทางเกาหลีทำเรื่องมา คงสำเร็จครับ
จะให้ผมกำลังภายในไปทางอธิบดีป่าว...แต่ผลอาจจะออกมาเนกกะตีปนะ เพราะคุยตรงเขาอาจจะหักคอเราได้
แต่ผมยังสนับสนุนให้อาจารย์วิสุตาส่งมอบทรัพย์สินอันมีค่าทั้งหมดให้คนที่พร้อมกว่า ดูแลครับ
ผมก็จะทำเช่นกัน ถ้าผมมีของมีค่าอย่างของอาจารย์ เมืองไทยยังไม่พร้อมที่จะดูแลมรดกของตนเอง ทิ้งไว้ก็จะสลายตัวไปตามยถากรรม เราก็จะทำได้แค่นั่งดูอย่างเจ็บปวด
อาจารย์ยูร ท่านมอบห้องสมุดส่วนตัวให้ศิลปากร
แทนที่พวกนั้น จะจัดตู้จัดมุมให้ท่านเป็นการจำเพาะ มันเอาหนังสือทั้งหมด แยกกระจายให้พวกมือหนักตีนหนักเอาไปใช้กัน บางเล่มยืมออกได้ด้วย นี่แหละครับ ความรักประเทศชาติในทางที่ผิด
รอรับบาตอง 100 เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่จากพี่แล้วกัน ขอบพระคุณพี่ล่วงหน้าครับ
ถ้าไม่จำเป็นผมไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับทางกรมฯ เท่าไหร่ฮะ ทั้ง ๆ ที่บ้านก็เคยบริจาคของให้ไปหลายอย่าง เรื่องเรือนแพ และของบางชิ้นที่บ้าน ทางกรมฯ โดย คกก.ที่มาจากพิพิธฯ แห่งชาติ เคยทำหนังสือตอบไปยังเกาหลี เป็นทางการแล้วครับ ว่าอะไรให้ซื้อ อะไรห้ามนำออก ก็ด้วยคราวเดียวกันนั้น เกาหลีอยากได้เตียงฝีมือช่างจีน แต่ คกก. ไม่ให้เอาออก แม่ผมก็เลยบอกว่า อ้าวไม่ใช่เตียงไทยซะหน่อย
พิพิธฯ กาญจนาฯ โดยท่านอดีต ผอ. และอดีตท่านรองอธิบดี เลยบอกว่าจะรับไว้เอง ตกลงราคากันได้ แม่ผมก็ไว้ใจ คุยกับแบบผู้ใหญ่กันแล้ว เลยส่งของไปให้ทางพิพฺิธฯ ก่อน โดยมีหนังสือส่ง/รับมอบของ แม่ผมบอกเขาว่ามีงบฯ ปีหน้าออกมาแล้ว ก็ค่อยเอามาจ่ายแล้วกันทีหลัง ผ่านไปปีกว่า ๆ ก็เงียบ คุณแม่เลยโทรไปถามท่านอธิบดี แทงเรื่องกันไปมา บอกว่าตอนนั้นทำผิดกระบวนการจัดซื้อ หรือจะเป็นด้วยเรื่องการเมืองภายใน ก็สุดแล้วแต่ ขี้เกียจฟ้องร้อง ให้ส่งของกลับมา จบเรื่องกันไปฮะ
คุณหมอวิชัย เพื่อนคุณพ่อที่เสียไปก่อน ก็เคยมอบพวกเครื่องปั้นดินเผาให้กรมฯ ผมจำไม่ได้ว่าสุโขทัย หรือบ้านเชียง แต่พ่อเล่าให้ฟังว่า ไม่ค่อยแยแส เอาไปส่งก็ให้กอง ๆ ไว้ตรงไหนซักแห่ง หนังสือตอบรับ/ขอบคุณ ถ้าไม่ทวง ก็ไม่อยากทำ อะไรประมาณนั้นง่ะครับ น่าเซ็งที่สุด
ผมดีลงานกับทางพิพิธฯ เกาหลีแล้วนี่ รู้เลยว่า คงอีก 100 กว่าปี กว่าบ้านเราคงไปใกล้เขาในตอนนี้ สำหรับการให้ความสำคัญกับศิลปะวัฒนธรรม
Quote from: Hexaphonic on 09 August 2012, 08:41:04 pm
ผมเคยฟังในงาน BAV เป็นรุ่น 1.7 ตอนที่ออกงานครั้งแรก ร้านสวนเสียง เขาเปิดเพลงจากเทิร์น
งงเลย...เสียงเบสมาได้งัยอ่ะ เสียงจากลำโพง line source มันฟังดีฟังสบายงี้นี่เอง นั่งฟังอยู่นานทีเดียว
อยากถามคุณเกล้าว่า แมกนีแพนมีคู่แข่งมั้ยครับ ที่เป็นประเภท line source ด้วยกันเนี่ย?
แต่ก่อนน่าจะเป็น Apogee เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่นับ ESL ทั้งหลายอย่าง Quad/ML/Sanders/Acoustat ที่ผมนึกออกน่าจะมีสอง-สามเจ้านี้ครับ
คงไม่ใช่คู่แข่ง เพราะระดับราคานี่ น่าจะห่างไกลกันพอสมควร
http://www.wisdomaudio.com/products_wisdom-ls4-ls3.php
http://www.gilmoreaudio.com/products/index.html
http://steinwaylyngdorf.com/products/model-ls-speaker
ยังมีอีกยี่ห้อ ทำคล้าย ๆ Apogee ยังขายและเคยเห็น review อยุ่ แต่ผมจำไม่ได้ครับ
เจอแล้วครับ อีกสองสามยี่ห้อ
http://www.analysisaudio.com/index.php
http://www.eminent-tech.com/main.html
http://www.soundlab-speakers.com/products.htm
บ้านเรือนแพสวยมาก รักษาไว้ได้ดีมากครับ เห็นอยู่บนบกนี่ครับ ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน
ขนขึ้นบกมาจากอยุธยา เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
ตอนนี้อยู่ที่แม่แรม เชียงใหม่ เจ้า
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3150.jpg) (http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3143.jpg)
ลอกลายฉลุ มาทำยอดประตู/หน้าต่าง บ้านที่ปากช่องเรียบร้อยแล้วครับ
แต่ฝีมือคงสุ้ช่างโบราณไม่ได้
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Ruen%20Pae/IMG_3133.jpg)
ลายแกะเส้นเล็กๆที่ลูกฟักช่องบนนั่นทำยากกว่าลายฉลุที่ช่องล่างอีกนะ พลาดนิดเดียวต้องทิ้งไม้ทั้งแผ่นเลย ลายฉลุช่องล่างนั่นค่อยๆแซะออกทีละนิดได้ แต่ช่างแกะสมัยนี้ก็ทำไม่เนี้ยบทั้งสองแบบนั่นแหละ
สัดส่วนของบานประตู มันบังคับให้ต้องเอาลายฉลุ มาเฉพาะส่วนกลางของต้นฉบับ
งานออกมา ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ อ้วน ๆ ตัน ๆ ไปหน่อย แต่ก็พอดูได้ฮะพี่ คงต้องจำยอมแล้ว เดี๋ยวบ้านไม่เสร็จซะที
มีแบบดีๆอย่างน้อยก็ต้องออกมาสวยระดับนึงแล้วล่ะครับ เสร็จแล้วคงได้ไปปาร์ตี้ในบ้านสวยท่ามกลางธรรมชาติแน่ๆ :beer:
รู้ช้าไป
เพื่อนผมเป็นมือขวาเสี่ยเล็ก...บอกเด็กๆ ที่เมืองโบราณรับจ๊อบได้
ขอบคุณครับพี่พี สถาปนิกผม เขาให้ช่างแกะทางเชียงใหม่จัดการไปหมดซะแล้ว
พูดถึงเสี่ยเล็ก เพื่อนพี่คนนี้ ช่วยทำปราสาทสัจธรรม แถว ๆ หาดวงพระจันทร์ (นาเกลือ-พัทยา) ด้วยรึเปล่าครับ
พอดีญาติผมมีบังกะโลว์อยู่แถวนั้น ที่บ้านไปเที่ยวกันทีไร พ่อผมบ่นปราสาทของท่านเสี่ยทุกที :D
อัพเดทเรื่อง TT เตรื่องแรกในชีวิตของผมครับ
เมื่ออาทิตย์ก่อน สรุปผมได้ตกลงปลงใจกับ VPI Classic 1 ไปซะแล้ว พอดีเจ้าของเก่าให้ผ่อนได้นิดนึง
เพื่อนผมเป็น Visualizer ผลงานก็ออกมาเข้าท่าอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยไปดูสักที
เสี่ยแกบอกวิธีดูให้ด้วย .....อยากไปลองสักหน่อย
(http://www.bloggang.com/data/katzila/picture/1158679738.jpg)
Quote from: klao on 16 August 2012, 03:58:05 am
อัพเดทเรื่อง TT เตรื่องแรกในชีวิตของผมครับ
เมื่ออาทิตย์ก่อน สรุปผมได้ตกลงปลงใจกับ VPI Classic 1 ไปซะแล้ว พอดีเจ้าของเก่าให้ผ่อนได้นิดนึง
โหตัวแรกก็น่าจะเอาให้สมกับบ้านอันใหญ่โตของพี่เกล้าหน่อย ฮี่ฮี่ๆ
vpi classic 1 เจ้าของเดิมคือคุณหมอแห่งสำนัก "กาเป๋าแหลก" รึเปล่าครับ? (ขอประทานโทษที่เอ่ยนาม :bowdown:)
ถ้าใช่..ผมว่าชุดนี้ก็ดีมากๆแล้วล่ะครับ เห็นมีครบทุกอย่างเลยนี่ครับ ไม่ต้องอัพเกรดอะไรอีกแล้ว :thumbup:
อีกอย่าง รู้จักกับเจ้าของเดิม+ตัวแทนก็เป็นเจ้าเดียวกับลำโพงแผ่น ก็สบายใจเรื่องการบำรุงรักษาด้วย
แหะ ๆ...ใช้แล้วครับ แต่ตอนนี้ขาดหัวเข็ม กะโฟโน สงสัยจะต้อง กะเป๋าแหลก เพิ่มในไม่ช้า
ก็ดู ๆ ของของตัวแทนเจ้าเดียวกันอยู่เหมือนกันครับ จะได้ขอลองให้หายค่อยใจก่อนตัดสินใจซื้อ และอาจขอเครดิตนาน ๆ หน่อย :P
Quote from: pee on 16 August 2012, 05:07:17 am
เพื่อนผมเป็น Visualizer ผลงานก็ออกมาเข้าท่าอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยไปดูสักที
เสี่ยแกบอกวิธีดูให้ด้วย .....อยากไปลองสักหน่อย
(http://www.bloggang.com/data/katzila/picture/1158679738.jpg)
ภาพนี้เป็นภาพถ่ายจากที่จริงรึเปล่าครับ เห็นมุมมองของปราสาทกับมุมมองของพื้นที่ดูเหมือนกับเป็นคนละมุมกันน่ะครับ
ตอบม่ายล่าย...ม่ายเคยไปกั๊บ
(http://www.khunsri.com/wp-content/uploads/2008/2108/sancturyoftruth_travelby_khunsri_pattaya07.jpg)
(http://www.khunsri.com/wp-content/uploads/2008/2108/sancturyoftruth_travelby_khunsri_pattaya06.jpg)
รู้แต่ว่า มันผิดกฎหมายครับ
ชายทะเลห้ามออกโฉนด.....แต่พวกเล่นทำกำแพงกับป้อมซะอย่างนั้น
เจ้าหน้าที่ตาบอดแน่ๆ
ที่ญาติผมอยู่กลาง ๆ หาด ถ้ามองออกทะเล ปราสาทของเสี่ยเล็กอยู่ทางแหลมด้านซ้าย ส่วนด้านขวา ก็เป็นโรงแรมของลูก ๆ กำนัน...
เสียดายแหลมทั้งสองด้าน ซึ่งแต่ก่อนเป็นโขดหินธรรมชาติ พอน้ำลงพวกผมเด็ก ๆ ก็จะปีนไปดูปูปลาในแอ่งน้ำที่ยังขังอยู่
ตอนนี้เป็นคอนกรีต ถมเข้าไปในทะเลกันหมดแล้วครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0342.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0350.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0356.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0347.jpg)
ป.ล. ใครอยากได้ที่เช่า 30 ปีทำรีสอร์ทหรู ๆ ซัก 8 ไร่ (หน้าหาดกว้างร้อยกว่าเมตร) ก็บอกมานะครับ แต่ค่าเช่าเขาจะเอาแพงส์มากทีเดียว :P
โฉนดริมทะเลใบสุดท้ายน่าจะเป็นปี 38 หรือประมาณนั้น ถึงจะมีโฉนดอยู่ก่อน แต่ก็ไม่น่าจะผ่าน พรบ.ควบคุมอาคาร
ปราสาทหลังนี้เห็นแล้วบอกไม่ถูก ไม่เคยเห็นตึกทรงไทยแบบนี้อยู่ริมทะเลเลย รู้สึกขัดบรรยากาศ เหมือนมาอยู่ผิดที่ผิดทาง ยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเป็นวิวริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือกลางกรุงก็คงสวย
ที่เช่าราคาประมาณเท่าไหร่ครับคุณเกล้า
คุณตา-คุณยาย (ซึ่งจริง ๆ แล้วมีศักดิ์เป็น grand uncle/auntie เพราะคุณตาท่านเป็นลูกพี่ลูกน้อง กับคุณตาแท้ ๆ ของผม) ไปตั้งรกรากอยู่ทางนาเกลือ/บางละมุง ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเรียกเมืองพัทยา โดยไปทำธุรกิจเป็นบังกะโลว์เจ้าแรกของที่นั่น ก็คงจะประมาณ 60 ปีมาแล้ว
คุณตาของผมท่านนั้นเป็นเพื่อนกับเสี่ยเล็ก และแนะนำให้ไปซื้อที่แปลงตรงแหลมด้านนู้นเองครับ ผมเห็นเขาเริ่มก่อสร้างปราสาทมา ก็น่าจะเกือบ 30 ปีได้แล้วกระมัง
http://www.moonlightonsea.com/index.php?Lang=Th&Page=6
http://www.moonlightonsea.com/index.php?Lang=Th&Page=4
ตอนนี้ น่าจะเป็นที่ริมหาดแปลงสุดท้าย ที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ ๆ เยอะที่สุดในเมืองพัทยาครับ
Quote from: sw on 16 August 2012, 06:42:30 pm
ที่เช่าราคาประมาณเท่าไหร่ครับคุณเกล้า
คุณยายผม คงเริ่มคุยค่าเช่ากันแถว ๆ 700 ลบ. ครับพี่หวัง อาจต่อรองได้นิดหน่อย
เงื่อนไขอื่น ๆ ของท่านก็โหดพอสมควร น่าจะหาเจ้าที่ใจถึงและเงินถึงได้ไม่ง่ายนัก :headphone:
Quote from: klao on 16 August 2012, 10:54:37 pm
Quote from: sw on 16 August 2012, 06:42:30 pm
ที่เช่าราคาประมาณเท่าไหร่ครับคุณเกล้า
คุณยายผม คงเริ่มคุยค่าเช่ากันแถว ๆ 700 ลบ. ครับพี่หวัง อาจต่อรองได้นิดหน่อย
เงื่อนไขอื่น ๆ ของท่านก็โหดพอสมควร น่าจะหาเจ้าที่ใจถึงและเงินถึงได้ไม่ง่ายนัก :headphone:
:o 700 ล้าน :oops: คงหาคนเช่ายากจริงๆละครับ
เขาคิดจากราคาที่ไร่ละ 175 แล้วคูณ 8 ไร่ และเอา 50% ไปแอพพลายด์ฮะ
เห็นน้า ๆ เล่าให้ฟังว่า ยิวอยากจะมาขอซื้อทั้งแปลงใหญ่ 18 ไร่ เลยบอกไปเล่น ๆ สามพันห้า (ให้นายหน้าห้าร้อย)
ดันจะมาเอาจริง เตรียมนัดทูตอิสราเอลมาร่วมเซ็นสัญญา ยายผมเลยตกกาใจ ไม่ขายแระ :wow:
เสียดาย...ผมไม่ใช่หลานแท้ ๆ :dribble:
ดีใจด้วยที่ไม่ขายครับ พวกต่างชาตินี่ถ้าซื้อได้ เท่าไหร่ก็ซื้อหมด ที่เมืองไทยป่านนี้เป็นของต่างชาติไปเกินครึ่งแล้วมั๊ง ถ้าคิดตามราคาก็คงเกินครึ่งไปแล้ว
Quote from: sw on 17 August 2012, 03:15:27 pm
ดีใจด้วยที่ไม่ขายครับ พวกต่างชาตินี่ถ้าซื้อได้ เท่าไหร่ก็ซื้อหมด ที่เมืองไทยป่านนี้เป็นของต่างชาติไปเกินครึ่งแล้วมั๊ง ถ้าคิดตามราคาก็คงเกินครึ่งไปแล้ว
ขอย้ายไปกระทู้เรื่องออกทะเลแทนครับ
ไม่ได้เป็น new member มานานแล้ว เลยขอเปลี่ยนชื่อกระทู้ห้องตัวเองเป็น my maggie system แล้วกันครับ
เมื่อวานไปหอศิลป์ กทม. ที่แยกปทุมวัน เพราะเขายืมรูปนี้ที่ อ.อวบ วาดพี่สาวผมไปแสดง เลยต้องไปเช็คความเรียบร้อย (ปรากฎว่าใส่ caption รูปผิดตามฟอร์ม)
ใครว่าง ๆ ก็น่าไปชมนะครับ ยังมีผลงานของ อาจารย์อาวุโสท่านอื่น ๆ แสดงด้วย
http://w3.bacc.or.th/exhibition/detail/guid/622e389f5065981a785d3f8b9fcb38cc
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/CRW_2053s_zps76965224.jpg)
จนแล้วจนรอด ผมก็ยังไม่ได้เหยียบไปในสถานที่แห่งนี้ซักที
นิทรรศการนี้ มีงานน่าไปดูมากใหมครับ
ไม่เยอะแบบอิ่มหนำใจครับพี่ แต่พอจะคุ้มเดินทางไปตอนค่ำวันอาทิตย์ที่รถไม่ติด
ผมแวะเดินตรวจการติดตั้งงานคุณพ่อแป้ปเดียว จำได้คร่าว ๆ ว่ามีงานปั้น อ.ศิลป์ 2-3 ชิ้น; อ.เฟื้อ 2-3 รูป; อ.ยูล 1 รูป; อ.จักรฯ 2-3 รูป; ท่านอังคาร ภาพสีใหญ่จาก ธปท. 1 รูป; และศิลปินแห่งชาติ/ศิลปินอาวุโสท่านอื่น ๆ น่าจะครบคนละรูปสองรูป
Quote from: klao on 24 September 2012, 09:19:47 pm
ไม่เยอะแบบอิ่มหนำใจครับพี่ แต่พอจะคุ้มเดินทางไปตอนค่ำวันอาทิตย์ที่รถไม่ติด
ผมแวะเดินตรวจการติดตั้งงานคุณพ่อแป้ปเดียว จำได้คร่าว ๆ ว่ามีงานปั้น อ.ศิลป์ 2-3 ชิ้น; อ.เฟื้อ 2-3 รูป; อ.ยูล 1 รูป; อ.จักรฯ 2-3 รูป; ท่านอังคาร ภาพสีใหญ่จาก ธปท. 1 รูป; และศิลปินแห่งชาติ/ศิลปินอาวุโสท่านอื่น ๆ น่าจะครบคนละรูปสองรูป
ถ้าตามนี้ ก็ไม่ต้องไปดู
หึหึ
แต่แนะนำว่า เฉพาะรูปพี่อังคาร ถ้าไม่เคยเห็นของจริง ให้แวะไปชมครับ
ปกติเขาแปะไว้แถวๆ ชั้นผู้บริหารธปท. มั้ง เข้าไปดูยาก
เมื่อยกออกมาอย่างนี้ ใครสนใจก็ควรจะไปชมสักครั้ง
ชิ้นนี้เด็ดมากครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0613.jpg)
วันนี้ผมมีความสุขมากครับ ที่ได้ฟัง CD reference ของ reel transfers จาก Bernie Grundman Mastering แล้วปรากฎว่าเทปมาสเตอร์สองม้วน สำหรับแผ่นเสียง พวงร้อย และ พวงร้อย ๒ อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ 17 เพลง จากทั้งหมด 22
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0615.jpg)
จาก LP อัลบั้ม พวงร้อย (ปกเขียวเข้ม) ซึ่งมีทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 9 tracks
ขาดเพลงที่ 3 หน้า 1 "หัวใจเดียว" และเพลงที่ 2 หน้า 2 "ไม้งาม"
จาก LP ชุด พวงร้อย ๒ (ปกแดงเลือดหมู) ทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 8 tracks
ขาดเพลงที่ 2 หน้า 1 "โอ้ความรัก" เพลงที่ 6 หน้า 1 "Thai Walk" และเพลงที่ 5 หน้า 2 "ต้อนกระบือ"
ในเทป reel มีเพลง "สายซีหมอง (สายสมร)" ซึ่งไม่ได้อยู่ในอัลบั้มทั้งสอง ติดอยู่อีก 1 track ร้องนำโดยคุณวิสุตา กับวงออเคสตร้า แต่ไม่ทราบว่าวงไหนครับ
ดีใจด้วยครับ
แทรคที่ใช้ไม่ได้ ก้หาจากแหล่งอื่นเติมเข้าไปเป็นส่วนเพิ่มเติมเถอะครับ
คุณค่านั้นไม่ได้อยู่ที่คุณภาพเสียงเพียงอย่างเดียว
และถ้าจะทำบุ้คเลตด้วยก็ยิ่งเริ่ด
แพงหน่อยคนก็สู้ครับ
Quote from: pee on 14 October 2012, 05:37:23 am
ดีใจด้วยครับ
แทรคที่ใช้ไม่ได้ ก้หาจากแหล่งอื่นเติมเข้าไปเป็นส่วนเพิ่มเติมเถอะครับ
คุณค่านั้นไม่ได้อยู่ที่คุณภาพเสียงเพียงอย่างเดียว
และถ้าจะทำบุ้คเลตด้วยก็ยิ่งเริ่ด
แพงหน่อยคนก็สู้ครับ
ขอบคุณครับพี่ ผมขอไปคุยกะทางคุณ Ying ซึ่งเป็น producer ของ ORG และผู้เกี่ยวข้องก่อนครับ ว่าคุณ Bernie เขาจะยอมให้เอา LP rip ซัก 4 tracks เข้าไปผสมในการ re-mastering และการผลิต LP กับ CD ใหม่ในคราวนี้ด้วยรึเปล่า
เรื่อง booklet ก็อยากจะทำครับ เรียนเชิญพี่พี เป็นที่ปรึกษาให้ผมสำหรับ Project นี้ด้วย จะได้มั้ยครับ
Quote from: klao on 14 October 2012, 06:02:16 am
เรื่อง booklet ก็อยากจะทำครับ เรียนเชิญพี่พี เป็นที่ปรึกษาให้ผมสำหรับ Project นี้ด้วย จะได้มั้ยครับ
ยิ่งกว่ายินดีครับ
ขอบคุณมากครับผม
นอกจากประวัติและเกียรติคุณท่านผู้หญิง ตลอดจนเบื้องหลัง/ข้อมูลการบันทึก album สองชุดนี้แล้ว อยากจะหานำเนื้อเพลงมาใส่ไว้ใน booklet ด้วยครับ แต่คงต้องไปขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธ์/ทายาทผู้แต่งคำร้อง
ที่สำคัญกว่านั้น ต้องรีบไปคุยกะ potential sponspor ขาใหญ่ ซะก่อง ^_^
ยินดีด้วยครับ
และก็อยากฟังด้วยอ่ะ
นั่งฟัง reel transfers จาก BGM เทียบกับ CD ที่ใช้สตูฯ ในไทยทำเมื่อปี 2540 (กูเกิ้ลชื่อดู เห็นในฐานข้อมูล ก.พาณิชย์ บอกว่าจุ้งกระเบ๋งไปเรียบร้อย) แล้ว คิดว่างานนี้ ผมคงไม่น่าจะโดนฝรั่งหลอก และอาจพูดได้ว่า I get what I paid for...
เพราะหูถั่ว ๆ ของผมพอจะได้ยินความแตกต่างจาก files ของ BGM ในทางที่ดีอยู่บ้าง จนทำให้ผมคิดว่า ขนาดทำแค่ transfering เฉย ๆ ยังได้ขนาดนี้แล้ว ไฉนจะต้องเสียตั้งค์เพิ่ม ให้มาปรับอีคิว ฯลฯ ในการ remastering อีกทำไม ชั่วโมงละตั้ง US$400 แต่เพื่อจะโฆษณาได้อย่างเต็มที่และสุจริต ว่าชุดนี้ได้ให้ BGM ทำ remastering จริง ๆ เลยเข้าไปดูข้อมูลของ BGM อีกซะหน่อย
พี่ท่านนึงใน TAC ที่ติดตาม project แผ่นเสียงพวงร้อย ได้กรุณาหาข้อมูลเกี่ยวกับนาย Bernie Grundman มาแชร์ไว้ทางนู้นซักพักใหญ่ ๆ แล้ว แต่ผมเพิ่งได้ดู video เกี่ยวกับ studio และ interview ของเค้า
น่าสนใจนะครับ
ไล่ดูกันเพลินๆทั้งหมด 6 ตอน
http://www.youtube.com/watch?v=6C6F3HPgtFk
นี่ก็ด้วยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=I7pvIfbCTTc&playnext=1&list=PL0AB4A673A8CFD027&feature=results_main
ยินดีด้วยครับ และจะคอยตืดตามความก้าวหน้าของทั้งสองแผ่น
ผมขอเชียร์เรื่องการริบแผ่นสำหรับเพลงที่มาสเตอร์เสียหายครับ
เห็นด้วยกับการริปแทรคที่เหลือจากแผ่นเสียงครับ
เรื่องกระบวนการริปแผ่น , เครื่อง A to D อยากให้ลองปรึกษาคุณ Joe Poster ดูครับ
วันนั้นที่แกมาทำที่บ้านนี่ เสียงแทบจะไม่ต่างจากการเล่นด้วยแผ่นเสียงเลย loss น้อยมาก
แกให้คุณพงศ์พันธ์ กับน้องๆแกมาทำให้ (ใช้โปรแกรม cubase บน Mac , A2D ใช้ยี่ห้อ RME) แป๊บเดียวเสร็จ
คุณโจเขาได้ตระเวนลองริปแผ่นเสียงจาก turntable system รุ่นใหญ่ๆหลายๆชุดในบ้านเรา แกน่าจะมีข้อมูลจากที่แกริปมาว่า จากแท่นไหนเสียงดีี่ที่สุด
หากทาง Bernie เขาไม่มายด์ ที่จะนำ tracks จากแผ่นเสียงเดิมมาทำ remastering ให้ในคราวนี้ ผมจะได้ explore options ทางด้านเทคนิคและขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไปครับ
ใจผมก็อยากให้มีครบทุกเพลง แต่อย่างไรผมขอหารือ/convince คุณ Ying คุณวุฒิ และผู้สนับสนุนทางการเงินก่อนนะครับ :headphone:
Quote from: klao on 14 October 2012, 10:55:51 pm
หากทาง Bernie เขาไม่มายด์ ที่จะนำ tracks จากแผ่นเสียงเดิมมาทำ remastering ให้ในคราวนี้ ผมจะได้ explore options ทางด้านเทคนิคและขั้นตอนที่เหมาะสมต่อไปครับ
ใจผมก็อยากให้มีครบทุกเพลง แต่อย่างไรผมขอหารือ/convince คุณ Ying คุณวุฒิ และผู้สนับสนุนทางการเงินก่อนนะครับ :headphone:
เรากำลังทำ restoration นะครับ
ใครที่ทนฟังเสียงไม่ดีไม่ได้ ก็น่าจะสกิ๊ปข้ามไปได้ หรือจัดให้ไปอยู่ท้ายแผ่น
ในฐานะนักเรียนประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์วัฒนธรรม
อย่าเอาการตลาดมาควบคุมมรดกทางปัญญาของศิลปินเลยครับ
อาเอ๊ะ แกมหมี...อะไรพวกนั้น เขาทำอยู่แล้ว
และถูกก่นด่าพออยู่แล้ว
คนที่เสาะหาแผ่นเสียงพวงร้อยนั้น เสียงดร็อบลงไปหน่อย
แลกกับการไม่มีเพลง เขาเลือกเสียงดร็อบแน่นอนครับ
เข้าใจและน้อมรับขอรับกระผม
ผมเชื่อว่า ในที่สุดแล้ว Bernie ก็คงจะแล้วแต่เจ้าของ project ล่ะครับ มืออาชีพอย่างนั้น หากเราอยากได้อะไร อย่างไร เขาทำให้ได้ เหมือนใน interview ที่เขาบอกละครับว่า สตูฯ เขาเน้น quality แต่ถ้าลูกค้าที่ทำเพลง pop อยากได้เสียงดัง ๆ แต่มัน compressed ก็จัดไป
ทว่า โดยมารยาท ผมคงต้องคุยกับผู้ที่ช่วยประสานงานมาตั้งแต่เริ่ม และก็ผู้สนับสนุนที่แสดงความสนใจเป็นรายแรก หากทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันแล้ว จะได้ทำงานต่อกันไปได้อย่างราบรื่นเท่านั้นล่ะครับ ในแง่การตลาด หากทาง Audio Excellence ไม่สะดวกที่จะรับไปช่วยจัดจำหน่าย ผมก็จัดการเองแบบเรื่อย ๆ ดังที่เคยเป็นมา และถึงแม้ potential sponsor เจ้านี้หรือเจ้าอื่น ๆ จะไม่อาด้วย ผมก็คง go ahead ด้วยทุนผมเองอยู่ดี
ที่มาของงานนี้ แรกเริ่มเลย ผมนึกว่าเทปมาสเตอร์ มันคงไปหมดแล้ว เลยแค่อยากจะริปจากแผ่นเสียงเดิมที่มีอยู่ ด้วยระบบเทิร์นและหัวเข็มดี ๆ เท่าที่จะไปยืมเพื่อน ๆ ได้ กับ A to D สมัยใหม่ แล้วเก็บ file ไว้ใน digital domain ด้วย resolution/upsampling ที่สูงกว่าที่เคยทำ cd master เมื่อ 15 ปีก่อน เพื่อ 1) อยากรู้ว่าเสียงจะดีกว่า CD อันเก่าขนาดไหน เพราะผมคงไม่มีปัญญาไปเล่นชุด TT เทพ ๆ แบบนั้น และ 2) จะได้เก็บ archiv ไว้เป็นอีกเวอร์ชั่นนึง ในกรณีที่ stamper ของโรงงานผลิต CD เกิดเสียหายไปครับ
ตอนนู้นก็ได้ความกรุณาของเฮียเม้ง และพี่เขียง ที่ช่วยจัดการล้างแผ่น และ audition เพื่อคัดว่าจะเอา track ใด จากแผ่นไหนไปริปกันดี โชคดีว่าภายหลังได้ contact กับ studio ของ Bernie เลยรีบส่งมาสเตอร์เก่าไปลุ้นดู แล้วปรากฎว่ามันยัง OK อยู่เป็นส่วนใหญ่
คราวนี้ งานคัด track ที่จะเอามริปจากแผ่นเสียง ก็น้อยลงอยู่มากโข
ถ้าอยากให้มีผลทางการตลาดด้วย
ก็ทำเป็นกล่อง มีของเดิมที่ยูรณะแล้ว 2 แผ่น
ของใหม่ที่เชิญคนเก่งมาร้องคารวะ อีก 2 แผ่น
จะบันึกเสียงเทพแค่ใหน ใช้หลอดในตำนาน(อิอิ คุณหมอเราโดนแน่)
ใช้ห้องอัด เครื่องมือดีเลิศแค่ใหน ก็ทำไป
Box Set 4 แผ่น บวกกับ CD และ SACD ทั้งหมด
จองวันนี้ราคาพิเศษ 4,444 บาท จำนวนจำกัดแค่ 100 ชุด
จะมีอะไรดีๆ แถม ก็ใส่ลงไป หมดแล้วหมดเลย
หลังจากนั้น ขายกล่องละ 7,500 บาท
ขึ้นราคาปีละพัน
จบข่าว
ใจผมคิดว่าอยากจะให้เสียงออกมาดีกว่าแผ่นเสียงเดิมๆ
ผมไม่คิดว่ามาสเตอร์เทปมันจะเสื่อมไปมากมายนัก
และด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ เนื้อแผ่นไวนิลที่ดีกว่า น่าจะได้เสียงที่ดีกว่าเดิม
(ตลาดแผ่นมือสองจะได้เลิกปั่นราคาแผ่นเสียงชุดนี้กันซะที)
เรียนถามพี่ klao ว่าทาง BGM เขาทำ digital master จากเทปต้นฉบับ มาเป็นไฟล์ resolution เท่าไหร่ครับ
เรียนตอบพี่หมอก่อน ว่าผมเคยหารือกับคุณ Ying จาก ORG แล้ว เรื่องว่าจะทำเป็น Hybrid SACD ด้วยดีหรือไม่ ในเบื้องต้น สรุปกันแล้วว่าคงไม่ทำครับ เนื่องจาก content material อัดมาแบบง่าย ๆ ธรรมดา ออกเป็น redbook CD ก็น่าจะเพียงพอ
แต่เรื่อง technique เกี่ยวกับขั้นตอนโอนข้อมูล analogue เข้ามาเป็น digital นั้น เครื่องมือ/files เขาใช้ resolution ระดับไหน ก่อนที่จะไปทำ CD mastering และตัว master สุดท้าย ที่เขาจะให้ผมเก็บไว้ผลิต redbook CD ใน lot ต่อ ๆ ไปนั้น จะมี bit depth กะ sampling rate เท่าไหร่ ผมจะเช็คให้อีกทีครับ
ตอนนี้ ผมเพียงเข้าใจว่า เครื่องไม้เครื่องมือ และขั้นตอนการทำ CD mastering -vs- SACD mastering นี่มันแตกต่างกัน และค่าทำ ก็คนละราคากันครับ (อย่างหลังแพงกว่า) แต่ถ้าได้ sponsor ขาใหญ่ ก็ไม่แน่ เพราะออกเป็น Hybrid SACD มันก็ดูเท่ห์ดี
สำหรับ double LP album เวอร์ชั่นธรรมดา ผมคิดไว้คร่าว ๆ ว่าอยากให้มี sticker price / msrp ไม่ให้เกิน 3,500 หากจะย่อมเยาว์กว่านั้น ก็คงขึ้นอยู่กับรูปแบบ เนื้อหา และ quality ของ package โดยรวม เช่นพวก liner note และ ซอง/ปก ฯลฯ แต่อยากให้นักฟังส่วนใหญ่ พอจะหาเก็บกันได้
ที่พี่พีช่วยคิดเรื่อง limited edition box นั้นก็น่าสนใจมาก ๆ ครับ ทำต่างหากแค่ 100 กล่องในวาระฉลอง 100 ปีท่านผู้หญิงฯ
ทำ booklet หนาหน่อย; วัสดุเนื้อแผ่นหนา/หนักพิเศษ สปีดช้า ร่องใหญ่ (อะไรก็แล้วแต่ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องครับ); ใส่แผ่น test pressing; แถม CD/SACD เข้าไป; ให้นักร้องเซ็นชื่อให้ (ถ้าตามกันมาได้) แล้วเปิดประมูล เลือกเบอร์ที่ชอบกันไปเลย อย่างนี้ ราคาประมูลเริ่มต้นกล่องละเท่าไหร่ดีครับ ? หมื่นนึงถูกไปมั้ยอ่ะ :dribble:
เรื่องหานักร้อง หาวง เรียบเรียง ขอลิขสิทธ์ อัดใหม่ มันจะปวดหัวมาก ๆ อ่ะครับพี่
ตั้งโครงการไว้ก่อน แล้วค่อยเก็บราบละเอียดได้ครับ
แผ่นทริบืวท์ ก็ไม่ต้องใส่กล่องไปพร้อมกัน จ่ายเงินครบไว้ก่อน
หลังจากเสร็จก็ส่งตามไปได้ ทำให้เรามีเวลาพอที่จะทำงานคุณภาพ
จะน่าสนใจมาก ถ้าเราจะอัดบางเพลง ที่ห้องเดิมที่พวกท่านเคยบันทึกเสียง
บางเพลงก็อาจจะแปลงไปเป็นแนวอื่น หลากหลายกันไป
เชื่อว่าแค่เกริ่นๆ ในวงจำกัด ก็น่าจะตั้งต้นการทริบิ้วท์ได้แล้ว
ซึ่งหมายถึงต้องเตรียมคอนเสิร์ตอีกด้วย
ทำทั้งที ถ้ามีกำลังก็อย่าอั้นเลยครับ กดเต็มแม็กไปเลย
ศิลปินระดับที่จะยกขึ้นหิ้งอย่างนี้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย
คุณเกล้าไม่ทำก็ไม่มีใครทำ เพราะติดที่คุณเกล้าไม่ทำ บาปนะนั่น
ปล
ผมเป็นคนไม่ค่อยปกติ
ถ้าทำต้องทำอย่างไม่มีใครมาตำหนิได้ อาจจะคิดเลยเถิด
แต่ยังไม่ถึงครึ่งของที่คิดว่าควรทำเลยครับ
ทำออกมาให้ออกมาสัก 1200-1500 ไม่ไหวหรอครับ ถามแบบไม่รู้ประวัติและไม่เคยฟังเลยครับ
งานนี้จริง ๆ ทำเอากล่อง เป็นเกียรติประวัติให้ญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้กะรวยอยู่แล้วครับ เดาว่าตลาดเพลงไทย ในสไตล์นี้ ถึงอยากทำให้รวย ก็คงยากส์ ผมมีลิขสิทธิ์อยู่ชุดนี้ชุดเดียว จะขายได้ซักกี่ copy กัน เลยอยากเน้นคุณภาพให้ดี ต้นทุนอะไรต่าง ๆ ก็คาดว่าน่าจะสูงตามไปด้วยน่ะครับ
ผมขอดูตัวเลขต้นทุนทั้งหมดของ project ก่อนครับ และถ้าหากมี sponsor ใจดี ให้สตางค์เยอะ ก็จะพยายามส่งต่อ saving ตรงนี้มาให้คนซื้อแผ่นด้วยแน่นอน ไอ้ราคา 3,500 สำหรับ LP สองแผ่น นี่เป็น ceiling สูงสุดที่ไม่อยากให้เกินอยู่แล้วครับ ราคาจริง ตอนนี้มันยังกำหนดไม่ได้ (เทียบกัน LP ของคาราบาว ที่เป็นข่าวฮือฮาในขณะนี้ พวงร้อย ราคาสามพันห้าจริง ก็อาจไม่แพงนะ)
อย่างไร จะทำ CD ออกมาด้วยแน่ครับ ราคาไม่น่าจะสูงไปกว่าราคา CD import ทั่วไปครับ
Quote from: blackmore on 15 October 2012, 04:42:37 am
ทำออกมาให้ออกมาสัก 1200-1500 ไม่ไหวหรอครับ ถามแบบไม่รู้ประวัติและไม่เคยฟังเลยครับ
แผ่นเสียงรีอิชชู่แบบซีเลคเต็ด ราคาก็ตกแผ่นละพันห้าอยู่แล้ว
ราคานี้ จึงเป็นราคาตลาด ไม่ได้แพงเว่อร์แบบแผ่นอะไรพันธุ์นี้
5 พัน
(http://www.pisutshop.com/temp2/T12816.jpg)
ครับพี่เกล้า ผมถามเผื่อคนมีเทอนตัวละห้าหกพันที้เค้ารู้จักแล้วอยากเก็บอะครับ
ส่วนผมอะอยากลองครับ
ผมขอจองหนึ่งชุด และขอเสนอแนะว่า
ขายไฟล์ดิจิตอลด้วยดีมั้ย
แบ่งกันหาข้อมูล แล้วนัดคุยเรื่องโปรเจ็คกันสักที ดีมั้ย
เรียน คุณเกล้า
ผมจอง หนึ่งชุด
และขอลายเซ็นต์ทายาทด้วยครับ
:worshippy:
ปล.จะแถมโปสการ์ดอาจารย์มาด้วย ก็ไม่ว่านะครับ ฮิๆ :heart:
คุณเกล้าครับ
ผมขอจองด้วยชุดหนึ่งนะครับ :clap:
และยินดีช่วยประชาสัมพันธ์ในนิตยสารให้ด้วยครับ
ขอบคุณพี่ trens คุณ jtr และคุณ prisna กรุณาจอง ltd edition box set กันคนละกล่องนะครับ.... นี่ได้มาอย่างน้อย 3 หมื่นแล้ว
ล้อเล่นนะครับ :P
ขอบคุณคุณ prisna ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ในนิตยสารให้ด้วยนะครับ เดี๋ยวมีอะไรที่ค่อย ๆ คืบคลาน ผมจะคอยเข้ามาอัพเดทให้ทราบในนี้ครับผม
เมื่อคืนผมอีแมวไปหาคุณ Ying เรื่องการริปแผ่นเสียงสำหรับเพลงที่เทปมาสเตอร์ขาดหายไป เค้าอยู่ที่ LA พอดีอาทิตย์นี้ และจะคุยกับคุณ Bernie ให้ครับ
นอกจากนั้นผมยังถามเรื่อง CD, SACD, และก็ file hires ไปด้วยครับ ว่าลองให้ช่วยดูให้แน่ ๆ หน่อย จะใช้ spectrum analyzer หรืออะไรก็แล้วแต่ ว่า materials ของเรานี่ หากทำออกมาแค่ redbook standard จะพลาดอะไรรึเปล่า
ถ้าไม่รบกวน ผมอยากมีไว้ซักชุดนึงครับ
Quote from: dht_tubes on 16 October 2012, 06:35:00 pm
ถ้าไม่รบกวน ผมอยากมีไว้ซักชุดนึงครับ
ตามหลังผู้ใหญ่ด้วยคน
Quote from: Krairerk on 16 October 2012, 06:38:43 pm
Quote from: dht_tubes on 16 October 2012, 06:35:00 pm
ถ้าไม่รบกวน ผมอยากมีไว้ซักชุดนึงครับ
ตามหลังผู้ใหญ่ด้วยคน
พี่หมอคร๊าบบบ
ขี้กลากจะรับประทานหัวผมนะพี่ ปีนี้ผมยังไม่ 35 เลย
ซื้ออะไรกันเหรอครับ ผมตกข่าวไป ยังไงก็ขอแจมด้วยชุดนึงครับ :)
เมื่อกลางวันไปทานข้าวกับคุณ Ying ซึ่งผ่านมาจาก Hollywood และได้คุยกับ Bernie มาแล้วหน่อย
เขายืนยันตามความเห็นเดิมว่า สำหรับชุดนี้ ทำ hires mastering พวก dsd หรือ 24/96 ไว้ออก SACD ไม่มีประโยชน์ ๆ ใด ครับ จะให้เขาทำก็ทำได้ แต่แนะนำว่าไม่ควรเสียเงินโดยไม่จำเป็น เก็บ CD master ไว้ก็น่าจะพอครับ
วันนี้ เอาแผ่น reel transfers CD ไปลองเปิดฟัง กับ Maggie 20.7 ที่ฝากร้านอิมเมจเบิร์นไว้ 2 เดือนกว่าแล้ว
แม่เจ้า...ทำไม เสียงมันห่วยกว่า รุ่น 1.7 ที่บ้านฟระ คู่นี้มันเป็นตัวรองลงไปตั้งสองสเต็บ ราคาห่างกันอยู่หลาย ๆ เท่า จิตตกซิครับ
กลับบ้านมานึก ๆ ดู ใน system ที่ร้าน (Krell SACD, Krell Pre รุ่นอะไรไม่ทราบ, แอมป์โมโน Parasound JC1, และ เส้นสาย XLO) ไม่เหมือนที่บ้านเลยซักกะชิ้น
แจ่มแจ้งแล้วครับว่า อุปกรณ์-เครื่องเคราต่าง ๆ ใน system นี่ มันโดนฟ้องออกมาได้จริง ๆ
เมื่อกี้เปิดฟังเพลงดอกไม้ที่อาจารย์วิสุตาร้อง ในยูทูป ไพเราะที่สุดครับ
ทำให้ผมต้องมาโพสต์ถามความคืบหน้าจากคุณเกล้าครับ
@ พี่ kloa: ผมก็รู้สึกเหมือนกันคับว่าเค้าน่าจะ set ได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เฉพาะ20.7ของพี่นะคับ แต่หลายๆคู่หลายๆsystem ที่ผมผ่านเข้าไปฟัง ไม่รู้ว่าเป็นเรื่อง matching หรือ ตำแหน่งของลำโพง
นึกว่าผมเป็นอยู่คนเดียว ที่คิดว่าที่นั่นจัดการกับสินค้าได้แย่มาก
ราวๆ ปี 2003 เคยไปขอฟังแมกกี้ อยากเทียบกับของที่เรามี
โหย เสียงแห้ง ขาดชีวิตขาดเนื้อหนัง ถามน้องที่ดูแล เขาก็บอกว่าใช่ครับ ห้องนี้ซับเสียงมากเกินไป ผมว่าห้องฟังของเขานี่ ฆ่าสินค้าตัวเองแท้ๆ เลย คนซื้อต้องพกจินตนาการไปด้วยว่าเสียงจริงๆ เป็นอย่างไร
ไม่ก็ฟังไม่เป็น....ฮา
Quote from: prisna on 09 November 2012, 05:31:33 pm
เมื่อกี้เปิดฟังเพลงดอกไม้ที่อาจารย์วิสุตาร้อง ในยูทูป ไพเราะที่สุดครับ
ทำให้ผมต้องมาโพสต์ถามความคืบหน้าจากคุณเกล้าครับ
ขอบพระคุณครับ เดี๋ยวจะบอกคุณวิสุตาให้ ท่านคงปลื้มครับ
สิ้นเดือน พ.ย. นี้ CD พวงร้อย ที่สั่งปั้มไปใหม่ น่าจะเสร็จแล้ว วางขายที่ไหนบ้าง แล้วจะเรียนให้ทราบอีกทีครับ
20.7 คู่นั้น เจ้าของร้านบอกกะผมเองว่า ยังไม่ได้เซทอะไรเลยครับ แค่ตั้งไว้เฉย ๆ ลำโพง/ชุดอื่น ๆ ในร้านก็น่าจะเช่นเดียวกัน
ไม่รู้เป็นเพราะสองสามเดือนก่อน เฮียแกขาหัก พร้อมกับลูกน้องที่พอจะเซทเป็น ดันออกไปอยู่กะร้านอื่นด้วย รึเปล่า
หรือจริง ๆ อย่างที่พี่พีบอก ว่าเจ้านี้ คงจะไม่ค่อยพิถีพิถันอย่างนี้ มาตั้งก๊ะนานแล้ว
สองสามวันก่อน ได้รับแผ่น SACD-SHM จากญี่ปุ่น ชุด Beethoven Symphonies Nos. 5 & 7 กำกับโดย C.Kleiber ที่ remastered ล่าสุดมา
และเพื่อนก็เอาเครื่อง PS3 ที่ยังไม่ได้อัพ fw เกินกำหนดเวอร์ชั่น 3.55 ที่จะทำการ rip แผ่น SACD ได้มาให้ใช้
วันนี้เลยเครียมจะเข้าไปพิมพ์ ขั้นตอนและวิธีการ hack เครื่อง และ ฯลฯ
แต่เจ้ากรรม... มาดูที่ PS3 อีกที ปรากฎว่า เครื่องเล่นได้แต่แผ่น blu-ray, DVD, และ redbook CD ครับ
อดเลย :P
ตามข่าวห้องคุณทู้ปส์ไปไกลแล้ว ของผมยังไม่ถึงไหนเลยครับ
อันนี้เป็นระเบียงด้านหลังของห้องฟังครับ พอดูได้หน่อย
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170744_zps64edf33f.jpg)
เหมือนกับว่าจะนานมากแล้วนี่ครับ?
รูปนี้ด้านข้างครับ ห้องฟังไม่ได้ยาวไปจนสุดมุมระเบียงนะครับ ประตูสุดท้ายด้านไกล เป็นของห้องทำงานครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170813_zps10054333.jpg)
Quote from: Karin Preeda on 07 February 2013, 06:37:27 pm
เหมือนกับว่าจะนานมากแล้วนี่ครับ?
:lol: ใช่ครับ พอดีเงินมันไม่ค่อยจะพอง่ะครับ ต้องเจียดไปทำส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญกว่าให้เสร็จไปก่อนครับผม
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170848_zpsdfd3f881.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170552_zps6f863f2a.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170716_zpsae3f6f1b.jpg)
พีสถาปนิกผม ไปช่วยหาไม้กระดานเก่า ๆ มาได้ ห้องฟังนี้เลยจะปูพื้นไม้บนตงครับ
คงไม่ใช้เยอะขนาดนี้ น่าจะของห้องอื่น ๆ มาฝากเก็บไว้ด้วยกันก่อน
บ้านน่าอยู่จังเลย :)
Quote from: klao on 07 February 2013, 06:35:36 pm
อันนี้เป็นระเบียงด้านหลังของห้องฟังครับ พอดูได้หน่อย
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130112_170744_zps64edf33f.jpg)
ชอบลายของกระเบื้องครับ ^^
ดูจากภาพแล้วช่างทำงานได้เรียบร้อยดีมากเลยครับ
เพดานในห้องฟังเพลงต้องซีลด์กั้นเสียงให้ดีนะครับ
เวลาฝนตกถ้ามีเสียงลอดมาจากเพดานนี่งานเข้าเลยนะครับ
Quote from: meng on 07 February 2013, 11:44:04 pm
เพดานในห้องฟังเพลงต้องซีลด์กั้นเสียงให้ดีนะครับ
เวลาฝนตกถ้ามีเสียงลอดมาจากเพดานนี่งานเข้าเลยนะครับ
ครับผม กำลังจีบให้พี่หวังของเรา ช่วยมาดูแลจัดการประกอบห้องให้อยู่ครับเฮีย :)
Quote from: santi on 07 February 2013, 09:30:44 pm
ดูจากภาพแล้วช่างทำงานได้เรียบร้อยดีมากเลยครับ
ผมโชคดี พี่สถาปนิกที่เขียนแบบ เป็นผู้รับเหมา หาช่าง และดูแลการก่อสร้างให้ทั้งหมด ในราคาใกล้เคียงกับผู้รับเหมาหลักหลาย ๆ ราย ที่เชิญมาเสนอราคา เผอิญพี่เขาได้อดีตโฟร์แมน (จบถาปัดจุฬา) ของบริษัทรับเหมา ที่เชี่ยวชาญงานพวกบ้าน/วังเก่า มาช่วยควบคุมดูแลให้อีกแรง ทั้งคู่พักอยู่ไม่ไกลจาก site งานนัก ผมเลยสบาย ไม่ต้องวิ่งขึ้นไปเองบ่อย ๆ
Quote from: pakorn on 07 February 2013, 08:38:04 pm
ชอบลายของกระเบื้องครับ ^^
ขอบคุณครับ ได้แรงบันดาลใจ จากงานของลูกค้าเก่าพี่หวังนี่แหล่ะ ต้องขอบคุณพี่เค้าที่กรุณาส่งรูปเป็นตัวอย่าง และข้อมูลกระเบื้องมาให้ผมครับ
เมื่อวานเข้าไปดูความคืบหน้าของบ้าน และคุยกับพี่สถาปนิก
ว่าคงต้องเช็คใต้หลังคาดี ๆ ก่อนทำห้องฟัง เพราะยังเป็นห้องเดียวที่ยังเปิดฝ้าไว้ กลัวจะมีตัวอะไรเข้าไปอาศัยอยู่
ต้องอัญเชิญออกมาให้หมดซะก่อน :)
วันก่อนพี่ sw ทักเรื่องการปูพื้นไม้ ว่าปูบนตง อาจจะสู้ปูแผ่นไม้แบบทากาวธรรมดาบนพื้นปูนไม่ได้
มีใครจะพอทราบมั้ยครับ ว่าการปูพื้นไม่บนตง ศัพท์เทคกะนิคทางการช่าง ที่เป็นภาษาปะกิด ใช้คำว่าอะไร
จะได้ลองขอความเห็นจากทาง Rives มาพิจารณาดูด้วย
ขอบคุณครับ
https://www.google.co.th/search?q=wooden+floor+structure&hl=en&client=firefox-beta&hs=kf9&rls=org.mozilla:en-US:official&channel=fflb&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=97kkUc2EH4mPrgfH8IDYBA&ved=0CAoQ_AUoAQ&biw=1226&bih=603
ลองค้นดูครับ
ขอบคุณครับพี่พี ผมดูแล้ว เลยคิดว่าใช้คำอธิบายยาวหน่อย wood floor installed on wooden rail/frame that is built on concrete slap ก็น่าจะเข้าใจ
คุณฝรั่ง Richard Bird ตอบสั้น ๆ กลับมาแล้วว่า แกชอบแบบปูพื้นไม้บนตงมากกว่าครับ
Quote from: klao on 21 February 2013, 07:28:40 pm
คุณฝรั่ง Richard Bird ตอบสั่น ๆ กลับมาแล้วว่า แกชอบแบบปูพื้นไม้บนตงมากกว่าครับ
อีแมวน้องเกล้านี่สุดยอด ส่งความเคลื่อนไหวได้ด้วย....555555
55555 มีแซว :lol:
สะกดผิดทุกวันเลย ผมเนี่ย :P
ดีไม่ได้พิมพ์ว่า "ฝรั่งตอบส้น ๆ [ทีน]"
ป.ล. ดีใจจังพี่ sw จะลองไปช่วย ๆ ดูห้องให้ผมแระ
Quote from: klao on 21 February 2013, 09:10:47 pm
สะกดผิดทุกวันเลย ผมเนี่ย :P
ดีไม่ได้พิมพ์ว่า "ฝรั่งตอบส้น ๆ [ทีน]"
ป.ล. ดีใจจังพี่ sw จะลองไปช่วย ๆ ดูห้องให้ผมแระ
ฮือๆ พี่หวังอย่าลืมมาบ้านผมด้วยนะครับ
Quote from: dht_tubes on 21 February 2013, 10:09:30 pm
Quote from: klao on 21 February 2013, 09:10:47 pm
สะกดผิดทุกวันเลย ผมเนี่ย :P
ดีไม่ได้พิมพ์ว่า "ฝรั่งตอบส้น ๆ [ทีน]"
ป.ล. ดีใจจังพี่ sw จะลองไปช่วย ๆ ดูห้องให้ผมแระ
ฮือๆ พี่หวังอย่าลืมมาบ้านผมด้วยนะครับ
อย่าเชื่อผมมากนะ ผมก็ทำไปตามความเห็นตัวเองเหมือนกัน มาคุยกันในนี้ก็ดีจะได้มีความคิดหลากหลายครับ
ผมคิดว่าตู้ซับที่วางบนพื้นที่กลวงข้างใน จะขย่มแผ่นพื้นไม้ให้สั่น มีโอกาสทำให้เกิดเสียงไม่พึงประสงค์แทรกเข้ามาในระบบได้ แต่ถ้าวางตู้ซับตรงกับโครงไม้ตงก็อาจจะไม่สั่น ว่าไปตามหลักการครับ หูผมอาจจะฟังไม่ออก ส่วนที่นายริชาร์ดชอบนั้น เขาอาจชอบเสียงแบบนั้นโดยรสนิยมส่วนตัวก็ได้ครับ
ส่วนสาเหตุที่ต้องวางพื้นไม่บนตงนั้นก็เพื่อป้องกันไม้บิดงอเด้งหลุดขึ้นมา ถ้าเป็นไม้สัก ไม้มะค่า หรือไม้แดงที่อบแห้งสนิท และพื้นปูนราบเรียบดี ก็ไม่น่าหลุดครับ อย่าลืมเว้นช่องว่างรอบห้อง 1 ซม.อย่าให้พื้นไม้ชิดผนังรอบห้อง อาจจะระเบิดขึ้นได้
ผมก็จำไม่ได้ว่าพี่สถาปนิก ฯ จัดไม้ประเภทใดมาใส่ห้องนี้ครับ แต่จากที่คุยกับช่างปูพื้นไม้ ซึ่งได้ทำห้องอืน ๆ ไปบ้างแล้ว
แกบอกว่าไม้แห้งสนิทมาก คงเป็นพวกไม้กระดานเก่าที่ได้มากจากโรงเรียน
สาเหตุที่อยากทำตง เพราะอยากจะให้ช่างเขาทำช่องให้เปิดพื้นไม้ได้ เป็นวงรอบห้อง ไว้ซ่อนพวกเส้นสายต่าง ๆ ได้เป็นบางส่วนครับ
ถ้าคุณเกล้าเตรียมแบบไว้อย่างนั้นแล้วก็ทำไปตามแบบนั่นแหละครับ วางตงถี่ๆไม่เกิน 40 ซม.ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ :)
Quote from: klao on 21 February 2013, 07:28:40 pm
ขอบคุณครับพี่พี ผมดูแล้ว เลยคิดว่าใช้คำอธิบายยาวหน่อย wood floor installed on wooden rail/frame that is built on concrete slap ก็น่าจะเข้าใจ
คุณฝรั่ง Richard Bird ตอบสั้น ๆ กลับมาแล้วว่า แกชอบแบบปูพื้นไม้บนตงมากกว่าครับ
เค้าชอบจากความคิด(จินตนาการ) หรือชอบจากประสบการณ์ครับ
ฝรั่งมันก็มั่วนะครับ บางครั้ง
นอกจากหน้าตาจะเนิร์ด ๆ แล้ว ดู profile นาย Richard R. Bird ฝรั่งคนนี้ น่าจะมั่วแบบมีที่มาที่ไปพอสมควรครับ
คืออย่างน้อย จบ Physics มา คงอ่านตำราพวก acoustic รู้เรื่อง :scholar:
แถมยังเล่นดนตรี กับเขียนรูปได้ ก็น่าจะโอนะ เท่าที่คุยกันคุณพ่อเขาเป็นศิลปินสมัครเล่น (ถ่ายรูป) ด้วย
http://www.linkedin.com/in/rivesbird
http://www.stereophile.com/thefifthelement/805fifth/
http://www.rivesart.com/
ให้กูรูไทยออกแบบให้ กลัวต้องเป็นแบบห้องพี่คนนี้อ่ะครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=73152.0
ผมทักเฉยๆอะครับ เห็นพี่เกล้าบอกแกตอบสั้นๆ ถ้าข้อมูลแน่นก็คงสบายใจได้
ขอบใจจร้า...รู้ว่าน้องเป็นห่วง ^_^
แต่พี่ก็ทำใจไว้แล้วเหมือนกันล่ะ ว่าถ้าห้องออกมา เสียงห่วยจนทำให้เพื่อน ๆ โห่ ยังไงก็คงไม่ทุบห้องเหมือนพี่คนนั้น
เก็บไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่น ว่าอย่าโดนฝรั่งหลอกแบบเรา..อิ อิ
Quote from: klao on 22 February 2013, 08:23:37 pm
ขอบใจจร้า...รู้ว่าน้องเป็นห่วง ^_^
แต่พี่ก็ทำใจไว้แล้วเหมือนกันล่ะ ว่าถ้าห้องออกมา เสียงห่วยจนทำให้เพื่อน ๆ โห่ ยังไงก็คงไม่ทุบห้องเหมือนพี่คนนั้น
เก็บไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่น ว่าอย่าโดนฝรั่งหลอกแบบเรา..อิ อิ
ดีครับ
มีห้องถูกคนไทยหลอกแล้ว ก็มีห้องถูกฝรั่งหลอก....ฮา
แต่ผมว่าคุณเกล้าคิดถูกแล้วละ
ใช้คนไทย มันบอกอย่างเดียวว่าเชื่อผมสิ
แล้วที่เซทเครื่องในงาน มีดีซักห้องป่าวอะ
ยกเว้นห้องที่เฮียเม้งเซทไว้คราวก่อน (แต่คราวนี้ ผมว่าไม่ดีนะสู้ปีก่อนไม่ได้)
ห้องคนไทยส่วนใหญ่ใช้สูตรสำเร็จนะครับ ยัดของเข้าไปก่อนให้เยอะๆ(ดูโปรดี)
ไม่ดีค่อยมาทำใหม่อีก(หลาย)รอบ :supergrin:
Quote from: meng on 22 February 2013, 09:13:43 pm
ห้องคนไทยส่วนใหญ่ใช้สูตรสำเร็จนะครับ ยัดของเข้าไปก่อนให้เยอะๆ(ดูโปรดี)
ไม่ดีค่อยมาทำใหม่อีก(หลาย)รอบ :supergrin:
จำไม่ได้แน่ แต่ห้องลินน์ปีนี้ใหญ่กว่าเดิมหรือเปล่าครับ
ผมรู้สึกว่าเสียงมนหลวมๆ ไม่เต็มห้อง ยังกับลำโพงเล็กเกินไป
หรือว่าชุดไม่เหมือนเดิม
ปีก่อนเสียงอบอุ่นมีน้ำมีนวลกว่าครับ
ส่วนห้องอื่น ต้องบอกว่าเล่นไม่เป็นกันจริงๆ แม้แต่ห้องหอยทาก อัดแอมป์เข้าไป 8 ตัว ตัวละ 600 วัตต์ ทำไปเพื่ออะไรกัน
ห้องขนาดเท่าเดิมครับพี่พี
แต่เบิ้ลแอมป์อีกตัวเป็น monoblock ปีที่แล้วเป็นสเตอริโอ
แต่ผมว่าปีนี้เสียงหนักแน่นกว่าปีที่แล้วนะครับ ปีที่แล้วเสียงจะไม่เปิดกว้างเหมือนกระจุกอยู่ตรงกลาง
ปีที่แล้วระยะห่างลำโพงจะแคบกว่าปีนี้ เพราะยิ่งถ่างเสียงจะยิ่ง diffuse ครับ
Quote from: meng on 22 February 2013, 09:29:40 pm
ห้องขนาดเท่าเดิมครับพี่พี
แต่เบิ้ลแอมป์อีกตัวเป็น monoblock ปีที่แล้วเป็นสเตอริโอ
แต่ผมว่าปีนี้เสียงหนักแน่นกว่าปีที่แล้วนะครับ ปีที่แล้วเสียงจะไม่เปิดกว้างเหมือนกระจุกอยู่ตรงกลาง
ปีที่แล้วระยะห่างลำโพงจะแคบกว่าปีนี้ เพราะยิ่งถ่างเสียงจะยิ่ง diffuse ครับ
ผมเม้นท์ไว้ที่เว็บอื่น
"LINN ฟังสองรอบ รอบแรกเปิดจากไฟล์เพลง ไม่สามารถฟังได้ เสียงขยุ้มรวมกันเหมือนก้อนนุ่น
รอบหลังเปิดจากเทิร์นพอฟังได้ แต่ถ้าเทียบกับห้องอื่นที่ดีๆ ยังห่างชั้นกันอยู่ ทำให้สงสัยมากเพราะเคยฟังดีกว่านี้"
http://www.youtube.com/watch?v=VglHgpwzLnM
http://www.youtube.com/watch?v=_UL2UqpM9cc
ลองฟังชุดอื่นจากไมค์เดียวกันครับ
http://www.youtube.com/watch?v=05eK05gRPZU
Quote from: pee on 22 February 2013, 09:19:55 pm
อัดแอมป์เข้าไป 8 ตัว ตัวละ 600 วัตต์ ทำไปเพื่ออะไรกัน
ล่อแมงเม่าครับ
หากผมจับไข้หัวโกร๋น โดนหลอก ก็คงจะเรียนเชิญ อ.เฮียเม้ง มาเคาะลำโพง ให้เป็นสิริมงคล ....Maggie คู่ใหม่นี้ หนักกว่ารุ่นเล็ก แต่เบากว่ามาจิงโก่ะ เยอะเลยคร้าบเฮีย
เรื่องไม้ตง นอกจากให้เขาทำถี่ ๆ ไม่เกิน 40 ซม. แล้ว ควรจะรองตงด้วยวัสดุพวกยางด้วย จะดีมั้ยครับ ?
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/figure3_1b_zpsa5388e4d.jpg)
รองด้วยยาง ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ได้ ผิดหลักการของของจ้อยท์ที่ดีครับ
มันควรจะริจิดเป็นก้อนเดียวกัน
ใช่ครับ พื้นรองด้วยยางก็เท่ากับให้พื้นทำหน้าที่ซับเสียง รูปที่คุณเกล้าโพสมาน่าจะเป็นสตูดิโออัดเสียงหรือห้องซ้อมดนตรี
ไม่ใช่ห้องฟังเพลงแน่ๆครับ อีกอย่างนึง พวกยางนี่ใช้ไป 4-5 ปีอาจหดตัวแข็งกรอบ คราวนี้ละเรื่องใหญ่แน่ๆครับ
สวัสดีครับคุณเกล้า เอ่อ กันหน้าแตก ถามสักนิด คุณเกล้าคือคนเดียวกันกับที่เคยเข้าไปคุยกับผมที่ห้อง Aesthetics หัวข้อ the shawshank redemption ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ อูย ดีใจจริงๆ มาเว็บใหม่ได้เจอคนรู้จักบ้าง ถ้ามีโอกาสเรียนเชิญไปคุยกันที่ห้องดูหนังฟังเพลงบ้างนะครับ ผมตัดสินใจจะประจำอยู่ห้องนั้น แล้วถ้าคุณเกล้าคุยเรื่องอะไรกับใครอยู่ ผมเข้าไปคุยด้วยได้ก็จะไปคุยด้วย...แล้วพบกันครับ :jump: :jump: :jump:
สวัสดีครับคุณ Melody ผมนาย klao หรืออีตาเกล้า คนเดียวกันครับ
อันที่จริงสมาชิกที่ Thai AV Club นี่ เขาก็ไปแจม ๆ ใน TAC กันหลายคนอยู่นะครับ
ผมคุยไม่ค่อยเก่งหรอกครับพี่ มาที่นี่ อ่านอย่างเดียว ก็ยังไม่ทันเสียด้วยซ้ำครับ :headphone:
ตายละวา แสดงว่าผมหลังเขาอยู่คนเดียวสิ วัยรุ่นอย่างพี่พีงี้ คุณเกล้างี้ เล่นกันทีสองสามเว็บ
อีกอย่างที่บอกว่าสมาชิกหลายคนเขาก็ไปที่ TAC กัน งั้นบางคนเขาก็รู้กำพืดผมแล้วสิ ต่อไปนี้จะโม้อะไรทีต้องระวังแล้ว
ลองกระทืบ ๆ พื้นดูแล้ว แน่นใช้ได้ แต่หากได้ซับฯ มาอัดจริง ๆ ยังไม่รุ้จะเป็นไงนะครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/1363585724157_zps2d83d334.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/1363585729097_zps1ae8a511.jpg)
สอบถามเพื่อน ๆ นัก DIY หน่อยครับ ถ้าจะว่าจ้าง หาใครต่อแอมป์ SS โคลน bryston 7b แบบนี้ (ไม่รู้ว่าดูแค่ diagram ข้างล่างนี้ จะทำได้ป่าว) เอาไว้ใช้ขับลำโพงคู่หลัง
http://www.bryston.com/PDF/Schematics/7BSST2_SCHEMATICS.pdf
จะถูกกว่าซื้อแอมป์ class d ตัวเล็ก ๆ คู่ละประมาณ $2,000 หรือเปล่าฮะ :-\
http://www.wyred4sound.com/webapps/p/74030/117839/802459
Quote from: klao on 21 March 2013, 05:46:49 pm
สอบถามเพื่อน ๆ นัก DIY หน่อยครับ ถ้าจะว่าจ้าง หาใครต่อแอมป์ SS โคลน bryston 7b แบบนี้ (ไม่รู้ว่าดูแค่ diagram ข้างล่างนี้ จะทำได้ป่าว) เอาไว้ใช้ขับลำโพงคู่หลัง
http://www.bryston.com/PDF/Schematics/7BSST2_SCHEMATICS.pdf
จะถูกกว่าซื้อแอมป์ class d ตัวเล็ก ๆ คู่ละประมาณ $2,000 หรือเปล่าฮะ :-\
http://www.wyred4sound.com/webapps/p/74030/117839/802459
น้าเกล้าจะเอาไปขับลำโพงอะไรครับ ผมเห็นมี bryton รุ่นเล็กๆ 3-4หมื่น ออกขายมือสองประจำเลย..
7b นี่ 600 วัตต์
ซื้อของมียี่ห้อดีกว่าครับ
DIY เผลอๆ จะแพงกว่าซื้อใหม่
จะเอาไปขับ Magnepan 1.7 ครับผม
อยากจะได้พวก monoblock จะได้ตั้งใกล้ ๆ ลำโพง
โคลนแค่คู่เดียวคงไม่ไหวครับ ถ้าหลายๆเครื่องอาจจะถูกหน่อย
จริงๆแอมป์หลอด monoblock ข้างละ 100W น่าจะไปกันได้กับ maggie นะครับ เพราะลำโพงแผ่นไม่ต้องการการ damping มากนัก ว่ากันตาม technical นะครับ
Quote from: Karin Preeda on 22 March 2013, 03:08:07 pm
โคลนแค่คู่เดียวคงไม่ไหวครับ ถ้าหลายๆเครื่องอาจจะถูกหน่อย
จริงๆแอมป์หลอด monoblock ข้างละ 100W น่าจะไปกันได้กับ maggie นะครับ เพราะลำโพงแผ่นไม่ต้องการการ damping มากนัก ว่ากันตาม technical นะครับ
เกรงว่า ผมจะขี้เกียจเรื่งอดูแลเปลี่ยนหลอดอ่ะครับ คุณ Karin
สงสัยคงต้องไปแนวแอมป์ยี่ห้อ อย่างที่พี่พีว่า ดูนี่อยู่ด้วยครับ แต่หน้าตามันไม่ค่อยสวยนัก http://shop.emotiva.com/collections/amplifiers/products/xpa100
อ้อ..เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายช่างใหญ่ พี่ sw ของเรา ได้กรุณาเข้าไปช่วยทดลองกระทืบพื้นไม้พี่ปูไว้บนตง บอกว่าแน่นดี ใช้ล่าย :thrilled:
ราคาสวนทางกับเสียงจริงๆ
ใช้ขับคู่หลังสำหรับดูหนังน่าจะเข้าท่าครับ
ปล
เพลงเห่ยมาก
http://www.youtube.com/watch?v=Bjj3h0tCj_k
Quote from: klao on 25 March 2013, 09:58:26 pm
อ้อ..เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายช่างใหญ่ พี่ sw ของเรา ได้กรุณาเข้าไปช่วยทดลองกระทืบพื้นไม้พี่ปูไว้บนตง บอกว่าแน่นดี ใช้ล่าย :thrilled:
อย่าเรียกว่าบ้านเลย ถ้าไม่บอกก็นึกว่าคฤหาสหรือไม่ก็พิพิธภัณฑ์ ขับรถเลยไปเฉย :lol:
เมื่อวาน พี่หวังและทีมงาน เริ่มเข้าไปลุยทำห้องให้ผมแล้วครับ นี่เป็นบางส่วนของงานกับวัสดุที่เตรียมไว้
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_0999_zpsc0202cea.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/ResizeofIMG_0999_zpsc0202cea.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_1035_zpsc3aa6369.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/ResizeofIMG_1035_zpsc3aa6369.jpg.html)
Quote from: klao on 28 April 2013, 10:12:20 pm
เมื่อวาน พี่หวังและทีมงาน เริ่มเข้าไปลุยทำห้องให้ผมแล้วครับ นี่เป็นบางส่วนของงานกับวัสดุที่เตรียมไว้
อ้อ
ลำโพง 20 ดอกหยุดไปเพราะตาเกล้านี่เอง
:wacko:
ขอคิวผมก่อนเถอะครับ ยังไม่ได้ย้ายเข้าบ้านใหม่ซะที ต้องจ่ายค่าเช่าโกดังฝากของไว้ที่กรุงเทพฯ กับค่าเช่าห้องพักไว้ที่เขาใหญ่ ไปหลาย ๆ เดือนเลี้ยว
ความยาวห้องฟัง ตามแบบแค่ 8.40 เมตร แต่ด้วยไม่อยากเบิ้ลผนังอิฐฉาบปูนเดิม ด้วยโครงคร่าวกับแผ่นยิบซั่ม (เพราะแค่นี้งบฯ ก่อสร้างกับตกแต่ง ก็บ้านตะไท) เลยคุยกับพี่หวัง ว่าปล่อยยาวออกไปหน่อย เป็นประมาณ 8.53 เมตร คงมีผลต่อเสียงไม่มากซักเท่าไหร่
ส่วนความกว้างน่าจะได้ประมาณ 5.95 เมตร และสูง 3.15/3.65 ม. ตามแบบเดิมครับ
ตามคิวครับ โปรเจค 40 ดอก มาทีหลัง แต่ก็ นานแสนนานแล้ว :oops:
ตะกี้โดนเฮียทิ้วป์โทรมาทวงสัญญาอีกราย :dizzy: เหงื่อตกเลย
ความถี่ที่จะเกิดเรโซแน้นท์ในห้องคุณเกล้า ว่าไปตามทฏษฏีก่อน แต่ฝ้ามีสเต็ป ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอาค่าไหนมาคำนวณถึงจะใกล้เคียง นี่ใส่ค่าส่วนที่สูงสุดก็คือ 3.65 ม. ดูรูปกราฟแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เสร็จแล้วทาง Rives จะมาวัดค่าปรับจูนตามวิธีของเขาอีกที
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/KlaoResonant_zpsad651966.jpg)
Quote from: sw on 29 April 2013, 02:18:26 am
ตามคิวครับ โปรเจค 40 ดอก มาทีหลัง แต่ก็ นานแสนนานแล้ว :oops:
ตะกี้โดนเฮียทิ้วป์โทรมาทวงสัญญาอีกราย :dizzy: เหงื่อตกเลย
ผมเปล่านะ ผมทวงแค่เรื่องซ้อมดนตรี 555
ห้องโฮมฯ กะห้องซ้อมต้องพึ่งพี่แหละ
Quote from: klao on 14 October 2012, 05:28:20 am
จาก LP อัลบั้ม พวงร้อย (ปกเขียวเข้ม) ซึ่งมีทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 9 tracks
ขาดเพลงที่ 3 หน้า 1 "หัวใจเดียว" และเพลงที่ 2 หน้า 2 "ไม้งาม"
จาก LP ชุด พวงร้อย ๒ (ปกแดงเลือดหมู) ทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 8 tracks
ขาดเพลงที่ 2 หน้า 1 "โอ้ความรัก" เพลงที่ 6 หน้า 1 "Thai Walk" และเพลงที่ 5 หน้า 2 "ต้อนกระบือ"
ต้นเดือนหน้า (มิ.ย. 56) จะเอาแผ่น LP ที่คัดแล้ว ส่งไปให้ Bernie Grundman Mastering จัดการริปเพลงที่หายไปครับ
ตอนนี้กำลังประสานงาน ขอคิวคุณ Bernie ว่าจะว่างทำ project นี้ให้เราได้เมื่อไหร่
สำหรับตัวเลขแผ่นเสียงที่คิดว่าจะผลิตออกมา น่าจะอยู่ที่ 1,500 ชุดครับ มี running number เป็น limited edition สำหรับวาระครบรอบ 100 ปีของท่านผู้หญิงพวงร้อย
ราคายังไม่ได้สรุป แต่คงไม่เกิน 3,000 บาทสำหรับ album ชุดนี้ที่มี 2 แผ่น (180g.) ปก gatefold ครับ
หากจะทำเป็นแบบ boxset มี booklet ขึ้นมาจริง ๆ ก็น่าจะให้อยู่ภายใน 3,500-4,000 บาท ได้ ขอดูกำลังก่อนครับ ว่าจะพอไปติดต่อขอลิขสิทธิ์และ materials ต่าง ๆ มาประกอบได้หรือไม่ แค่ไหน
ขอบคุณที่ส่งข่าว ...เปิดจองเมื่อใดกรุณาแจ้งด้วยครับ
ครับพี่ พร้อมเปิดจองเมื่อใด จะต้องเรียนให้ทราบแน่นอนครับผม
ยังไม่ได้เรียนเชิญพี่พี กับ อ.พงษ์ศักดิ์ มาหารือเรื่องการออกแบบ และ concept ของหน้าตาอัลบั้มซะที
เบื้องต้นน่าจะได้สปอนเซอร์ ที่เขาจะช่วยออกค่า re-mastering เทป และทำ master lacquer ให้แล้วครับ รอสรุปตัวเลข costs จริง กับ requirements ของสปอนเซอร์อยู่ กำลังคิดว่าจะหาผู้สนับสนุนเพิ่ม มาช่วยค่า production อีกซักแรงฮะ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0773_zps124a9b2f.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/IMG_0773_zps124a9b2f.jpg.html)
วันนี้แวะเข้าไปดูห้อง ทีมงานพี่หวังทำโครง และปิดฝ้าไว้แล้วครับ เดี๋ยวยังไงต่อ ให้ช่างใหญ่มาอธิบาย
แต่ไอ้เส้นแดง ๆ รอบผนังส่วนที่เหนือบานประตูนี่ ขีดไว้เป็น reference อะไรครับพี่หวัง :blink:
Quote from: klao on 02 May 2013, 10:28:59 pm
ครับพี่ พร้อมเปิดจองเมื่อใด จะต้องเรียนให้ทราบแน่นอนครับผม
ยังไม่ได้เรียนเชิญพี่พี กับ อ.พงษ์ศักดิ์ มาหารือเรื่องการออกแบบ และ concept ของหน้าตาอัลบั้มซะที
แบบเดิมฝีมืออาจารย์อวบ ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
ที่แผ่นนี้ดัง แบบปกก็เป็นปัจจัยหนึ่ง
เสนอให้รักษาโครงสร้างทั้งหมดไว้
แล้วปรับเพิ่มให้ดูใหม่ ทันสมัยตามเทคโนโลยี่ ซึ่งทำได้หลายวิธี
1 สีเดียว เลือกโทนคลาสสิค ลวดลายกรอบรูป ปั้มนูนเป็น bass relief
2 เหมือนเดิม แต่รูปท่านผู้หญิงเปลี่ยนเป็นรุปสีให้ดูสดใสขึ้น
3 ทำเป็นเมตาลิกไปเลย
ฯลฯ
Quote from: klao on 02 May 2013, 09:43:53 pm
Quote from: klao on 14 October 2012, 05:28:20 am
จาก LP อัลบั้ม พวงร้อย (ปกเขียวเข้ม) ซึ่งมีทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 9 tracks
ขาดเพลงที่ 3 หน้า 1 "หัวใจเดียว" และเพลงที่ 2 หน้า 2 "ไม้งาม"
จาก LP ชุด พวงร้อย ๒ (ปกแดงเลือดหมู) ทั้งหมด 11 เพลง - เหลือมาสเตอร์ที่มีอยุ่และใช้ได้ 8 tracks
ขาดเพลงที่ 2 หน้า 1 "โอ้ความรัก" เพลงที่ 6 หน้า 1 "Thai Walk" และเพลงที่ 5 หน้า 2 "ต้อนกระบือ"
ต้นเดือนหน้า (มิ.ย. 56) จะเอาแผ่น LP ที่คัดแล้ว ส่งไปให้ Bernie Grundman Mastering จัดการริปเพลงที่หายไปครับ
ตอนนี้กำลังประสานงาน ขอคิวคุณ Bernie ว่าจะว่างทำ project นี้ให้เราได้เมื่อไหร่
สำหรับตัวเลขแผ่นเสียงที่คิดว่าจะผลิตออกมา น่าจะอยู่ที่ 1,500 ชุดครับ มี running number เป็น limited edition สำหรับวาระครบรอบ 100 ปีของท่านผู้หญิงพวงร้อย
ราคายังไม่ได้สรุป แต่คงไม่เกิน 3,000 บาทสำหรับ album ชุดนี้ที่มี 2 แผ่น (180g.) ปก gatefold ครับ
หากจะทำเป็นแบบ boxset มี booklet ขึ้นมาจริง ๆ ก็น่าจะให้อยู่ภายใน 3,500-4,000 บาท ได้ ขอดูกำลังก่อนครับ ว่าจะพอไปติดต่อขอลิขสิทธิ์และ materials ต่าง ๆ มาประกอบได้หรือไม่ แค่ไหน
รอข่าวเปิดจองครับ :)
Quote from: klao on 05 May 2013, 04:39:26 am
วันนี้แวะเข้าไปดูห้อง ทีมงานพี่หวังทำโครง และปิดฝ้าไว้แล้วครับ เดี๋ยวยังไงต่อ ให้ช่างใหญ่มาอธิบาย
แต่ไอ้เส้นแดง ๆ รอบผนังส่วนที่เหนือบานประตูนี่ ขีดไว้เป็น reference อะไรครับพี่หวัง :blink:
ระดับที่ตีฝ้าแล้วนั้นเป็นระดับในหลุมคือ 3.65 ส่วนขอบหลุมรอบห้องจะต่ำลงมาที่ระดับ 3.15 ซึ่งยังไม่ได้ทำครับ แต่มีข้อผิดพลาดนิดหน่อยคือช่างปิดแผ่นฝ้าเยอะเกินไปถึงผนังรอบห้อง(คงกลัวว่าจะดูไม่เรียบร้อย :supergrin:) ที่จริงต้องเว้นห่างผนังมา 60 ซม. เพราะตรงนั้นฝ้าจะต่ำลงมา 50 ซม. น่าจะเป็นแนวเส้นแดงนั้นละครับ
Quote from: pee on 05 May 2013, 05:18:40 am
แบบเดิมฝีมืออาจารย์อวบ ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
ที่แผ่นนี้ดัง แบบปกก็เป็นปัจจัยหนึ่ง
เสนอให้รักษาโครงสร้างทั้งหมดไว้
แล้วปรับเพิ่มให้ดูใหม่ ทันสมัยตามเทคโนโลยี่ ซึ่งทำได้หลายวิธี
1 สีเดียว เลือกโทนคลาสสิค ลวดลายกรอบรูป ปั้มนูนเป็น bass relief
2 เหมือนเดิม แต่รูปท่านผู้หญิงเปลี่ยนเป็นรุปสีให้ดูสดใสขึ้น
3 ทำเป็นเมตาลิกไปเลย
ฯลฯ
ขอบพระคุณสำหรับแนวทางครับพี่ :thumbup:
Quote from: sw on 05 May 2013, 06:12:15 am
ระดับที่ตีฝ้าแล้วนั้นเป็นระดับในหลุมคือ 3.65 ส่วนขอบหลุมรอบห้องจะต่ำลงมาที่ระดับ 3.15 ซึ่งยังไม่ได้ทำครับ แต่มีข้อผิดพลาดนิดหน่อยคือช่างปิดแผ่นฝ้าเยอะเกินไปถึงผนังรอบห้อง(คงกลัวว่าจะดูไม่เรียบร้อย :supergrin:) ที่จริงต้องเว้นห่างผนังมา 60 ซม. เพราะตรงนั้นฝ้าจะต่ำลงมา 50 ซม. น่าจะเป็นแนวเส้นแดงนั้นละครับ
ขอบคุณครับพี่หวัง แล้วไอ้พวก SCG Cylence เรายัดไว้ตรงไหนของฝ้าครับ
แย่ซะแล้ว ผมนึกว่าจะมีพื้นที่พอสำหรับติดแอร์แบบ wall type สองตัว (btu น้อย ๆ เสียงจะได้ไม่ดัง) ด้านบนลายฉลุของประตู ทำไงดีล่ะเนี่ย :huh:
Quote from: klao on 05 May 2013, 07:42:14 am
แย่ซะแล้ว ผมนึกว่าจะมีพื้นที่พอสำหรับติดแอร์แบบ wall type สองตัว (btu น้อย ๆ เสียงจะได้ไม่ดัง) ด้านบนลายฉลุของประตู ทำไงดีล่ะเนี่ย :huh:
อิอิ
แก้แบบครับ.....ฮา
ต้องแก้แบบครับ ยกฝ้าสเต็ปล่างขึ้นอีก 15 ซม.ครับ ตอนนี้ยังทำได้อยู่ครับ
แต่ถ้าจะเอาตามระดับเดิม ก็ยกเลิกสเต็ปด้านระเบียง คือด้านอื่นลดระดับลงมาเป็นกรอบรอบห้อง แต่ด้านระเบียงไม่ต้องลด เดี๋ยวจะวาดรูปให้ดูครับ
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/IMG_zps9074a33b.jpg)
ผมแนะนำวิธีที่ 1 ครับ จะดูเรียบร้อยกว่า แต่ระดับของฝ้าสเต็ปล่างจะไม่เป็นไปตามแบบของ Rives
ซึ่งผมว่าถ้าถาม Rives เขาก็จะแนะนำแบบนี้แหละ เสียงโดยรวมไม่น่ามีผลเสีย เพราะว่าในหลุมซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ ยังคงระดับเดิมอยู่
ส่วนแผ่น SCG Cylence จะวางอยู่ข้างบนแผ่นฝ้าทั้งหมดครับ
ซาเป็คแอร์ที่อยากจะติด บอกว่าความกว้างของ inwall unit คือ 79.8 ซม. ครับ
ตามแบบ ช่องประตูกว้างด้านละ 120 ซม. เหลือที่ระหว่างประตูประมาณ 175 ซม. ก็อาจจะใส่แอร์ตรงกลางได้ 2 ตัวติดกัน แน่นหน่อย ก็เป็นอีก option ครับ
แต่ผมไม่แน่ใจว่าบานประตูของจริง จะกว้างกว่า 120 ซม. แล้วทำให้พื้นที่ระหว่างนั้น น้อยกว่า 175 ซม. รึเปล่า
Quote from: sw on 05 May 2013, 04:14:02 pm
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/IMG_zps9074a33b.jpg)
ผมแนะนำวิธีที่ 1 ครับ จะดูเรียบร้อยกว่า แต่ระดับของฝ้าสเต็ปล่างจะไม่เป็นไปตามแบบของ Rives
ซึ่งผมว่าถ้าถาม Rives เขาก็จะแนะนำแบบนี้แหละ เสียงโดยรวมไม่น่ามีผลเสีย เพราะว่าในหลุมซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ ยังคงระดับเดิมอยู่
งั้นตามวิธี 1 สวยสุุด ขอบคุณครับพี่
แอร์ขนาด 295 x 798 x 232 มม. นะครับ
เอ...รึจะติดแอร์ตัวเดียว ตรงกลาง ไม่ต้องแก้แบบ
ขอคิดอีกซัก 1-2 วันครับพี่หวัง
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/Photo-0010a_zps77f58d75.jpg)
รูปโครงฝ้าเพดาน ซอยอย่างเยอะเลย ช่างทำเกินสเป็ค เพราะกลัวโดนแก้งาน :lol:
ผมเข้าไปถ่ายรูปไม่ทัน ช่างเอามือถือถ่ายส่งมาให้ครับ
เฮียหวัง เป็นรุ่นพี่ คุณวัชระ เอ-เซเว่นรึเปล่าครับ
พื้นที่ระหว่างประตูที่เป็นปูน กว้าง 163 ซม.ครับ ถ้าติดสองตัวจะเบียดมากๆ เสี่ยงผิดพลาดครับ ผมเจอมาแล้วแอร์(ไดกิ้น)ตัวจริงใหญ่กว่าในแคตาล็อค ต้องรื้อผนังตู้เลย
ติดตัวเดียวก็ดีครับ สวยกว่า ต้องใช้ขนาด 40000 BTU. ถ้าแยกสองตัว เปิดตัวเดียวก็ไม่เย็น เปิดสองตัววุ่นวายครับ จะปรับอุณหภูมิก็ต้องกดสองรีโมท เซอร์วิสก็สองเครื่อง
ถ้าไม่ชอบเสียงดังก็เปิดแอร์ทิ้งไว้ให้เย็นก่อน เวลาฟังก็ลดสปีดพัดลมให้ต่ำสุดก็ไม่ดังกว่าสองตัวแน่ๆครับ
Quote from: klao on 05 May 2013, 04:22:39 pm
Quote from: sw on 05 May 2013, 04:14:02 pm
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/IMG_zps9074a33b.jpg)
ผมแนะนำวิธีที่ 1 ครับ จะดูเรียบร้อยกว่า แต่ระดับของฝ้าสเต็ปล่างจะไม่เป็นไปตามแบบของ Rives
ซึ่งผมว่าถ้าถาม Rives เขาก็จะแนะนำแบบนี้แหละ เสียงโดยรวมไม่น่ามีผลเสีย เพราะว่าในหลุมซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ ยังคงระดับเดิมอยู่
งั้นตามวิธี 1 สวยสุุด ขอบคุณครับพี่
แอร์ขนาด 295 x 798 x 232 มม. นะครับ
ต้องเผื่อพื้นที่ด้านบนแอร์ไว้ตอน Service ด้วยนะครับ เนื่องจากคอยล์เย็นส่วนใหญ่จะเป็นรูปตัว V ที่เราเห็น ๆ เป็นแค่ด้านข้างของตัว V ครับ ส่วนด้านในถ้าล้างยาก ช่างก็จะไม่ล้างแน่ ๆ ครับ
Quote from: jtr on 05 May 2013, 04:46:09 pm
เฮียหวัง เป็นรุ่นพี่ คุณวัชระ เอ-เซเว่นรึเปล่าครับ
อาจจะเป็นก็ได้ครับ ผมเป็นพวกฤาษี ไม่ได้ไปทำความรู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องเลยตั้งแต่จบมา :P
Quote from: klao on 05 May 2013, 04:27:40 pm
เอ...รึจะติดแอร์ตัวเดียว ตรงกลาง ไม่ต้องแก้แบบ
ขอคิดอีกซัก 1-2 วันครับพี่หวัง
นั่นละครับ ทางออก
แอร์ตัวเดียว ดีกว่าสองตัวครับ ถ้าเป็นของมียี่ห้อนะ
มันให้พลังความเย็นที่เต็มอิ่มกว่า แม้จะเปิดที่ 24 องศาเท่ากัน
เรื่องกินไฟ ก็ดีกว่าด้วย
BTU แอร์คำนวณคร่าว ๆ โดยใช้สูตรร้านแอร์ไทยคือ ตรม. x 700 + 5% ห้องนี้ = 37,500 แต่ถ้าเป็นในเว็บฝาหรั่ง ไม่เห็นต้องใช้ BTU เยอะ ทั้ง ๆ ที่หน้าร้อนใน ตปท. ก็ร้อนใช่ย่อย หรือว่าสูตรเรา เผื่อค่าความชื้นด้วยฮะ ?
http://www.calculator.net/btu-calculator.html
6 x 8.5 x 3.65 meters; normal insulation; -20C = 24,311 BTU
http://www.goodhousekeeping.com/home/air-conditioner-calculator
550-700 sq.feet; poor insulation; sunny room; use as kitchen = 25,560 BTU
ตอนแรกกะจะใช้ Mitsu Electric Super Inverter เพราะเห็น spec บอกว่าค่อนข้างเงียบ คือแต่ละเครื่อง (silent / low / high):
13,300 BTU => SPL-dB(A) 19 / 22 / 36
20,472 BTU => SPL-dB(A) 28 / 33 / 44
26,684 BTU => SPL-dB(A) 30 / 37 / 45
ก็เลยคิดว่าตัว 13,300 BTU สองเครื่อง 26,600 BTU เสียงรวมกัน 22+22 = 25.01 จะเงียบกว่าเครื่องใหญ่เครื่องเดียว (http://www.sengpielaudio.com/calculator-spl.htm)
สมัยก่อน ติดแอร์ในสตูดิโอที่บ้านเชียงใหม่ ตามคำแนะนำช่าง BTU เต็มที่เลยครับ 4 เครื่อง ปรากฎหนาวเกิน เปิดแค่ทีละ 2 ตลอด <_<
เห็นสูตรก็มึนแล้วครับ :dizzy: ต้องรบกวนวิศวกรช่วยแนะนำให้แล้วล่ะ
ห้องเครื่องเสียงตำแหน่งอยุ่ทิศไหนครับดูแล้วหน้าต่างเยอะน่าจะใช้800-1000/ตรม.คำนวนเป็น btu ครับ
โจทย์คือเรื่องเสียงลมน่ะครับ ว่าจะใช้แอร์เล็กสองตัว หรือจะใช้แอร์ใหญ่ตัวเดียว แบบไหนเงียบกว่ากัน
เรื่องความเย็นไม่น่ามีปัญหา ผนังห้องไม่โดนแดด หลังคาก็สูงมากลมผ่านได้ บุใต้หลังคาแล้วบุบนฝ้าอีก ไม่ร้อนครับ
ตัวเลขน่าสนใจนะครับ
13,300 BTU => SPL-dB(A) 19 / 22 / 36.......เดินเบาก็เงียบดี แต่ไม่เย็นแน่ๆ พอเดินหนักก็ดังด้วยความชันที่น่ากลีวอยู่
20,472 BTU => SPL-dB(A) 28 / 33 / 44.......อันนี้ดังเท่าตัวใหญ่เลย
26,684 BTU => SPL-dB(A) 30 / 37 / 45 ต่ำสุดมาสูงสุด ห่างกัน 15 dB แต่ตัวเล็กห่างกัน 17
อย่าลืมความดังเบิ้ลสอง ในกรณีติดสองตัวด้วยจ้า
Quote from: pee on 06 May 2013, 05:38:21 am
อย่าลืมความดังเบิ้ลสอง ในกรณีติดสองตัวด้วยจ้า
ตอนแรกผมก็คิดอย่างนี้ครับ ว่าความดัง 22dB สองตัวน่าจะเบิ้ลเป็น 44dB แต่มีคนเก่งคณิตศาสตร์ในเว็บบอร์ดไหนก็จำไม่ได้ บอกผมว่า พอเป็นเรื่องความดัง มันต้องไปใส่สูตรอะไรไม่รู้แต่มี log scale ด้วยครับ
ไปเจอหน้านี้มา เหมือนเป็น calculating tool สำหรับความดัง เวลาใส่ 22dB จาก 2 sources เข้าไป มันออกมารวมเป็นแค่ 25.01dB เองครับ ด้านล่าง ผมเดาว่าเขาบอกว่าพวก noise ที่วัดเป็น dBA ก็น่าจะรวมเหมือน dB ธรรมดา
http://www.sengpielaudio.com/calculator-spl.htm
Quote from: klao on 06 May 2013, 06:10:51 am
ไปเจอหน้านี้มา เหมือนเป็น calculating tool สำหรับความดัง เวลาใส่ 22dB จาก 2 sources เข้าไป มันออกมารวมเป็นแค่ 25.01dB เองครับ ด้านล่าง ผมเดาว่าเขาบอกว่าพวก noise ที่วัดเป็น dBA ก็น่าจะรวมเหมือน dB ธรรมดา
หึหึ
ผมใช้อยู่ครับ ห้องใหญ่ 1 ตัว อีกห้อง 2 ตัว.......แอร์ใหม่ทั้งหมด
ทฤษฎีมันไม่ตรงกับของจริงเป๊ะๆ มันมีเรื่องอื่นประสมด้วย
เพียงแต่ไม่ได้ดังเป็นสองเท่า แต่ก็ดังมากกว่าตำราบอกครับ
อันนี้ใช้ความรู้สึกวัดเอานะ
อย่าไปหลงลมใช้พวกแอร์ท่อเด็ดขาดนะครับ
เคลมกันว่าเงียบอย่างโน้นอย่างนี้ โน่น นี่ นั่น
บานปลาย บำรุงรักษาจุกจิก เพื่อนผมเค้ามาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนเค้าโดนมาแล้ว
หรือเป็นทีช่างทำไม่ดีหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
แอร์ท่อ บำรุงรักษา แพงกว่า ยุ่งยากกว่าจริงครับ
ส่วนเสียง หากว่า ไม่ได้ ทำท่อ พับ แล้วซ้อนไป ซ้อนมา หลายๆชั้น เสียงกวนมันก็เยอะครับ
ผมเคยอ่านเจอว่า ให้ทำท่อ พับทบไป ทบมา เหมือนพับผ้า จะช่วยลดเสียงได้ ซึ่งก็ไม่รู้จริงไหม
แต่โดยส่วนตัว ผมจะติดแอร์ตัวเล็กๆ หลายๆตัวดีกว่าครับ เพราะถูกกว่า ดูแลง่ายกว่า และเสียงก็เงียบ
ส่วนแอร์ตัวใหญ่ ตัวเดียว เสียงจะดังกว่าครับ
ตกลงกับพี่หวังแล้ว ว่าเอาฝ้าไว้ตามแบบเดิมของ Rives Audio
เดี๋ยวค่อยหาพื้นที่ ติดแอร์เล็ก wall-type ให้ได้สองตัวดูครับ
เรื่องแผ่นพวงร้อย นอกเหนือจากโรงงานปั้มแผ่น RTI ที่ USA กำลังพิจารณาดูอยู่ว่า จะใช้ Quality Record Pressing ดีไหม
ใหม่กว่าสดกว่าครับ http://www.qualityrecordpressings.com/index.cfm?go=about
แถมมีลูกเล่นให้เพิ่มจุดขายได้ด้วย พวกเนื้อ 200g, UHQR, และ Clear Vinyl ว่าแต่ว่า เซียน ๆ แผ่นเสียงในนี้ คิดว่ามันเป็นไงบ้างครับ ?
ตามหลักการแล้ว
ยิ่งสินค้ามีทางเลือกมาก ก็ยิ่งเพิ่มกำลังซื้อครับ
บางคนที่จะซื้อแผ่นเดียว อาจจะติดใจ ซื้อ 3 แผ่นก็ได้
คนที่ซื้อแค่แผ่นเดียว ก็ซื้อไป เราก็ยังได้ยอดขายตามหวัง
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_5600_zps8c1490d8.jpg)
ชิ้นส่วนงานของ Low Frequency Trap ที่จะนำไปประกอบตรงมุมทั้งสี่ ของห้องครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_5595_zpsc108e733.jpg)
อันนี้จะเป็นไม้ทรงครีบ 3 เหลี่ยม ติดผนังด้านหน้าห้อง (หลังลำโพง) จะติดฝั่งซ้าย 3 ชิ้น ฝั่งขวาอีก 3 คงไว้ diffuse หรือกระจายเสียง
อื่น ๆ พี่หวังคงเตรียมเสร็จไปจะครบแล้วมัง พอดีติดงานขัดพื้น ทาน้ำยาเคลือบไม้ ซึ่งสัปดาห์นี้น่าจะเสร็จสมบุรณ์
เห็นช่างแอร์บอกว่า ติดแอร์ได้ตรงหลุมฝ้าด้านหลังนี่ หลุมละเครื่องครับ แต่คงจะต้องเสริมไม้ให้แข็งแรงขึ้น
พี่หวังเช็ค e-mail / LINE ด้วยครับ จะรบกวนจะให้โทรไปคุยกับช่างแอร์ เพื่อเคลียร์รายละเอียดซะก่อนนะครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130613_143400_zps91498121.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130613_144122_zps12ebcf27.jpg)
พื้นไม้ เห็นพี่สถาปนิกบอก ยังไม่ค่อยเนียน จะต้องให้ช่างเข้ามาขัดน้ำ หรืออะไรประมาณนี้ เพิ่มอีกครับ
ส่วนพื้นที่แซะร่องไว้ ซ่อนสายสัญญาณ เดี๋ยวจะต้องตัดมุมตรงพื้นปูน ให้งอสายได้ง่ายอีกหน่อย
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130613_143450_zpsfcf5ba05.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20130613_144025_zps1dfed61f.jpg)
สวยครับ
ลุ้นครับลุ้น อยากมีห้องที่ได้มีส่วนในการทำแบบนี้จัง
ขอบหลุมฝ้าที่จะติดแอร์ ต้องปะไม้อัด 10 มม.ทับอีกชั้นนึงเพื่อความมั่นใจ เพราะพุกยึดกับยิบซั่มจะโยกคลอนได้ง่าย
วันนี้จะเข้าไปดูครับ
Quote from: sw on 15 June 2013, 01:41:37 pm
ขอบหลุมฝ้าที่จะติดแอร์ ต้องปะไม้อัด 10 มม.ทับอีกชั้นนึงเพื่อความมั่นใจ เพราะพุกยึดกับยิบซั่มจะโยกคลอนได้ง่าย
วันนี้จะเข้าไปดูครับ
เฮียหวังเข้าไซท์น้องเกล้าราวกะไปเซเว่นปากซอยเลย
ห้องนี้เสร็จ คงจะเอาลงเว็บนอกได้นะครับ
โดยเฉพาะเมื่อมีงานจิตรกรรมดีๆ ขับเน้นคุณค่า
:'( :'( :'( :'( :'(
Quote from: pee on 15 June 2013, 03:09:39 pm
Quote from: sw on 15 June 2013, 01:41:37 pm
ขอบหลุมฝ้าที่จะติดแอร์ ต้องปะไม้อัด 10 มม.ทับอีกชั้นนึงเพื่อความมั่นใจ เพราะพุกยึดกับยิบซั่มจะโยกคลอนได้ง่าย
วันนี้จะเข้าไปดูครับ
เฮียหวังเข้าไซท์น้องเกล้าราวกะไปเซเว่นปากซอยเลย
ห้องนี้เสร็จ คงจะเอาลงเว็บนอกได้นะครับ
โดยเฉพาะเมื่อมีงานจิตรกรรมดีๆ ขับเน้นคุณค่า
Quote from: dht_tubes on 15 June 2013, 03:49:59 pm
:'( :'( :'( :'( :'(
พรุ่งนี้ไปเซเว่นอีกสาขา ถ่ายรูปงานเฮียทู้ปมาให้ดูุ :)
วันนี้ขออนุญาตเข้าบ้านลูก ๆ ท่านผู้หญิงฯ ไปถ่ายรูป "กรอบกระจกพวงร้อย" ซึ่งอาจารย์อวบ เป็นผู้ออกแบบให้ครับ (จึงขอประกาศสงวนลิขสิทธ์ไว้ ณ ที่นี้...อิอิ) ทราบจากคุณแม่ผม ว่าพวงร้อย ก็เป็นชื่อพันธุ์หนึ่งของดอกกุหลาบ
เข้าใจว่ากรอบนี้เป็นอันที่ใช้ทำปกแผ่นเสียง แต่คงได้ซ่อมแซมทำสีใหม่ ออกมาเป็นอย่างที่เห็นในภาพ
นี่ถ้าจะใช้รูปนี้ไปทำปกชุด re-issue คนแต่ง photoshop คงต้องปวดเฮดและเหนื่อย กับฝีมือการถ่ายรูปสตึ ๆ ของผมหน่อย
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/PuangroiMirror2_zps63cb048e.jpg)
ส่วนอันนี้ ปิดทองทั้งบาน เหมือนบนปก แต่งานแกะไม่คมเท่าครับ
พอจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เห็นอยู่ที่บ้านผม แต่คุณแม่ คงขายหรือยกให้ลูกหลานท่านไปครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/PuangroiMirror_zps91047d81.jpg)
Quote from: klao on 29 June 2013, 06:24:21 am
นี่ถ้าจะใช้รูปนี้ไปทำปกชุด re-issue คนแต่ง photoshop คงต้องปวดเฮดและเหนื่อย กับฝีมือการถ่ายรูปสตึ ๆ ของผมหน่อย
เห็นเอ่ยถึงโฟโฟ่ฉ็อบ ก็เลยอยากจะออกความเห็นนิดหน่อยว่า
อาจารย์อวบท่านทำงานออกแบบชุดนี้ในยุคทำมือ
เมื่อไหร่ที่เอาเครื่องมือสังกะสีแบบดิจิตัลอิเมจมาใช้ ก็จะสูญเสียคุณวิเศษของฝีมือไป
กรุณาหลีกเลี่ยงครับ
อีกประการหนึ่ง โปรแกรมพวกนี้ มำให้งานทุกชิ้นเหมือนๆ กันไปหมด เหมาะกับการวางขายที่คลองถม
ไม่เหมาะกับโรงแรมฮิลตัน ณปาร์คนายเลิศเป็นอันขาด
"กรอบกระจกพวงร้อย" สวยมากครับ
ถ้าถ่ายรูปไปทำปกแผ่นเสียง น่าจะต้องใช้บริการสตูดิโอถ่ายภาพแล้วล่ะครับ ไม่ใช่ว่าฝีมือคุณเกล้าไม่ถึงนะ อุปกรณ์แค่นี้ถ่ายได้อย่างนี้ก็เยี่ยมแล้ว ขึ้นอยู่กับแบบปกด้วยนะ ว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นภาพกรอบกระจกโดดๆเลย ต้องพึ่งอุปกรณ์มากกว่านี้แน่ๆ โดยเฉพาะจัดแสง โฟโต้ฉ่อบตัดออกไปก่อนเลย ที่เขาใช้โฟโต้ฉ่อบนั่นเพราะว่าเขาหารูปต้นฉบับที่ดีกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว
Quote from: pee on 29 June 2013, 09:26:11 am
Quote from: klao on 29 June 2013, 06:24:21 am
นี่ถ้าจะใช้รูปนี้ไปทำปกชุด re-issue คนแต่ง photoshop คงต้องปวดเฮดและเหนื่อย กับฝีมือการถ่ายรูปสตึ ๆ ของผมหน่อย
เห็นเอ่ยถึงโฟโฟ่ฉ็อบ ก็เลยอยากจะออกความเห็นนิดหน่อยว่า
อาจารย์อวบท่านทำงานออกแบบชุดนี้ในยุคทำมือ
เมื่อไหร่ที่เอาเครื่องมือสังกะสีแบบดิจิตัลอิเมจมาใช้ ก็จะสูญเสียคุณวิเศษของฝีมือไป
กรุณาหลีกเลี่ยงครับ
อีกประการหนึ่ง โปรแกรมพวกนี้ มำให้งานทุกชิ้นเหมือนๆ กันไปหมด เหมาะกับการวางขายที่คลองถม
ไม่เหมาะกับโรงแรมฮิลตัน ณปาร์คนายเลิศเป็นอันขาด
ผมเห็นด้วยกับพี่พีครับ
ปกเดิมแผ่นเสียงพวงร้อยทั้ง 2 อัลบั้ม คุณอา นันทะ เจริญพันธุ์ กับ อาจารย์กมล ฉายาวัฒนะ เป็นผู้ออกแบบครับ
คราวนี้ผมรบกวน อ.โชติวัฒน์ ปุณโณปถัมภ์ ที่เคยออกแบบหนังสือ อ.อวบ 72 ปี ช่วยดูแลทางด้านนี้ให้ แต่เผอิญอาจารย์ติดธุระ เลยไม่ได้ขนกล้องระดับสตูฯ ไปถ่ายครับ ส่วนเจ้าของกรอบกระจกท่าน ก็ไม่สะดวกใจที่จะให้ยืมออกมาถ่ายด้านนอก เจอแสง downlights กับ halogen ไปเงาก็เลยเยอะ ใช้ auto white balance แล้วแต่ก็ยังดูเหลือง ๆ
เดี๋ยวให้อ.โชติฯ ลองพิจาณาเลือกดูครับ ว่าจะ scan จากปกเก่า หรือใช้รูป snap shots ที่ผมถ่ายมา หรือต้องยกกองไปขอถ่ายซ้ำโดยมืออาชีพ :P
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/159d1a74-4625-4c72-ad7d-e413ef99d7cd_zpse174423e.jpg)
Quote from: klao on 29 June 2013, 05:30:43 pm
เดี๋ยวให้อ.โชติฯ ลองพิจาณาเลือกดูครับ ว่าจะ scan จากปกเก่า หรือใช้รูป snap shots ที่ผมถ่ายมา หรือต้องยกกองไปขอถ่ายซ้ำโดยมืออาชีพ :P
ตามหลักของการอนุรักษ์ เราจะทำเพิ่ม น้อยที่สุด
ที่ทำเพิ่มก็ต้องไม่เปลี่ยนของเดิม
กระดาษโน๊ตของมทสาร์ต ไม่มีใครใช้โฟโต้ฉ็อบแต่งให้มันคมชัดหรอกครับ
As Is คือนโยบายที่ดีที่สุด
แผ่นเสียงพวงร้อย มีค่ามากกว่างานออกแบบของอาจารย์รุ่นหลัง
มันคือบันทึกอดีตที่ "ต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลง" นะครับ
ไม่ทราบแน้แท้ ว่าจริงๆ แล้วใครเป็นผู้ครองหรือดูแลสิทธิ์ในเนื้องร้อง ที่พระองค์เจ้าภาณุฯ ทรงประพันธ์เอาไว้
แต่ก็ลองติดต่อหม่อมองค์ล่าสุดของท่านไป ว่าจะขออนุญาติ ขอความอนุเคราะห์ นำเนื้อร้อง 6 เพลงมาจัดพิมพ์ประกอบในครานี้ด้วย
เพื่อผู้ฟังจะได้ซาบซึ้งถึงพระอัจฉริยภาพ และความเป็นเลิศทางภาษาไทย จากเนื้อร้องของท่าน
หม่อมก็กรุณาให้ไก้ดไลน์มาว่า ปกติหากใครนำไปบรรเลง อัดใหม่ หรือจัดคอนเสิร์ท เขาบำรุงบริจาคกันเพลงละ 4 หมื่นบาท
หารือกันแล้ว ถ้าจะต่อเหลือซักเพลงละ หมื่นเดียว พวกผมก็คงลำบาก
เป็นอันว่าต้องขออำภัยมา ณ ที่นี้ ว่าหากใครอยากได้เนื้อร้องก็ต้อง google หา หรือไปห้องสมุดดนตรีกันเองนะครับ
วันเสาร์นี้ จะได้เริ่มงานติดตั้งแล้วครับ พวกนี้เป็น absorption panels สำหรับผนังห้องด้านซ้ายและขวา
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5746_zpse74c4ee6.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5747_zps0139044c.jpg)
วัสดุที่นำมาใช้ครับ แผ่น fiberglass ของ SCG ที่สเป็คเหมือนของ Owens Corning 703 ที่ Rives Audio ระบุมา
ส่วนกรอบเหล็กดำ ๆ ไม่ทราบทำอะไร ต้องให้พีหวังอธิบายครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5745_zps847165c9.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5740_zps9d216205.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5741_zpsc0de88f4.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/ResizeofIMG_5744_zpsf119ea88.jpg)
Quote from: klao on 04 July 2013, 11:13:51 pm
หม่อมก็กรุณาให้ไก้ดไลน์มาว่า ปกติหากใครนำไปบรรเลง อัดใหม่ หรือจัดคอนเสิร์ท เขาบำรุงบริจาคกันเพลงละ 4 หมื่นบาท
เงื่อนไขในกฏหมายลิขสิทธิ์ไทยนั้น ชัดเจนครับ
1 ผลงานที่เผยแพร่แล้ว มีอายุคุ้มครอง 50 ปีนับจากวันเผยแพร่ (การทำซ้ำต่อๆ มา ไม่นับ ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลง)
2 ผลงานที่ยังไม่เผยแพร่ มีอายุคุ้มครอง 50 ปี นับจากวันที่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต
ตามกฏหมายนี้ เพลงสุนทราภรณ์ส่วนใหญ่ ปลอดลิขสิทธิ์แล้ว
เพลงพระราชนิพนธ์ส่วนหนึ่ง ก็ใช่
งานของท่านผู้หญิงที่เข้าเกณฑ์ ก็ด้วยเช่นกัน
สรุปง่ายๆ ว่า ผลงานทั้งหลายที่เผยแพร่ก่อน 2506 ลงไป ปลอดลิขสิทธิ์ทั้งหมด
Quote from: pee on 05 July 2013, 01:09:01 am
Quote from: klao on 04 July 2013, 11:13:51 pm
หม่อมก็กรุณาให้ไก้ดไลน์มาว่า ปกติหากใครนำไปบรรเลง อัดใหม่ หรือจัดคอนเสิร์ท เขาบำรุงบริจาคกันเพลงละ 4 หมื่นบาท
เงื่อนไขในกฏหมายลิขสิทธิ์ไทยนั้น ชัดเจนครับ
1 ผลงานที่เผยแพร่แล้ว มีอายุคุ้มครอง 50 ปีนับจากวันเผยแพร่ (การทำซ้ำต่อๆ มา ไม่นับ ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลง)
2 ผลงานที่ยังไม่เผยแพร่ มีอายุคุ้มครอง 50 ปี นับจากวันที่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต
ตามกฏหมายนี้ เพลงสุนทราภรณ์ส่วนใหญ่ ปลอดลิขสิทธิ์แล้ว
เพลงพระราชนิพนธ์ส่วนหนึ่ง ก็ใช่
งานของท่านผู้หญิงที่เข้าเกณฑ์ ก็ด้วยเช่นกัน
สรุปง่ายๆ ว่า ผลงานทั้งหลายที่เผยแพร่ก่อน 2506 ลงไป ปลอดลิขสิทธิ์ทั้งหมด
จริงดิพี่ ? วันก่อนอ่านคร่าว ๆ นึกว่างาน วรรณกรรม งานประพันธ์ ต้องรอ 50 ปีหลังจากคนแต่งเสียชีวิต
ส่วนงานบันทึกเสียงและภาพ นับ 50 ปีตั้งแต่วันที่เผยแพร่
เดี๋ยวขอ recheck ก่อน
ขอบคุณครับ
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติ
..."วรรณกรรม" หมายความว่า งานนิพนธ์ที่ทำขึ้นทุกชนิด เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ ปาฐกถา เทศนา คำปราศรัย สุนทรพจน์ และให้หมายความรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย...
"ดนตรีกรรม" หมายความว่า งานเกี่ยวกับเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมีทำนองและคำร้องหรือมีทำนองอย่างเดียว และให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
"โสตทัศนวัสดุ" หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของภาพโดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะอย่างใด อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีก โดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบงานนั้นด้วย ถ้ามี
"ภาพยนตร์" หมายความว่า โสตทัศนวัสดุอันประกอบด้วยลำดับของภาพ ซึ่งสามารถนำออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์หรือสามารถบันทึกลงบนวัสดุอื่น เพื่อนำออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์ และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์นั้นด้วย ถ้ามี
"สิ่งบันทึกเสียง" หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของเสียงดนตรี เสียงการแสดง หรือเสียงอื่นใด โดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใดๆ อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีกโดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียงประกอบโสตทัศนวัสดุอย่างอื่น...
มาตรา ๑๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย...
มาตรา ๒๐ งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยผู้สร้างสรรค์ใช้นามแฝงหรือไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างสรรค์ ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
ในกรณีที่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ให้นำมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๒๑ ลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียงหรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพให้มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
อ่านดูแล้ว เหมือนเนื้อเพลงที่แต่งขึ้น ไม่เป็นวรรณกรรม ก็งานดนตรี คงต้องรอ 50 ปีหลังคนแต่งเสียชีวิตครับ
ส่วนงานบันทึกเสียงพวงร้อย อีก 10 กว่าปีก็หมดแล้วอ่ะ -_-
มาตรา ๒๑ ลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียงหรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพให้มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
มาตรานี้ระบุชัดถึงอายุการคุ้มครอง ตรงกับกฏหมายสากล
ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมมีมาตรา ๑๙ มาขัดแย้งกันอย่างนี้
ถ้าเราแต่งเพลงไว้แต่ไม่ได้เผยแพร่ จะได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ 50 ปี
แต่ถ้าเผยแพร่ ก็นับ 50 ปี จากวันเผยแพร่
ความจริงใน มาตรา ๔ มีนิยามของงานสร้างสรรค์อื่น ๆ อีกที่ได้รับการคุ้มครอง แต่ผมไม่ได้ copy มาลงใน post ที่แล้วเพราะไม่เกี่ยวกับเพลง คือ
"โปรแกรมคอมพิวเตอร์" หมายความว่า คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดที่นำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานหรือเพื่อให้ได้รับผลอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในลักษณะใด
"นาฏกรรม" หมายความว่า งานเกี่ยวกับการรำ การเต้น การทำท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว และให้หมายความรวมถึงการแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย
"ศิลปกรรม" หมายความว่า งานอันมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้
(๑) งานจิตรกรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สี หรือสิ่งอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ลงบนวัสดุอย่างเดียวหรือหลายอย่าง
(๒) งานประติมากรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่เกี่ยวกับปริมาตรที่สัมผัสและจับต้องได้
(๓) งานภาพพิมพ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพด้วยกรรมวิธีทางการพิมพ์ และหมายความรวมถึงแม่พิมพ์หรือแบบพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย
(๔) งานสถาปัตยกรรม ได้แก่ งานออกแบบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง งานออกแบบตกแต่งภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการสร้างสรรค์หุ่นจำลองของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
(๕) งานภาพถ่าย ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพที่เกิดจากการใช้เครื่องมือบันทึกภาพโดยให้แสงผ่านเลนซ์ไปยังฟิล์มหรือกระจก และล้างด้วยน้ำยาซึ่งมีสูตรเฉพาะ หรือด้วยกรรมวิธีใดๆ อันทำให้เกิดภาพขึ้น หรือการบันทึกภาพโดยเครื่องมือหรือวิธีการอย่างอื่น
(๖) งานภาพประกอบ แผนที่ โครงสร้าง ภาพร่าง หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติอันเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์
(๗) งานศิลปประยุกต์ ได้แก่ งานที่นำเอางานตาม (๑) ถึง (๖) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น นอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าวนั้น เช่น นำไปใช้สอย นำไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า
ทั้งนี้ ไม่ว่างานตาม (๑) ถึง (๗) จะมีคุณค่าทางศิลปะหรือไม่ และให้หมายความรวมถึงภาพถ่ายและแผนผังของงานดังกล่าวด้วย
Quote from: pee on 05 July 2013, 02:04:28 am
มาตรา ๒๑ ลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียงหรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพให้มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
มาตรานี้ระบุชัดถึงอายุการคุ้มครอง ตรงกับกฏหมายสากล
ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมมีมาตรา ๑๙ มาขัดแย้งกันอย่างนี้
ถ้าเราแต่งเพลงไว้แต่ไม่ได้เผยแพร่ จะได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ 50 ปี
แต่ถ้าเผยแพร่ ก็นับ 50 ปี จากวันเผยแพร่
ผมเข้าใจว่า ม.19 คุ้มครองงานสร้างสรรค์
ตัวต้นฉบับครับ เช่น เนื้อเพลง และ/หรือทำนองที่แต่งไว้แล้ว หรือหนังสือ / บทภาพยนต์ ฯลฯ ตามที่นิยามไว้ใน ม.4 โดยมีระยะเวลาชั่วชีวิต + 50 ปี
ส่วน ม.21 คุ้มครองแยกเฉพาะแต่
production ของงานสร้างสรรค์
ที่อยู่บนสื่อนั้น ๆ แค่ 50 ปี ตั้งแต่จัดทำหรือเผยแพร่ โดย ม. 19 ยังคุ้มครองงานต้นฉบับอยู่ตามเดิม
น่าจะประมาณนั้นมังครับ
Quote from: klao on 05 July 2013, 06:03:38 am
ผมเข้าใจว่า ม.19 คุ้มครองงานสร้างสรรค์ตัวต้นฉบับครับ เช่น เนื้อเพลง และ/หรือทำนองที่แต่งไว้แล้ว หรือหนังสือ / บทภาพยนต์ ฯลฯ ตามที่นิยามไว้ใน ม.4 โดยมีระยะเวลาชั่วชีวิต + 50 ปี
ต้นฉบับกับสิ่งที่ถูกผลิตออกมามันคาบเดี่ยวกันครับ แยกไม่ได้
เหมือนรูปต้นฉบับของอาจารย์อวบ กับรูปรีโปรดัคชั่น กฏหมายคุ้มครองเท่ากัน
คือห้ามก๊อปปี้ไม่ว่าต้นฉบับหรือรีโปรดัค
อนึ่ง ผมไม่เคยทราบว่ามีการคุ้มครองชั่วชีวิต
ทราบแต่ว่าบางประเทศในยุโรป ขยายการคุ้มครองออกไปเป็น 99 ปี
(สหรัฐก็กำลังจะใช้จำนวนปีนี้เหมือนกัน)
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ หรืองง ๆ ว่า
(๕) "งานภาพภ่าย" ภายใต้นิยามของหัวข้อ "ศิลปกรรม" ใน ม.4 นั้น ดูเหมือนจะได้รับการคุ้มครองสั้นกว่างาน ศิลปกรรม อื่น ๆ ที่น่าจะอยู่ภายใต้ ม.19 คือ ชีวิต + 50 ปี
ส่วนงานภาพถ่าย จะมีอายุตาม ม. 21 แค่ 50 ปี
หรือยังไงกันแน่ ???
ลองสวมหัวใจทนาย อ่านมาตรา ๑๙ ใหม่ พบว่า ท่านตราไว้เพื่อเสริมกัน
คือมาตรา ๑๙ นั้นห้ามตัดสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ หมายความว่า จะอ้างว่าผู้สร้างสรรค์ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ มิได้
ส่วนมาตรา ๒๑ และ ๒๒ เป็นการรับรองสิ่งที่ผู้สร้างสรรค์พึงได้รับตามกฏหมายนี้
Quote from: klao on 05 July 2013, 06:20:15 am
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ หรืองง ๆ ว่า
(๕) "งานภาพภ่าย" ภายใต้นิยามของหัวข้อ "ศิลปกรรม" ใน ม.4 นั้น ดูเหมือนจะได้รับการคุ้มครองสั้นกว่างาน ศิลปกรรม อื่น ๆ ที่น่าจะอยู่ภายใต้ ม.19 คือ ชีวิต + 50 ปี
ส่วนงานภาพถ่าย จะมีอายุตาม ม. 21 แค่ 50 ปี
หรือยังไงกันแน่ ???
กฏหมายถูกเขียนโดยคนไม่รู้ศิลปะ มันก็วิปริตอย่างนี้แหละครับ
ผมจะไม่ประหลาดใจเลย ถ้าจะมีศิลปินไปแนะนำผู้ร่าง
กรณีภาพถ่าย ดูเหมือนคนออกกฏหมายจะตีค่าเป็นศิลปชั้นรอง เหมือนให้ศิลป์ประยุกต์มีอายุ 25 ปีเท่านั้น
ฮา
Quote from: pee on 05 July 2013, 06:16:26 am
ต้นฉบับกับสิ่งที่ถูกผลิตออกมามันคาบเดี่ยวกันครับ แยกไม่ได้
คาบเกี่ยวจริงครับ แต่น่าจะแยกได้ เช่นหนังสือ A (งานชิ้นที่ 1) เขียนปุ๊ป ก็ถูกซื้อ (แบบไม่ขาด-คือให้เช่าสิทธิ์หรือ licensed ให้) ไปทำหนังเรื่อง "1" ซึ่งหนัง (งานชิ้นที่ 2) ก็ได้รับการคุ้มครองต่างหากตาม ม. 21
แล้วอีก 49 ปีหลังจากที่คนเขียนตายไปแล้ว ทายาทยังเอาสิทธิ์ในหนังสือ A (งานชิ้นเดิม) ตาม ม.19 ไป licensed ให้ทำหนังเรื่อง "1-REMAKE" เป็นอีกงานสร้างสรรค์ (ชิ้นที่ 3) ได้อยู่อีก
จะไปทำหนัง หรือจะไปตีพิมพ์ ผมก็มองเป็นเรื่อง production จากงานต้นฉบับ ที่อาจจะอยู่ใน ms word file ก็ได้
ส่วนรูปเขียน หรืองานศิลปกรรมของ อ.อวบ สร้างสรรค์อยู่บนการผลิตเป็นชิ้นเดียวกันก็จริง คือรูป ก. อยู่บนผ้าใบ ขายให้ใครไป เขาก็มีกรรมสิทธิ์เหนืองานต้นฉบับ คือรูปบนผ้าใบชิ้นนั้น
แต่ อ.อวบ ก็ยังมีลิขสิทธิ์ใน ก. ไปอีก 50 ปีหลังจากตาย โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์รูป ก. เอาไปทำซ้ำและ ฯลฯ ไม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาต และหาก อ.อวบ ถ่ายรูปของภาพเขียน ก. ไว้ ผมในฐานะทายาท ยังเอามาพิมพ์ขายบน media อื่น ๆ ได้อยู่อีกครับ
Quote from: pee on 05 July 2013, 06:21:19 am
ลองสวมหัวใจทนาย อ่านมาตรา ๑๙ ใหม่ พบว่า ท่านตราไว้เพื่อเสริมกัน
คือมาตรา ๑๙ นั้นห้ามตัดสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ หมายความว่า จะอ้างว่าผู้สร้างสรรค์ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ มิได้
ส่วนมาตรา ๒๑ และ ๒๒ เป็นการรับรองสิ่งที่ผู้สร้างสรรค์พึงได้รับตามกฏหมายนี้
ขอโทษทีครับ ผมคัด ม.19 มาไม่หมด จริง ๆ มีต่ออีก 3 ย่อหน้าคือ
มาตรา ๑๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
ในกรณีที่มีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าวให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ร่วม และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย
ถ้าผู้สร้างสรรค์หรือผู้สร้างสรรค์ร่วมทุกคนถึงแก่ความตายก่อนที่ได้มีการโฆษณางานนั้น ให้ลิขสิทธิ์ดังกล่าวมีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
Quote from: pee on 05 July 2013, 06:24:05 am
Quote from: klao on 05 July 2013, 06:20:15 am
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ หรืองง ๆ ว่า
(๕) "งานภาพภ่าย" ภายใต้นิยามของหัวข้อ "ศิลปกรรม" ใน ม.4 นั้น ดูเหมือนจะได้รับการคุ้มครองสั้นกว่างาน ศิลปกรรม อื่น ๆ ที่น่าจะอยู่ภายใต้ ม.19 คือ ชีวิต + 50 ปี
ส่วนงานภาพถ่าย จะมีอายุตาม ม. 21 แค่ 50 ปี
หรือยังไงกันแน่ ???
กฏหมายถูกเขียนโดยคนไม่รู้ศิลปะ มันก็วิปริตอย่างนี้แหละครับ
ผมจะไม่ประหลาดใจเลย ถ้าจะมีศิลปินไปแนะนำผู้ร่าง
กรณีภาพถ่าย ดูเหมือนคนออกกฏหมายจะตีค่าเป็นศิลปชั้นรอง เหมือนให้ศิลป์ประยุกต์มีอายุ 25 ปีเท่านั้น
ฮา
นั่นนาซีครับ หรือเพราะเขาถือว่าเป็นเพียง derivatives เลยไม่ควรขลังเท่างาน original / underlying works ที่นำมาประยุกต์
มาตรา ๒๒ ลิขสิทธิ์ในงานศิลปประยุกต์ให้มีอายุยี่สิบห้าปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุยี่สิบห้าปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
คาบเกี่ยวจริงครับ แต่น่าจะแยกได้ เช่นหนังสือ A (งานชิ้นที่ 1) เขียนปุ๊ป ก็ถูกซื้อ (แบบไม่ขาด-คือให้เช่าสิทธิ์หรือ licensed ให้) ไปทำหนังเรื่อง "1" ซึ่งหนัง (งานชิ้นที่ 2) ก็ได้รับการคุ้มครองต่างหากตาม ม. 21
ในกรณีนี้ หนังมีลิขสิทธิ์เด็ดขาดของตัวเองทันที อย่างคู่กรรม สมมติว่า 4 เวอร์ชั่น ก็มีอายุไล่ไปตามปีที่ผลิต ทมยันตีไม่มีสิทธิ์เหนือภาพยนตร์เลย
แล้วอีก 49 ปีหลังจากที่คนเขียนตายไปแล้ว ทายาทยังเอาสิทธิ์ในหนังสือ A (งานชิ้นเดิม) ตาม ม.19 ไป licensed ให้ทำหนังเรื่อง "1-REMAKE" เป็นอีกงานสร้างสรรค์ (ชิ้นที่ 3) ได้อยู่อีก
ถ้าผู้สร้างหนังมีสัญญาห้ามขาย ก็ขายไม่ได้ครับ อย่างพนมเทียนขายเพชรพระอุมาไปแล้ว ต่อให้หนังไม่ได้สร้าง คนอื่นก้ไม่ได้สิทธิ์จากพนมเทียนอีก ส่วนหนังเรื่อง "1-REMAKE" ของน้องเกล้าและเจ้าของบทประพันธ์ อาจจะเจอฟ้องจาก หนังเรื่อง "1"
จะไปทำหนัง หรือจะไปตีพิมพ์ ผมก็มองเป็นเรื่อง production จากงานต้นฉบับ ที่อาจจะอยู่ใน ms word file ก็ได้
คำว่า"ห้ามทำซ้ำ ลอกเลียน หรือดัดแปลง" ครอบคลุมกรณี production เหล่านี้ไว้หมดครับ
ส่วนรูปเขียน หรืองานศิลปกรรมของ อ.อวบ สร้างสรรค์อยู่บนการผลิตเป็นชิ้นเดียวกันก็จริง คือรูป ก. อยู่บนผ้าใบ ขายให้ใครไป เขาก็มีกรรมสิทธิ์เหนืองานต้นฉบับ คือรูปบนผ้าใบชิ้นนั้น แต่ อ.อวบ ก็ยังมีลิขสิทธิ์ใน ก. ไปอีก 50 ปีหลังจากตาย โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์รูป ก. เอาไปทำซ้ำและ ฯลฯ ไม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาต และหาก อ.อวบ ถ่ายรูปของภาพเขียน ก. ไว้ ผมในฐานะทายาท ยังเอามาพิมพ์ขายบน media อื่น ๆ ได้อยู่อีกครับ
อันนี้เป็นไปตามระบบลิขสิทธิ์อยู่แล้วครับ
Quote from: pee on 05 July 2013, 07:43:41 am
คาบเกี่ยวจริงครับ แต่น่าจะแยกได้ เช่นหนังสือ A (งานชิ้นที่ 1) เขียนปุ๊ป ก็ถูกซื้อ (แบบไม่ขาด-คือให้เช่าสิทธิ์หรือ licensed ให้) ไปทำหนังเรื่อง "1" ซึ่งหนัง (งานชิ้นที่ 2) ก็ได้รับการคุ้มครองต่างหากตาม ม. 21
ในกรณีนี้ หนังมีลิขสิทธิ์เด็ดขาดของตัวเองทันที อย่างคู่กรรม สมมติว่า 4 เวอร์ชั่น ก็มีอายุไล่ไปตามปีที่ผลิต ทมยันตีไม่มีสิทธิ์เหนือภาพยนตร์เลย
แล้วอีก 49 ปีหลังจากที่คนเขียนตายไปแล้ว ทายาทยังเอาสิทธิ์ในหนังสือ A (งานชิ้นเดิม) ตาม ม.19 ไป licensed ให้ทำหนังเรื่อง "1-REMAKE" เป็นอีกงานสร้างสรรค์ (ชิ้นที่ 3) ได้อยู่อีก
ถ้าผู้สร้างหนังมีสัญญาห้ามขาย ก็ขายไม่ได้ครับ อย่างพนมเทียนขายเพชรพระอุมาไปแล้ว ต่อให้หนังไม่ได้สร้าง คนอื่นก้ไม่ได้สิทธิ์จากพนมเทียนอีก ส่วนหนังเรื่อง "1-REMAKE" ของน้องเกล้าและเจ้าของบทประพันธ์ อาจจะเจอฟ้องจาก หนังเรื่อง "1"
ใช่ครับ แล้วแต่หรือขึ้นอยู่กับ extent ในการขาย-การโอน/เช่าสิทธิ์ เและรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ในสัญญา
กลับมาที่ตัวอย่างเพลง ก็ต้องแยก เช่นเพลงบัวขาวในอัลบั้มพวงร้อย เนื้อร้องก็ยังคงเป็นของเสด็จพระองค์ชายใหญ่ ทำนองของท่านผู้หญิงพวงร้อย การเรียบเรียงเสียงประสานของแนวร้องและเครื่องดนตรี เป็นของ อ.เปีย ส่วนการบันทึกเสียงเพลงบัวขาว (production) โดยได้รับอนุญาตให้ใช้งานของทั้งสามท่านในคราวนั้น ก็เป็นลิขสิทธ์ต่างหากของผู้ทรงสิทธิ์ในอัลบั้ม
ผมจึงไม่มีสิทธิ์เอาเนื้อเพลงของท่าน มาพิมพ์ในปกอัลบั้ม หากไม่ได้รับอนุญาต
ติดตั้ง bass traps กับ diffusors เรียบร้อยครับ รองานเก็บสี
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0788_zpscfac38f5.jpg) (http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0789_zps863679dd.jpg)
ด้านหน้าห้อง
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0793_zpsaa268743.jpg)
ด้านหลังห้อง
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0785_zpsad42eebc.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0786_zpse2814d96.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0790_zpsf02251be.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0791_zps7bd77b7f.jpg)
สวยดีครับ
ดูโล่งโปร่งสบายตาดี ... นั่งฟังเพลงแล้วคงจะผ่อนคลายมากครับ
น่าอยู่น่าฟังเพลงเป็นที่สุดครับ เหมือนกับพักผ่อนตลอดเวลา :flatter:
ลำโพงเป็นแผ่นๆ....อุปกรณ์ปรับอคูสติคก็เป็นแผ่นๆ
สมัครสมานสามัคคีเป็น"ปึกแผ่น"จริงๆ :supergrin:
สวยจริง :thumbup:
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/IMG_5683_zps205e90ee.jpg)
ผมชอบระเบียงหลังห้องครับ :whistling:
Quote from: Hexaphonic on 15 July 2013, 03:50:23 pm
น่าอยู่น่าฟังเพลงเป็นที่สุดครับ เหมือนกับพักผ่อนตลอดเวลา :flatter:
ลำโพงเป็นแผ่นๆ....อุปกรณ์ปรับอคูสติคก็เป็นแผ่นๆ
สมัครสมานสามัคคีเป็น"ปึกแผ่น"จริงๆ :supergrin:
Quote from: trens on 15 July 2013, 02:12:07 pm
ดูโล่งโปร่งสบายตาดี ... นั่งฟังเพลงแล้วคงจะผ่อนคลายมากครับ
Quote from: poj on 15 July 2013, 01:39:31 pm
สวยดีครับ
Quote from: Witti on 15 July 2013, 05:28:37 pm
สวยจริง :thumbup:
ขอบคุณครับ ก็ฝีมือเฮียหวังและทีมงานเค้าล่ะครับ :clap:
คงจะต้องทำการหุ้มเสา ที่ยื่นออกมาไม่เท่ากัน จากผนังด้านซ้ายและขวา และเก็บรายละเอียดกันอีกเล็กน้อยครับ
เท่าทีลองตบมือ และทำเสียงโหวกเหวกในห้องนี้ดู ไม่ก้องเท่าไหร่ครับ หวังว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะไม่รู้สึกว่าฝรั่งหลอกกินเงินเรา
มุมนี้ กะจะให้เป็นห้องพระแบบเปิดครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0794_zps82ecd3da.jpg)
ส่วนรูปนี้ จากห้องรับแขก มองออกไปด้านหน้าบ้านครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/IMG_0795_zpse4c57f51.jpg)
:thumbup: อินทีเรียไม่ต้องทำอะไรเลย ไว้ไปช่วยจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็แล้วกัน :)
Quote from: sw on 16 July 2013, 06:42:39 am
:thumbup: อินทีเรียไม่ต้องทำอะไรเลย ไว้ไปช่วยจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็แล้วกัน :)
อันนี้ตรงตามแนวคิดของพี่อี๊ด ประธานดีไซน์ 103 เลย
อาคารที่ดี ต้องพูดออกมาจากข้างใน
"Inside Out"
ยินดีกับน้องเกล้าด้วยครับ
ขอบคุณครับพี่พี
จริง ๆ แล้วกู้เขามาจนเต็มแม็ก ไม่เหลือวงเงินไว้ทำ interior เลย 5555 :P
เข้าหน้าหนาว แล้วเชิญมาเที่ยวกันนะครับ
สไตล์บ้านคุณเกล้า ถ้าทำบิลท์อินโปะเข้าไปคงจะดูไม่ดีแน่ครับ เฟอร์นิเจอร์เก่าสวยกว่า มีอยู่แล้วด้วย เห็นว่าจะเปิดแกลอรี่เฟอร์นิเจอร์เก่าด้วย :)
Quote from: sw on 16 July 2013, 08:04:30 pm
สไตล์บ้านคุณเกล้า ถ้าทำบิลท์อินโปะเข้าไปคงจะดูไม่ดีแน่ครับ เฟอร์นิเจอร์เก่าสวยกว่า มีอยู่แล้วด้วย เห็นว่าจะเปิดแกลอรี่เฟอร์นิเจอร์เก่าด้วย :)
บิลท์อินคือผลาญเงิน
จัดหาและจัดวาง มีแต่ดอกเบี้ยเพิ่มพูน เงินต้นอยู่ครบ
ที่สำคัญ เป็นผลผลิตของรสนิยมส่วนตัว.....กำไรสามต่อเห็นๆ
สวยมากๆ โดยเฉพาะหน้าต่างทุกชนิดที่มีในบ้าน นอกบ้าน :)
อารมณ์ไทยผสมยุโรป งามนักๆ
ชอบๆๆๆครับ :headphone:
ตอนนี้กำลังปวดหัว กับการวางตำแห่งอุปกรณ์เครื่องเสียง ในห้องใหม่ครับ
เดิมจะวางทุกอย่างไว้หน้าห้อง ยกเว้นเทิร์นฯ กับปรีโฟโนที่จะวางด้านข้างที่นั่งฟัง แถว ๆ กลาง-หลังห้อง
แล้วลากสาย xlr ยาวประมาณ 8 เมตรจากโฟโน ไปปรี linestage ที่อยุ่ด้านหน้าห้อง
แต่มีคนทักว่า ในแง่ technical ให้ใช้สายสั้นระหว่าง phono กับ linestage แล้วใช้สายยาวระหว่าปรีไปขับแอมป์ จะดีกว่า :help:
อ้อ..แล้วพวกภาค power supply ที่มี torodial transformer เช่นตัวคุมรอบ TT, เครื่องกรองไฟ, ฯลฯ
เห็นเขาว่าควรวางให้ห่างจาก cartridge และ phonostage อย่างน้อย 12 นิ้วใช่มั้ยครับ ?
แต่หากวางใกล้กว่านั้น เสียบปลั๊กอุปกรณ์ที่มี transformer ใหญ่ ๆ ไว้ แต่ไม่เปิดเครื่องนี่ ก็ยังจะมีผลกับ cartridge และ phono รึเปล่าครับ ?
ถามนาย Chris Somovigo คนออกแบบ-ทำสาย บอกว่า ถ้าปรีโฟโนวงจรเป็น true differential / balanced จะต่อสายไหนยาว สายไหนสั้นก็ได้ ระหว่างโฟโน-ปรีแอมป์-พาวเวอร์แอมป์
แต่ Jim White คนออกแบบปรีโฟโนและปรีแอมป์ Aesthetix ที่ผมจะใช้ แนะนำว่าถ้าเลือกได้ ให้ใช้สายระหว่างปรีโฟโน ไปปรีแอมป์สั้น ๆ แล้วไปยาวระหว่าง ปรีแอมป์ถึงพาวเวอร์ น่าจะดีกว่า ซึ่งผมคงจะ setup ตามนี้ครับ
คำนวณสายสัญญาณเสียงที่ต้องใช้สำหรับ 5 แชนแนล (ยังไม่รวมซับฯ) ลากจากปรีแอมป์ และ processor ไปพาวเวอร์แอมป์ ก็ปาเข้าไปเกือบ 45 เมตร
เลยมอง ๆ สายไมค์ของ Van Damme รุ่นนี้อยู่ครับ Tour Grade Classic XKE StarQuad เห็น Bryston เขาก็ใช้ (อีกรุ่นนึงที่ไม่ใช่ star quad) ไปประกอบสายสัญญาณขาย หากซื้อมาให้ช่างต่อหัวเอง ราคาไม่รวมค่าส่งกับภาษี แค่เมตรละ 100 บาท มีหลายสีให้เลือกด้วย :thrilled:
http://www.vdctrading.com/shop/van-damme-cable/audio/analogue-single-cable/van-damme-tour-grade-classic-xke-starquad-mic/
ดูค่า Capacitance น่าจะพอไหว ไม่สูงมาก:
Core to Core = pf/m 50 (nominal) หากเป็น pf/ft น่าจะแค่ 15.24
Core to Screen = pf/m 95 (nominal) หรือ 28.96 pf/ft
ถึงแม้ไม่ใช่ทองแดงระดับ OCC คือแค่ LC-OFC ก็น่าจะ OK แล้วมังครับ
Quote from: klao on 18 July 2013, 11:22:03 pm
แต่มีคนทักว่า ในแง่ technical ให้ใช้สายสั้นระหว่าง phono กับ linestage แล้วใช้สายยาวระหว่าปรีไปขับแอมป์ จะดีกว่า :help:
เฮียเม้งก็ใช้สูตรนี้
สายเลยแพงกว่าลำโพง.....ฮา
Quote from: klao on 25 July 2013, 08:07:06 pm
ถามนาย Chris Somovigo คนออกแบบ-ทำสาย บอกว่า ถ้าปรีโฟโนวงจรเป็น true differential / balanced จะต่อสายไหนยาว สายไหนสั้นก็ได้ ระหว่างโฟโน-ปรีแอมป์-พาวเวอร์แอมป์
แต่ Jim White คนออกแบบปรีโฟโนและปรีแอมป์ Aesthetix ที่ผมจะใช้ แนะนำว่าถ้าเลือกได้ ให้ใช้สายระหว่างปรีโฟโน ไปปรีแอมป์สั้น ๆ แล้วไปยาวระหว่าง ปรีแอมป์ถึงพาวเวอร์ น่าจะดีกว่า ซึ่งผมคงจะ setup ตามนี้ครับ
ผมก็ใช้ตามนี้ครับ
ยังไม่ได้ข่าวจากทาง Bernie Grundman Mastering เลยว่าทำงานให้ผมรึยัง
แต่ปกคร่าว ๆ น่าจะประมาณนี้นะครับ ปกด้านหน้าสีแดง อาจจะใส่ข้อความเช่น "100th / Centenary Anniversary Edition" ไว้ด้านล่าง
ส่วนปกด้านหลังสีเขียว คงจะต้องปรับเยอะหน่อย เพื่อใส่ข้อมูลที่เป็น texts อันเกี่ยวกับ album นี้เพิ่มเติมครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/JacketCovers-July16_zps07aaafab.jpg)
:thumbup: ปกสวยครับ
สวยมากครับ
Quote from: klao on 25 July 2013, 11:48:14 pm
ส่วนปกด้านหลังสีเขียว คงจะต้องปรับเยอะหน่อย เพื่อใส่ข้อมูลที่เป็น texts อันเกี่ยวกับ album นี้เพิ่มเติมครับ
ปกหลังควรจะใส่โลโกงานหนึ่งศตวรรษ เพื่อไม่ต้องไปรบกวนด้านหน้า
ส่วนตัวหนังสือ พิมพ์เป็นใบปลิวต่างหากเถอะครับ
กล่องที่ทรงคุณค่าอย่างนี้ ไม่ควรมีเหตุให้มากหน้าหลายมือจับอ่านทุกครั้งที่เขาแวะมาฟัง
มันควรจะคงสภาพอยู่ในตู้เพื่อรักษาให้ไม่มีความเสื่อมเพิ่มขึ้น
(http://image.ohozaa.com/i/a5f/BLZQRU.jpg)
เพิ่งเห็นดีไซน์นี้
เจอตัวจะเคาะให้นิ้วหัก
ทำไมต้องซ้อนตัวเลขอย่างนี้
โดยเฉพาะสระ อี ที่เบียดขึ้นไป
ไม่มีเหตุผลทางด้านการออกแบบเอาเสียเลย
ที่สำคัญ มันไม่ใช่ไวยกรณ์ของอาจารย์อวบกับคณะ
มันมาจากแบบฝึกหัดออกแบบของเด็กมัธยมที่กำลังกวดวิชาจะเข้านิเทศน์ฯ
เห็นด้วยกับพี่พี เรื่องโลโก้ไทป์ ดีไซน์ครับ
Quote from: phokha on 26 July 2013, 08:57:58 am
เห็นด้วยกับพี่พี เรื่องโลโก้ไทป์ ดีไซน์ครับ
ขอซ้ำอีกดอก
ผมเกลียดมาก ที่ทำรูปอักษรไทยเลียนแบบภาษาอังกฤษ
นี่เรากำลังทำสินค้าขายพวกลืมกำพืดตัวเองหรือ
เอาไปใช้กับโลโกกาแฟ เค๊ก หรือเสื้อแฟชั่นจะไม่ว่าสักคำ
ตัวพ พานนี่ น่าเกลียดขนาดต้องไปเอาตัว W มาใช้
เราไม่ใช่ญวนที่ไม่มีรูปพยัญชนะใช้ ต้องไปยืมตัวอังกฤษนะ
เรามีอักขระที่สืบทอดกันมาตั้งเจ็ดร้อยกว่าปี
แต่จะมาสูญหายเพราะนักออกแบบสิ้นคิดหรืออย่างไร
เห็นแล้วของขึ้น
ขอบพระคุณสำหรับคำติชมครับผม
คำว่า 100 ปี ผมก็คิดว่าอ่านยากไปหน่อย
ส่วน พ ในคำว่าพวงร้อย น่าจะมาจากแบบเดิม แต่ขยายใหญ่ขึ้นมานิดครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/7829_zps38519aef.jpg)
ตามทัศนะพี่พี ก็คงสิ้นคิดกันมาตั้งแต่รุ่น อ.อวบ อ.กมล กับ อานันทะ นู้นแล้วล่ะฮะ... อิอิอิ :P
เนื่องจากแผ่นจะอยู่ในห่อพลาสติก ปกด้านหลังผมคงต้องใส่ข้อมูล เช่นรายชื่อเพลง ชื่อนักดนตรี ฯลฯ ไว้ขายของหน่อยอ่ะครับ
(http://image.ohozaa.com/i/a5f/BLZQRU.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/7829_zps38519aef.jpg)
คนออกแบบนี่ คิดมากแบบคิดน้อย
แบบเดิม ตัวเท่ากันหมด พ พานก็จะกลายเป็นลูกเล่น
พอเปลี่ยนสเกล สาระที่มีก็เปลี่ยนตาม
W ก็มาแทนที่ พ พาน ในพลัน
เรื่องนี้เป็นวิกฤติทางรสนิยมครับ
ครับพี่พี ดู ๆ ที่ขยายออกมาใหญ่กว่าเดิม มันจะเห็น พ เป็น W ชัดไปจริง ๆ
แล้วผมจะเม้นท์กลับไป ให้ทางผู้ออกแบบลองปรับปรุงครับ
สำหรับความคืบหน้าทาง BGM โดนเลื่อน schedule งานไปอีกหน่อย
แต่คาดว่าน่าจะ cut master lacquers ให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้าขอรับ
แบบเดิมยังมีทีเด็ดที่ช่องไฟ ทำให้ตัวอักษรสัมพันธ์กันดี
ช่องไฟใต้อักษร ว ง ร สวยงามมาก
แบบใหม่ ไม่มีสิ่งนี้เลย ต่างคนต่างอยู่ Positive/Negative Space ไม่เวิร์ค
ถ้าเป็นฝีมืออาจารย์โชติวัฒน์ ก็ต้องบอกว่าแกมือตกแฮะ
แหะ ๆ อ.โชติฯ นั่นละครับ ที่ผมรบกวนขอให้ช่วยทำให้ พี่พีช่วยไปเคาะนิ้วแกให้หน่อยดิ ผมไม่กล้า ^_^
จริง ๆ ผมเคยบอกให้ใช้ของเดิมแล้วล่ะ แต่จะยืนยัน-กำชับไปอีกทีว่าให้คงแบบเก่าไว้ 100% คงจะเหมาะกว่า เพราะเป็นเสมือนแบรนด์โลโก้ พวงร้อย ที่ทุกคนรู้จักดีแล้ว
ส่วนคำว่า 100 ปี ให้ลองออกแบบ เลียนให้คล้อยตามสไตล์คำว่า พวงร้อย เดิมน่าจะดี ?
เห็นด้วยของเดิมสวยกว่าครับ :filrt:
Quote from: klao on 26 July 2013, 10:04:01 pm
อ.โชติฯ นั่นละครับ ที่ผมรบกวนขอให้ช่วยทำให้
ผมไม่ได้เจอโชติวัฒน์มาเป็นชาติแล้ว
ฝากคำของผมให้แกด้วยละกัน :bowdown:
โดยเฉพาะ ตัว 100 ปี ควรแก้ไขครับ
ขอความเห็นเป็นแนวทาง เกี่ยวกับภาษาอังกฤษหน่อยครับ ว่าควรมีมากน้อยเพียงไรบนปกแผ่นเสียง
ใจผมคงจะยึดข้อมูลข้อความต่าง ๆ ด้วยภาษาไทยเป็นหลัก แล้วแปลบางส่วนเท่าที่จำเป็น
แต่หาก spacing จำกัด จะมีข้อความบางส่วนเป็นอักฤษล้วน โดยไม่มีไทยด้วยนี่ จะเหมาะหรือไม่
ขอบพระคุณครับ
อังกฤษล้วนครับ
ภาษาไทยหาอ่านได้ง่ายอยู่แล้วเพราะแผ่นนี้เป็นตำนาน
เอางั้นเลยจริง ๆ เหรอครับพี่พี
อังกิดล้วนนี่ อาจจะยากขึ้นไปอีกขั้น :blink:
จะ Go Inter ขายทั่วโลก !!
Quote from: klao on 30 July 2013, 12:23:48 am
เอางั้นเลยจริง ๆ เหรอครับพี่พี
อังกิดล้วนนี่ อาจจะยากขึ้นไปอีกขั้น :blink:
จะ Go Inter ขายทั่วโลก !!
การ Go Inter เป็นศักดิ์ศรีไม่ใช่แค่ผู้เกี่ยวข้องนะครับ
เป็นของสังคม
ขอแนะนำว่า ควรเชิญ
อาจารย์เจตนา นาควัชระเป็นผู้เขียน Liner
อ้างชื่อผมได้ครับ ถ้าคิดว่าอ้างแล้วอาจารย์ท่านจะสนใจ
ฮา :clown:
มีบทความที่คุณหมอพูนพิศ เขียนไว้ให้ตั้งกะมีแผนจะออก cd กับเบเกอรี่มิวสิค ในปี 2538 แต่ก็มีเหตุไม่ได้ออก
และคุณหมอท่านก็อนุญาตให้เอามาใช้ใหม่ได้ ตามนี้ครับ
http://thaiaudioclub.net/board/index.php?topic=8025.80
แต่ด้วยจำนวนข้อบทความมีถึง 3 หน้ากระดาษ A4 ผมคงจะนำไปลงไว้ใน booklet สำหรับ special box set จำนวน 100 ชุดแทนครับ
ผมกำลังคิดอยู่ว่า จะเอา liner note เก่า ซึ่งใช้พื่นที่แค่ 2 columns จากปกหลังของแผ่นพวงร้อย (๑) มาพิมพ์ซ้ำ ไว้ในปกด้านใน จะเหมาะหรือเปล่า
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/JacketInside-July16_zps82856088.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/DSC02746_zpsfaa63627.jpg)
Quote from: Krairerk on 15 October 2012, 02:59:33 am
เรียนถามพี่ klao ว่าทาง BGM เขาทำ digital master จากเทปต้นฉบับ มาเป็นไฟล์ resolution เท่าไหร่ครับ
ค่ารันงานที่ลุง Bernie เขา EQed เสร็จแล้ว มาลงเป็น digital masters ด้วย (นอกเหนือจากบนเทป ¼" 15 ips)
ทั้ง PMCD (redbook), 96/24 LPCM, กับ DSD (SACD) ราคาเท่ากันครับ คือ $370 ต่ออัลบั้ม กรณีเราอัลบั้ม 2 แผ่นก็ $740
เลยสั่งไฟล์มาสเตอร์แบบ CD กับ DSD มาเก็บไว้ทำงานต่อด้วยครับ
tape reel สุดยอด ชอบมาก
reel สั่งไว้แล้ว 3 copies เลยครับคุณหมอ :headphone:
ข่าวดีครับ Bernie Grundman บอกว่าเพลงที่อยู่ใน master tape น่าจะเอาไปใช้ได้ซะเป็นส่วนใหญ่-เกือบหมด ไม่ต้องริปจากแผ่น (แต่ 5 เพลงที่ไม่อยู่ใน tape ยังไงก็ต้องริปอยู่ดี)
เมื่อวานเขาส่ง track ที่เสียงแย่ที่สุด "Worst Tune" ในเชิง noise ที่เกิดจาก oxide deterioration
แต่ว่าได้ทำการแก้ไขเทป และน้า Bernie แก EQed ให้แล้ว ถ้าเสียงถูกหูเรา สัปดาห์หน้าคงจะ cut master lacquers ได้
ลองฟังกันดูนะครับ พรุ่งนี้ผมจะลบ links นี้ จริง ๆ ผมฟังแล้ว OK นะ และตอบกลับให้เขาไปแล้ว ว่าลุยได้เลยครับน้า :headphone:
อันนี้ transfer จาก master tape เฉย ๆ โดยเครื่องที่ BGM ก่อนแก้ไขและ EQ
https://dl.dropboxusercontent.com/u/3620071/06%20Piyabhand%20Sanitwongse%20%26%20Friends%20-%20%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A1%20-%20Ta%20San%20Klom%20(Reel%20%231%20Trk%20%236).flac
ส่วนอันนี้ผ่านกระบวนการแล้วครับ
https://dl.dropboxusercontent.com/u/3620071/Noise%20Test%20(worst%20tune)%2001Aug13.mon.wav
เท่าที่ฟัง เพลงตาแสนกลม ก่อน EQ
มันถูกแยกแยะรายละเอียดออกจากกันมากเกินไป
เหมือนเล่นคนละแทรคแล้วเอามามิกส์อีกที
สรุปว่า เป็นไฮเอนด์มากไป
ขาดเสน่ห์ของการบันทึกเสียงแบบโฮมยูสครับ
ปล
อีกแทรค เปิดไม่ได้อ่ะ
ที่ผ่านกระบวนการแล้วเสียงโอเค ผมชอบมากกว่าแบบแรกครับ
แต่Back ground noise ยังอยู่ และได้ยินชัดเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเพลง
อันที่ผ่านกระบวนการแล้ว เข้าเว็บไม่ได้ครับ
เอ ผมโหลดมาได้ทั้งสองอันเลยน่ะครับ
ทำไมทั้งพี่พีกับคุณSWถึงเข้าไปโหลดไม่ได้ แปลกจัง
เดี๋ยวผมลองอัพโหลดใหม่ดูครับ (อันที่ EQ แล้วเป็น WAV file)
แบบไหนดีกว่ากัน สำหรับแต่ละหู ก็ไม่รู้หล่ะ อย่างน้อยก็ฟังกันออกว่าแตกต่าง
เห็น quote จาก BGM มาเบื้องต้นเกือบ $20,000 แล้วครับ
หากออกมาเหมือนกับแผ่นเก่าจนเกินไป เกรงว่าสปอนเซ่อร์จะงอน :headphone:
นี่เป็น note จากน้า Bernie ครับ
To: Klao Sanasen
Re: Thai LP
Note from Bernie Grundman:
On the worst tune you can hear the oxide deterioration by the slight instability of the signal. You can hear the actual sound of it whenever there is a pause in the music.
We might be able to cut in the corrected pieces in those places to fix them. We did try at the end of the piece and it worked well. So, if the other parts are acceptable, we will be able to use the tape.
On this tune, I noticed that the LP disk has much less ambience or reverb than the tape. I still think with a little adjusting the short little corrected pieces will not be noticed and 98% of the tune will be from the original tape. Let us know because we might be able to do all the masters next week.
-Bernie Grundman
เปลี่ยนชื่อไฟล์แล้วอัพโหลดใหม่ ลองดูครับ
https://dl.dropboxusercontent.com/u/3620071/Noise%20Test%20(worst%20tune)%2001Aug13.mon2.wav
Quote from: klao on 05 August 2013, 12:19:05 am
หากออกมาเหมือนกับแผ่นเก่าจนเกินไป เกรงว่าสปอนเซ่อร์จะงอน :headphone:
ดีเหมือนกันครับ เป็นแผนการตลาดที่แยบยล
คนที่เก็บแผ่นดั้งเดิมไว้ ยิ้มแก้มระเบิดเลย
เพราะแผ่นทำใหม่ เสียงไม่เหมือนแผ่นเดิม
ต่อไปราคาวิ่งไปแผ่นละ $300+ แน่นวน
อิๆๆ ... อย่างน้อยผมก็มีวาสนาได้จับแผ่นเก่าที่บ้านน้องเกล้าตั้งหลายแผ่น
Quote from: trens on 05 August 2013, 02:41:13 am
อิๆๆ ... อย่างน้อยผมก็มีวาสนาได้จับแผ่นเก่าที่บ้านน้องเกล้าตั้งหลายแผ่น
ผมก็ด้วย อิอิ
ผมก็พูดไปงั้นล่ะครับ ที่บ้านไม่มีชุด turntable
เสียงแผ่นพวงร้อยเดิมเป็นยังไง ผมก็มิทราบหรอกครับ อิ อิ :rolleyes:
Quote from: klao on 05 August 2013, 05:56:41 am
ผมก็พูดไปงั้นล่ะครับ ที่บ้านไม่มีชุด turntable
เสียงแผ่นพวงร้อยเดิมเป็นยังไง ผมก็มิทราบหรอกครับ อิ อิ :rolleyes:
ดีแล้วครับ จะได้ฟังผลงานฝรั่งรีมาสเตอร์ได้สบายใจ
แต่เตรียมคำอธิบายรองรับข้อวิจารณ์ของนักเล่นตายยากที่เว็บไทยกราโมโฟนได้เลย
ขนาดแผ่นคาราบาว ยังเละเป็นวุ้นมาแล้ว
ถ้าผมจะออกแผ่นรีอิชชู่นะ ผมจะทำหน้านึงเป็นแบบรีมาสเตอร์ เสียงใสปิ๊ง
อีกหน้านึง จะเป็นแบบลอกของเก่ามาโดยไม่เปลี่ยนอะไรเลย ทำแค่ไม่ให้มีเสียงน๊อยส์เท่านั้น
แผ่นรีอิชชู่ออกมาเพื่อให้คนที่ไม่มีโอกาสได้ครอบครองของดั้งเดิม แต่ยังไงก็ควรจะได้รู้ว่าของดั้งเดิมที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ส่วนได้แผ่นใหม่มาแล้ว ใครชอบฟังแบบไหนก็แล้วแต่รสนิยมครับ
ขอบคุณครับพี่ ๆ ผมเตรียมใจไว้แล้วครับ สำหรับข้อวิจารณ์ทั้งหลายที่จะต้องมีตามมา
ถึงแม้ผมจะมีปัญญา (แต่จริง ๆ แล้วมันไม่มีน่ะซีครับ) บินไปกินนอนอยู่ที่นู้น แล้วเข้าไปนั่งใน sessions ที่ฝรั่งทำงาน re-mastering ผมก็ไม่แน่ใจว่า เสียงที่ได้จากการ playback จากแผ่น original จะต้องเป็นเสียงที่เราใช้เป็น reference ในการปรับแต่งให้ออกมาอย่างใกล้เคียงที่สุด หรือไม่ เพราะว่า
1 สภาพแผ่นปัจจุบัน และชุดเครื่องเสียง-เครื่องเเล่นแผ่นเสียงของแต่ละท่าน ก็สุดจะหลากหลาย จะเอาเสียงของชุดไหนดี (เหมือนตอนแรกที่ผมนึกว่าเทปเจ๊งไปหมดแล้ว จึงปวดหัวเรื่องการ rip จากแผ่นเสียง ว่าจะไปยืมชุดใคร หัวเข็มแบบไหน adc อะไร ฯลฯ) และ
2 เทปมาสเตอร์เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ถึงจะใหม่สดกว่า แต่อุปกรณ์ วัสดุ ขั้นตอน และฝีมือ ของคนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหลายที่ EMI สิงค์โปร์สมัยนั้น ก็เป็น multi-factors ที่ทำให้เสียงออกมาเป็นอย่างที่เป็น บนแผ่นดั้งเดิม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันควรจะดีหรือแตกต่างกว่านั้น หรือไม่อย่างไร ในแง่การดึงคุณภาพของการอัดเสียงออกจากเทปต้นฉบับ ออกมาให้ได้เต็มที่
3 หากแม้เราจะ presume ว่าเสียงจากแผ่น original คืออะไรที่ perfect มันก็คงไม่ง่าย ที่จะ replicate เสียงด้วยขั้นต้อนการทำ re-mastering และการผลิดแผ่นเสียง ด้วยบุคคลากร อุปกรณ์ และวัสดุที่ใช้ในปัจจุบัน
ก็ไม่ทราบซีครับ ผมเองก็ได้พยายามคัดเลือกสำนักกับมือที่เขาว่าเจ๋งสุดในปัจจุบันแห่งโลกโอ้ไฟล์ ทำงานให้แล้ว ก็คงต้องให้ credit และไว้ใจเขาทำไป
ด้านผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผมได้คุยแล้วก็คิดว่าเขาแคร์เรื่องคุณภาพพอสมควร หากไม่ได้ทำจากเทปต้นฉบับ เขาก็จะไม่ทำ project นี้เลย คือไม่เอาแผ่นเสียงหรือ cd เก่าไป remaster เพื่อปั้มแผ่นเสียงใหม่ขายแบบของ คาราบาว และอีกหลาย ๆ เด็ดขาด และก็คงไม่ทำแผ่นสีลูกกวาด หรือ picture disc เป็น gimmick ออกมาขายให้คนสะสมด้วย
เรื่องราคาเปิดจองแบบ boxset แพงกว่าราคาแผ่นเดี่ยว ๆ ปัจจุบันที่ลดกันแหลกแบบแผ่นคาราบาว ผมก็ได้กำชับว่าให้ดูแลดี ๆ เพราะถึงขั้นนั้นน่ะ ผมไม่เกี่ยวแล้วครับพี่... 555 :D
Quote from: klao on 05 August 2013, 09:45:23 pm
ทำให้เสียงออกมาเป็นอย่างที่เป็น บนแผ่นดั้งเดิม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันควรจะดีหรือแตกต่างกว่านั้น หรือไม่อย่างไร ในแง่การดึงคุณภาพของการอัดเสียงออกจากเทปต้นฉบับ ออกมาให้ได้เต็มที่
ที่ยกมาข้างบนนี่แหละ หัวใจของปัญหา
ตอนนี้คุณเกล้ากำลังเอาเทียนไขไปวางบนกะทะอังไฟ....มีสองทางเลือกคือปล่อยให้หลอมละลายหรือรีบดึงออก
แผ่นพวงร้อย เป็นตำนานหน้าหนึ่งของเพลงไทย คุณเกล้าโชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ ที่ต้องมาจัดการชุบชีวิต
คนจำนวนมากหวังว่า พวงร้อยชีวิตใหม่ จะเหมือนเดิม แต่เราก็รู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้
อีกประการหนึ่ง คุณเกล้าเลือกแนวทางที่จะเดินไปแล้ว ก็อย่ากังวลเลยครับ เดินให้สุดทาง
คิดเสียว่า นี่คือพวงร้อยเวอร์ชั่นใหม่ ในสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วก็ดำเนินการตามเป้านี้ต่อไป
หมายความว่า ตอนเปิดตัว ก็ต้องหาเทิร์นระดับเทพ ลำโพงก็ต้องวิลสันหรือมาจิโก แอมป์ก็โบลเดอร์หรือคาราน.....
เพื่อจะนำเสนอเสียงของอดีตในสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจุบัน
ส่วนเรื่องความเป็นต้นฉบับ
ก็ปล่อยให้การสะสมใช้กลไกราคาทำงานของมัน แยกสองส่วนนี้ออกจากกันเสียแต่ต้น อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ว่าแต่จะเปิดตัวที่ใหนดีครับ
BOCA ของเสี่ยบุญชัยก็ไม่เลวนะครับ
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ไม่เคยฟังของเดิมว่าเป็นยังไง แต่ก็ฟังเพราะมากแล้วล่ะครับ
อันที่ผ่านกระบวนการแล้วฟังดีกว่าอันแรกครับ
ขอบพระคุณที่เป็นห่วงครับพี่พี จริง ๆ สิ่งที่ผมกังวลใจ ก็ได้ลุล่วงไปแล้วด้วยดีครับคือ
1. ได้ "SangSom" ตกลงมาเป็นสปอนเซ่อร์ใจดี สนับสนุนค่าทำ remaster (ลองขอเป็นแบรนด์น้ำเปล่า-ตราช้าง หรือ coporate คือ ThaiBev แล้วแต่ต้นเรื่องที่รู้จัก เขาไม่ได้ดุแลส่วนนั้น) 2. มีนายทุนออกค่าผลิตและจัดจำหน่ายให้ และ 3. เกือบทุกแทรคที่ยังอยู่บนเทปต้นฉบับ BGM เขายังนำมาใช้งานได้ ไม่ต้องริปจากแผ่นเก่าเก็บหลายเพลง (เกิน 1 หน้า)
อย่างที่พี่บอกล่ะครับ การทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่ "พวงร้อย ๑๐๐ ปี" ก็จะช่วยให้รักษาคุณค่าและมูลค่าของ original issues ไว้ได้ด้วยส่วนหนึ่ง อีกทั้งไม่แน่ ผมอาจจะหาวิธีจดเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร เพื่อยื่ดอายุความคุ้มครองในเรื่องสิทธิ์ต่อไปได้ด้วย ;)
ทาง Brilliance Music (Audio Excellence - เจ้าโปรดท่านประธาน :P ) น่าจะเป็นกังวลมากกว่าผมเยอะครับ สำหรับขั้นตอนต่อ ๆ ไปในการผลิตและทำตลาด
ผมก็คงช่วยเขาดูเรื่องปกและสิ่งพิมพ์ กับประสานงานเรื่องงานแถลงข่าว / เปิดตัว ก็เป็นอันหมดห่วงครับ
อาจมีสองงานครับ ครั้งแรกย่อม ๆ เป็น soft launch ตอนได้ test pressing มาแล้ว และปลายปี หาก production จริงเสร็จทัน ค่อยให้ SangSom เขาจัดงานทางการใหญ่หน่อย เรื่องสถานที่ ขอรับ idea พี่ไว้พิจารณาหารือกับผู้เกี่ยวข้องครับ
ป.ล. วันที่ 20 กว่า ๆ เดือน ส.ค. นี้ ทาง KBANK Wisdom (private banking) เขาจะเชิญลูกค้า high net worth เขาไปฟังคอนเสิร์ทเพลง ม.ล. พวงร้อย ซึ่งจะจัดขึ้นที่วังพญาไทครับ
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:04:39 pm
ผมอาจจะหาวิธีจดเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร เพื่อยื่ดอายุความคุ้มครองในเรื่องสิทธิ์ต่อไปได้ด้วย ;)
จดสิทธิบัตรคงไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนวัตกรรม
ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ เราต้องทำสัญญากับทางฝรั่ง เป็นการจ้างเหมา
วิธีนี้ กฏหมายไทยถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้ว่าจ้าง
แต่คุณเกล้าจะได้ลิขสิทธิ์เฉพาะการทำรีมาสเตอร์
ลิขสิทธิ์ส่วนที่เป็นแผ่นเสียง จะหมดไปใน 50 ปี ตามกฏหมายอีกเช่นกัน
Quote from: pee on 05 August 2013, 10:14:01 pm
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ถ้าจะจัดที่วังพญาไท แนะนำให้จัดที่... พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ นะครับ
คุณเกล้า น่าจะพอรู้จักกับผู้ใหญ่ทางสายนี้อยู่แล้ว
ครับ ผมก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นแผ่น re-issue เมืองนอก หลาย ๆ อันมันมีเครื่องหมาย P ในวงกลมด้วยอ่ะครับ เลยกำลังถาม ๆ เพื่อนที่เป็นนักกฏหมาย IP อยู่ แต่เขายังไม่ว่างช่วยดูให้
"Recorded May 1962. ℗ 1963 The copyright in this sound recording is owned by EMI Records Limited. Licensed to Resonance Recordings Limited courtesy of EMI Records Limited. © 2011 Resonance Recording Limited."
"©℗ 1961 Impulse! Records. Manufactured and distributed by Original Recording Group, LLC, under license from Universal Music Enterprises"
"℗© 2010 Universal Music Enterprises, A Division of UMG Recordings Inc. Distributed by Original Recording Group, LLC."
"© 1956 Verve Records. ℗ 2010 Universal Music Enterprises, A Division of UMG Recordings Inc. Distributed by Original Recording Group, LLC."
"Distributed by Acoustic Sounds, Inc. Originally released in 1957 by Capitol Records, LLC. ℗ 1957 Capital Records, LLC. Original album art © 1957 Capital Records, LLC. ℗ & © 2010 EMI Music Special Markets. Additional design © Analogue Productions. Manufactured for Analogue Productions by EMI Music Special Markets."
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:36:40 pm
Quote from: pee on 05 August 2013, 10:14:01 pm
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ถ้าจะจัดที่วังพญาไท แนะนำให้จัดที่... พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ นะครับ
คุณเกล้า น่าจะพอรู้จักกับผู้ใหญ่ทางสายนี้อยู่แล้ว
ขอบคุณครับคุณ prisna ผมเคยไปฟังพวกนักเรียนทุนพระพี่นาง ฯ เล่น concert ประจำปี ในพระที่นั่งนั้น 2-3 ครั้งครับ สวยงามแต้ ๆ
เด็ก ๆ อย่างผมไม่รู้จักใครในนั้นหรอกครับ เท่าที่ทราบเขามีชมรมคนรักวัง คงติดต่อเข้าไปสอบถามดูได้
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:42:45 pm
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:36:40 pm
Quote from: pee on 05 August 2013, 10:14:01 pm
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ถ้าจะจัดที่วังพญาไท แนะนำให้จัดที่... พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ นะครับ
คุณเกล้า น่าจะพอรู้จักกับผู้ใหญ่ทางสายนี้อยู่แล้ว
ขอบคุณครับคุณ prisna ที่ผมเคยไปฟังพวกนักเรียนทุนพระพี่นาง ฯ เล่น concert ประจำปี ในพระที่นั่งนั้น 2-3 ครั้งครับ สวยงามแต้ ๆ
เด็ก ๆ อย่างผมไม่ค่อยรู้จักใครในนั้นหรอกครับ เท่าที่ทราบเขามีชมรมคนรักวัง คงติดต่อเข้าไปสอบถามดูได้
ถ้าจะจัดที่นี่จริง ผมจะช่วยประสานทาง อาจารย์หมอดำรงค์ ให้ครับ คุณหมอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ชมรมคนรักวัง ด้วยครับ
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:50:35 pm
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:42:45 pm
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:36:40 pm
Quote from: pee on 05 August 2013, 10:14:01 pm
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ถ้าจะจัดที่วังพญาไท แนะนำให้จัดที่... พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ นะครับ
คุณเกล้า น่าจะพอรู้จักกับผู้ใหญ่ทางสายนี้อยู่แล้ว
ขอบคุณครับคุณ prisna ที่ผมเคยไปฟังพวกนักเรียนทุนพระพี่นาง ฯ เล่น concert ประจำปี ในพระที่นั่งนั้น 2-3 ครั้งครับ สวยงามแต้ ๆ
เด็ก ๆ อย่างผมไม่ค่อยรู้จักใครในนั้นหรอกครับ เท่าที่ทราบเขามีชมรมคนรักวัง คงติดต่อเข้าไปสอบถามดูได้
ถ้าจะจัดที่นี่จริง ผมจะช่วยประสานทาง อาจารย์หมอดำรงค์ ให้ครับ คุณหมอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ชมรมคนรักวัง ด้วยครับ
ขอบพระคุณเป็นการล่วงหน้าครับ
คุณหมอท่าน อาจจะพอคุ้น ๆ หน้าผมบ้างนะ....หวังว่า
ผมเคยยืมแผ่นเสียง original ของรุ่นพี่ มาฟัง
บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบ sound ของแผ่นเสียง original เลย
พอฟังไฟล์ที่ได้จากรีลต้นฉบับ ผมว่าเสียงมันไม่เหมือนกับแผ่นเสียง original นะครับ มันดีกว่าอีก
นั่นคือเสียงจากรีลมาสเตอร์ ดีกว่าแผ่นเสียง original เยอะ
ดังนั้น หวังว่าทาง BG จะทำรีมาสเตอร์ออกมาได้ดี ผมว่าคนเล่นแผ่นน่าจะดีใจ และน่าจะเสียงดีกว่าแผ่นเสียง original นะครับ
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:55:39 pm
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:50:35 pm
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:42:45 pm
Quote from: prisna on 05 August 2013, 11:36:40 pm
Quote from: pee on 05 August 2013, 10:14:01 pm
ปล ว้งพญ่ไทก็เหมาะ
ถ้าจะจัดที่วังพญาไท แนะนำให้จัดที่... พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ นะครับ
คุณเกล้า น่าจะพอรู้จักกับผู้ใหญ่ทางสายนี้อยู่แล้ว
ขอบคุณครับคุณ prisna ที่ผมเคยไปฟังพวกนักเรียนทุนพระพี่นาง ฯ เล่น concert ประจำปี ในพระที่นั่งนั้น 2-3 ครั้งครับ สวยงามแต้ ๆ
เด็ก ๆ อย่างผมไม่ค่อยรู้จักใครในนั้นหรอกครับ เท่าที่ทราบเขามีชมรมคนรักวัง คงติดต่อเข้าไปสอบถามดูได้
ถ้าจะจัดที่นี่จริง ผมจะช่วยประสานทาง อาจารย์หมอดำรงค์ ให้ครับ คุณหมอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ชมรมคนรักวัง ด้วยครับ
ขอบพระคุณเป็นการล่วงหน้าครับ
คุณหมอท่าน อาจจะพอคุ้น ๆ หน้าผมบ้างนะ....หวังว่า
ยินดีครับ
แหม... คุณเกล้าก็ถ่อมตัวไป :D
Quote from: Krairerk on 06 August 2013, 12:04:54 am
ผมเคยยืมแผ่นเสียง original ของรุ่นพี่ มาฟัง
บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบ sound ของแผ่นเสียง original เลย
พอฟังไฟล์ที่ได้จากรีลต้นฉบับ ผมว่าเสียงมันไม่เหมือนกับแผ่นเสียง original นะครับ มันดีกว่าอีก
นั่นคือเสียงจากรีลมาสเตอร์ ดีกว่าแผ่นเสียง original เยอะ
ดังนั้น หวังว่าทาง BG จะทำรีมาสเตอร์ออกมาได้ดี ผมว่าคนเล่นแผ่นน่าจะดีใจ และน่าจะเสียงดีกว่าแผ่นเสียง original นะครับ
:thumbup:
ขออนุญาตคุณหมอ โคทข้อความเหล่านี้ประกอบเอกสารแถลงข่าวเลยครับ
กูรูรับประกันขนาดนี้แล้ว หายห่วง
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
เครื่องหมาย ℗ นี้ น่าจะหมายถึงปีผลิตหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
โค้ทด้วย เชิญตัวจริงคุณหมอ ไปแถลงข่าวด้วย
แล้วให้พริตตี้สวย ๆ ประกบข้าง ดีกว่ามั้ยฮะ :)
พี่ควรจะ highlight คำว่า "หวังว่า BG จะรีมาสเตอร์ออกมาได้ดี" ด้วยนะครับ
เพราะในคลิปที่ทำใหม่ ผมก้อยังว่าเสียงร้องมันพีค เหมือน clip ไปเมื่ิเทียบกับเสียงอื่น ทำให้ฟังดูกร้านไป
จะให้ดี น่าให้คุณ phokha ช่วยคอมเมนต์น่าจะดีกว่านะครับ
ขออนุญาต นำฟามเห็นคุณหมอบอย จากเว็บเพื่อนบ้านมาแป่ะไว้ครับ
"เพิ่งจะได้ลองฟัง เอาทั้งสอง tracks มา ลงคอมพ์ server ที่ต่อเข้ากะเครื่องเสียงชุดที่บ้านแล้วเลยถือโอกาศฟังเทียบกะแผ่นปั้มแรกเสียด้วยเลย
ในแง่ของ tonal balance เสียง track ที่ยังไม่ได้แต่งอะไร ค่อนข้างใกล้เคียงกะ แผ่นเสียง เสียงถอยหลังเล็กๆหน่อย ฟังอู้ๆหน่อย เหมือนสมัยก่อน
ฟังวิทยุกระเป๋าหิ้วสมัยเด็กๆอะ เมื่อก่อนเคยฟังแผ่นนี้ผมว่าเสียงก็ไม่ได้ดีอะไรมากวันนี้ช่วยแผ่นสุดๆหน่อย analogue front end ราคาประมาณ เกือบสาม
เท่าของ digital front end ที่ใช้ฟังนะครับ ผมชอบ แผ๋นดำมากกว่า track ที่ยังไม่ได้แต่งหน่อย แต่ไม่ได้กินกันขาดลอยนะ แล้วเลือกหัว Ikeda Kai/FR66s ต่อเข้า Thoeress ที่ เสียงออกนุ่มนวลเนียนๆมากๆ มีเนื้อมีหนังหน่อย ช่วยเต็มที่เลย
โดยส่วนตัวผมกลับค่อยข้างชอบ track ที่ EQ มาแล้ว เสียงใหญ่มีเนื้อมีหนัง ไม่อู้ๆ อั้นๆ เหมือนแผ่นแรกเท่าไหร่ จริงๆก็ไม่รู้สึกว่าแผ่นแรกมันเชิง compressed เหมือแผ่นป๊อปบางอันสมัยนี้ แต่มัน อั้นๆยังไงบอกไม่ถูกอะ
เสียงคนร้องเด่นชัดขึ้นมาอีกพอควร เสียงforward ขึ้นมากว่าของเดิมอีกพอควร แต่ไม่แน่ใจเรื่อง reverb ที่เขาพูดถึงเท่าไหร่ ผมว่า ทั้ง track ที่ยีังไม่แก้กะ แผ่นเสียง มันมี decay ค่อนข้รางน้อยทั้งคู่ เทียบกะ พอแก้แล้วกลับมี decay มี reverb มากขึ้นกว่า แผ่นเสียงออกติด แห้งๆมากกว่า
แต่ผมไม่รู้สึกว่ามันจัดหรือพุ่งหรือกร้านอะไรเท่าไหร่นะครับ แต่คิดว่า เอา track ที่ แก้กะยังไม่แก้มาเทียบกะก็พอจะเดาออกว่าเทียบกะแผ่นเก่าจะเป็นยังไงนะครับ"
ฟังกับหูฟังอีกทีครับ เพื่อจับรายละเอียด
ตอนนี้กลับชอบอันทำใหม่ครับ ของเก่าเคาะโก๊ะดังไปจริงๆเมื่อเทียบกับเสียงอื่น
อันทำใหม่เกลี่ยได้ดีขึ้น
สรุปแล้วอันทำใหม่ แจ๋วครับ ลุยเลยพี่เกล้า
ขอบคุณครับคุณหมอ ลุยเลยตามนั้นครับ
หากได้แผ่น test pressing มาเมื่อใด จะรบกวนทั้งคุณหมอ เฮียเม้ง และเพื่อน ๆ พี่ ๆ ท่านอื่นช่วยกันฟังด้วยอีกทีครับ
มาลงชื่อไว้ก่อน
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/spd_2007022164519_b_zpsf56bfd8a.jpg)
ได้คุยกับอาจารย์โชติวัฒน์แล้วครับ พี่พี เรื่องตัวหนังสือ "พวงร้อย" อาจารย์ฯ เขาไม่ได้ออกแบบใหม่อะไรหรอกครับ เผอิญผมนำหนังสือหน้าปกตามรูปด้านบน ไปให้ไว้เป็นข้อมูลประกอบด้วย
แกดูผ่าน ๆ เห็นตัวมันใหญ่และคมดี เลยเอาไป scan มาทำงานต่อ โดยไม่ทราบว่า fonts อันที่อยู่บนปกหนังสือ มันไม่เหมือนกับอันบนปกแผ่นเสียงซะทีเดียวตรับ
ดีแล้วเชียวครับ ที่ช่วย ๆ กันทักมา ทีแรกผมเองไม่ได้สังเกตุ ก็ไม่รู้เหมือนกัน :P
Quote from: pee on 26 July 2013, 08:55:20 pm
(http://image.ohozaa.com/i/a5f/BLZQRU.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/7829_zps38519aef.jpg)
คนออกแบบนี่ คิดมากแบบคิดน้อย
แบบเดิม ตัวเท่ากันหมด พ พานก็จะกลายเป็นลูกเล่น
พอเปลี่ยนสเกล สาระที่มีก็เปลี่ยนตาม
W ก็มาแทนที่ พ พาน ในพลัน
เรื่องนี้เป็นวิกฤติทางรสนิยมครับ
กรรมเลย ปากหมานซะงั้นผม
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
:bowdown: :bowdown: :bowdown:
ฝากกราบขอโทษอาจารย์แกด้วยครับ
ไม่เป็นไรมังครับพี่พี ผมไม่ได้ไปตีมือ อ.โชติฯ ซักกะหน่อยครับ
แค่ e-mail ไปบอกแกว่า มิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย ดูแล้วชอบ font เก่ามากกว่า ขอให้ใช้เหมือนเดิมเปะ ๆ
แกก็ประมาณว่า อ้าว..ไม่เหมือนกันเหรอ เออ..จริงแหะ
คุณแม่ผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่าพอใช้ พ พานใหญ่ มันดูเหมือนภาษาฝรั่ง ที่มี capital letter
Quote from: klao on 07 August 2013, 07:12:40 am
ไม่เป็นไรมังครับพี่พี ผมไม่ได้ไปตีมือ อ.โชติฯ ซักกะหน่อยครับ
เข้าใจผิดไป ก็เป็นหน้าที่ต้องยอมรับผิดครับ
:wallbash:
รบกวนคุณเกล้าเรื่องขนาดตู้หน่อยครับ ตาม requirement ตู้จะลึก 30 ซม. ผมคิดว่าต้องเปลี่ยนเป็นภายใน 35 ซม. ภายนอกจะเป็น 40 ซม.ไหวมั๊ยครับ ไม่งั้นจะใส่ LP ไม่ได้
ตู้ใส่ LP และเอาไว้ใส่หนังสือเล่มใหญ่ ๆ ด้วย มีใบเดียวก็น่าจะพอครับ เอาไว้ด้านหลังห้อง approx. กว้าง/ยาว 160 x ลึก 40-45 (ด้านใน 35-38) x สูง 150++ cm. (ความสูง แล้วแต่ช่องไฟ สำหรับรูปที่จะอยู่ข้างบน) ให้มี shelves แข็งแรง ๆ สัก 3-4 ชั้น โดย clearance ชั้นละ 40-42 ซม. OK มั้ยครับพี่ ?
ส่วนอีก 2 ใบที่เหลือ ซึ่งจะวางผนังด้านข้าง เอาไว้ใส่หนังสือเล่มเล็กกับพวก BD, DVD, CD, SACD, ฯลฯ
หลังซ้าย: approx. 150-60 x 30 x 70 cm. (ความยาว แล้วแต่ช่องไฟ ระหว่างเสาใหม่ กับ LF Trap มุมห้อง) ให้มี 2 shelves โดย clearance ชั้นละ 30-32 ซม.
กลาง-ซ้าย: approx. 80-90 x 30 x 70 cm. (ความยาว แล้วแต่ช่องไฟ ระหว่างเสาใหม่ กับประตูเข้าห้อง) ให้มี 2 shelves โดย clearance ชั้นละ 30-32 ซม. เช่นกันครับ
เข้าใจแล้วครับ ผมจะเขียนแบบส่งให้ดูก่อนครับ
มีข่าวซึ่งไม่ใคร่จะดีนักครับ เกี่ยวกับความคืบหน้าในการทำ remaster พวงร้อย แต่ก็เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่ควรเปิดเผยข้อมูลให้ทราบกันไว้ ไม่ต้องปิดบังอะไร เพราะ project นี้ถือได้ว่า เป็นระดับประวัติศาสตร์ย่อย ๆ ของเพลงไทยเหมือนกัน
คือหลังจากที่เราไฟเขียวกับการแก้ไข noise ในเทปต้นฉบับ และ OK กับแนวทางการปรับ EQ ของ Bernie Grundman แล้ว ทางนู้นก็ได้เริ่มทำการตัด master lacquer ตั้งกะสองสัปดาห์ก่อน
แต่ว่าเขายังตัดให้ไม่ได้ครับ เพราะเทป master นั้นเกิดปัญหาที่เรียกว่า Sticky-Shed Syndrome ทำให้หัวอ่านติด ต้องทำความสะอาดไป 5 ครั้ง จนเขาต้องส่งเทปไป bake หรืออบไล่ความชื้นสะสมออก เพื่อให้เล่นกลับได้อย่างต่อเนื่องในกระบวนการตัด lacquer สำหรับแต่ละหน้าของแผ่นเสียง
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ น้า Bernie ก็เริ่มทำการ cut ให้อีกครั้ง แต่ก็มิวายเทปก็ยังติดอีก ขนาดที่ผู้ช่วยเขียนมาบอกว่า Bernie ไม่เคยประสบปัญหากับเทปถึงอย่างนี้มาก่อน เลยต้องตัดสินใจส่งเทปไปอบใหม่อีกรอบ และจะต้องทำ high-quality transfer ทีละเพลง (โอนไป ล้างหัวอ่านเทปไป หากจำเป็น) จาก master tape เดิมขนาด 7.5 ips ไปลงเทปขนาด 30 ips โดยใช้เครื่องอัด reel-to-reel พิเศษที่เขา custom made ขึ้นมาเอง เพื่อให้ยังคงคุณภาพของเสียงจาก master tape เดิมให้ได้มากที่สุดครับ
ยังดีอยู่ ที่เขาคาดว่าคงจะใช้ original master tapes ในการทำ digital masters (สำหรับ CD และ SACD) ใหม่ได้ เพราะไม่ต้องรันเทปต่อเนื่อง ทำทีละเพลงได้ครับ
เอาใจช่วยลุ้น..... ขอให้สำเร็จอย่างราบรื่นครับ
ผมคิดว่า ทางโน้นเขาแจ้งมาเพื่อจะบอกว่าโปรเจคนี้ไม่ใช่หมู ยากมากๆ ค่าทำงานนี้ไม่แพงเลย หรืออาจจะมีค่าใช้จ่าย Extra มาอีกระลอก แต่บอกให้รู้ตัวก่อน
ก็ยังโชคดีครับพี่ มีคนออกสตางค์ค่าทำงานของ BGM ให้ :)
ตอนแรกไม่เข้าใจวิธีการทำงานใน mastering studio ก็เลย งง ๆ ครับว่าทำไมต้องใช้เทปต้นฉบับ ในการคัด lacquer ด้วยหว่า
นึกว่าเขาจะใช้ข้อมูลเสียงจากเทป original เอามาแก้ไขและปรับ EQ สำหรับแต่ละเพลง เอามาลงในเทปม้วนใหม่ พอเสร็จครบทุกเพลง จึงค่อยเอาเทปฉบับที่ re-mastered แล้ว ไปรันต่อเนื่องในการตัดแผ่นต้นฉบับ และก็ใช้ทำงาน digital ด้วย
ก็เลยถามผู้ช่วย Bernie ไป อย่างนี้แสดงว่าน้าเค้า ต้องเล่นกลับเทปต้นฉบับ (ที่ซ่อมแซม และตัดต่อเทป-เรียงเพลงตาม LP ใหม่ตามที่ต้องการ) อย่างต่อเนื่อง แล้วให้สัญญาณผ่าน analogue console และปรับ EQ แบบ "on-the-fly" (คือน่าจะมี note เตรียมไว้แล้วล่วงหน้า ว่าเพลงนี้/ช่วงนี้ จะต้องปรับ EQ อย่างไร) แล้ว feed signals ที่ปรับแต่งแล้ว เข้า amps ที่ใช้คัท master lacquers โดยตรงเลยใช่มั้ย
เขาตอบกลับมาว่าใช่ครับ และต้องทำอย่างนี้อีกครั้ง ในการทำ digital masters ด้วย เพียงแต่ว่ากรณีนี้ เล่นเทปต้นฉบับแบบไม่ต้องต่อเนื่องก็ได้
เท่าที่อ่านมา ผมรู้สึกว่ามันถอดกางเกงผายลมชอบกล
น้องโภคาแวะมาก็อยากฟังความเห็นจากมืออาชีพหน่อย
ที่ผมงงก็คือ เขายืนยันว่าจะต้องใช้เทปต้นฉบับในการตัดแผ่น
ถ้าเทปมันดีก็จะไม่งง แต่เมื่อมันเสียหายก็ยังดันทุรังจะใช้ แถมบอกว่าต้องรันหมดม้วน แล้วทีดิจิกลับบอกว่าแยกท่อนได้ นอกจากนั้น เมื่อเราตกลงว่า ไฟล์ที่ผ่านการ EQ ใช้ได้ เขากลับจะต้องทำ EQ on the fly ใหม่ ซึ่งใครจะรับประกันได้ว่ามันจะเหมือนที่เราชอบ แถมการทำอย่างนั้นจะทำให้เทปจริงเสียหายได้หรือเปล่า
ผมมันเรียนมาทางอนุรักษ์มรดก เราต้องทำซ้ำมรดกนั้นเพื่อใช้ในการทดลอง ไม่ใช่เอามรดกจริงมาทดลองทำของปลอม ที่เราต้องทำคือ ทำความสะอาด เก็บรักษา และทำสำเนา จากนั้นก็ทำงานจากสำเนาที่ดีที่สุด"เท่านั้น"
ขอประทานโทษที่ออกความเห็นสวนทาง แต่ฟังแล้วมันผิดหลักการยังงัยชอบกล
ถ้าผมมีลายพระหัตถ์ ร.5 ของจริง ผมคงไม่นำของจริงนั้นมาทำบล๊อกแน่นอน มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วด้วย กรมศิลปากรเคยได้รับแบบสเก๊ตช์ของสมเด็จครูมาทำปกวารสาร ก็ทำมาตั้งหลายปี สุดท้ายแบบร่างของจริงก็หายหมด ....จะด้วยสาเหตุอะไรก็อย่าไปเอ่ยถึง
แต่ประเด็นก็คือ ไม่มีใครเอาของแท้มาทำงานอย่างที่เขาเล่ามาแน่ๆ ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยี่ก้าวหน้าขนาดนี้ การทำซ้ำให้ได้เท่าของเดิมเกิน 90% น่าจะทำได้ กลับไม่ทำ
เคสนี้ สรุปว่าในการตัดแผ่น จะรันต่อเนื่องจาก tape 30 ips ที่ flat transfered เป็น 2nd generation มาจากเทปต้นฉบับ 7.5 ips อีกทีครับพี่
สำหรับงาน recording สำคัญ ๆ อื่น ๆ ผมเข้าใจว่าเจ้าของงาน ก็มักจะให้วิ่งไป copy จากต้นฉบับมา หรือไม่ก็เอา safety copy ให้ยืมมาทำงาน
ผมเชื่อว่า Bernie เขาคง time-marked และมี note ในการปรับ EQ เตรียมไว้สำหรับทุกเพลง ค่อนข้างละเอียดพอ ที่จะทำงานแบบ real time อย่างนั้นได้อย่างคงเส้นคงวา
ขณะที่ feed สัญญาณที่ปรับ EQ แล้ว เข้าไปแอมป์ที่ใช้ตัด lacquer ก็จะต้องคงมีการรันสัญญาณ parallel เข้าเครื่องอัด ทำสำเนาเทปขนาด 15 ips ที่ "re-mastered" ไว้ด้วยเลย ซึ่งผมก็คิดว่าน่าจะถูกต้องแล้วมังครับ เพราะทั้งตัว master lacquers และเทป 15 ips ใหม่ที่ได้มานั้น ถือว่าได้รับสัญญาณตรงมา EQ console เลย ซึ่งได้รับ feed จากการเล่นกลับเทปต้นฉบับอีกที (ก็แล้วแต่ว่าเป็นฉบับแรกเลยหรือเปล่า กรณีเราถือได้ว่าผลงานที่ได้รับ จะเป็น 3rd gen กรณีทั่วไปที่รันจาก absolute original master ก็จะเป็น 2nd gen)
อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้เขียนถามไปเหมือนกันว่า ไอ้เทปใหญ่ 30 ips (2nd gen) นั้นที่ไม่ได้ทำ EQ น่ะ ขอมาเก็บไว้เป็น archive ด้วยได้ไหม :D
ต้องดูกันยาวๆ แบบชอต ต่อ ชอต กันเลย เพราะผมว่ามันแหม่งๆ แปลกๆ ยังไงบอกไม่ถูกครับ
รอพี่โภคา มาออกความเห็นด้วยคนครับ
เรื่องการรันเทปแบบต่อเนื่อง ผมคิดว่าต่อเนื่องสำหรับแต่ละ side เท่านั้นนะครับ เพราะ cutting lathe มันเป็นหัวเข็มที่วิ่งวนบนแผ่น lacquer
สำหรับ digital ทำไปหยุดไปได้ทีละเพลงครับ
ยังไงรอคุณโภคา มาให้ความรู้ด้วยครับ
Quote from: pee on 05 August 2013, 11:19:43 pm
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:04:39 pm
ผมอาจจะหาวิธีจดเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร เพื่อยื่ดอายุความคุ้มครองในเรื่องสิทธิ์ต่อไปได้ด้วย ;)
จดสิทธิบัตรคงไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนวัตกรรม
ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ เราต้องทำสัญญากับทางฝรั่ง เป็นการจ้างเหมา
วิธีนี้ กฏหมายไทยถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้ว่าจ้าง
แต่คุณเกล้าจะได้ลิขสิทธิ์เฉพาะการทำรีมาสเตอร์
ลิขสิทธิ์ส่วนที่เป็นแผ่นเสียง จะหมดไปใน 50 ปี ตามกฏหมายอีกเช่นกัน
Quote from: klao on 05 August 2013, 11:36:48 pm
ครับ ผมก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นแผ่น re-issue เมืองนอก หลาย ๆ อันมันมีเครื่องหมาย P ในวงกลมด้วยอ่ะครับ เลยกำลังถาม ๆ เพื่อนที่เป็นนักกฏหมาย IP อยู่ แต่เขายังไม่ว่างช่วยดูให้
"Recorded May 1962. ℗ 1963 The copyright in this sound recording is owned by EMI Records Limited. Licensed to Resonance Recordings Limited courtesy of EMI Records Limited. © 2011 Resonance Recording Limited."
"©℗ 1961 Impulse! Records. Manufactured and distributed by Original Recording Group, LLC, under license from Universal Music Enterprises"
"℗© 2010 Universal Music Enterprises, A Division of UMG Recordings Inc. Distributed by Original Recording Group, LLC."
"© 1956 Verve Records. ℗ 2010 Universal Music Enterprises, A Division of UMG Recordings Inc. Distributed by Original Recording Group, LLC."
"Distributed by Acoustic Sounds, Inc. Originally released in 1957 by Capitol Records, LLC. ℗ 1957 Capital Records, LLC. Original album art © 1957 Capital Records, LLC. ℗ & © 2010 EMI Music Special Markets. Additional design © Analogue Productions. Manufactured for Analogue Productions by EMI Music Special Markets."
เพิ่งได้ค้นเจอในเน็ทครับ ว่าเครื่องหมาย ℗ นี่ไม่ใช่ patent แต่เป็นการแสดงลิขสิทธ์ของงานบันทึกเสียง (phonograph) ครับ ส่วนเครื่องหมาย © เขาน่าจะ apply กับพวก liner notes และ cover arts เสียมากกว่า
http://inventors.about.com/od/copyrights/a/CopyrightNotice.htm
ผมเข้าใจว่า P หมายถึง Products คือเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ หมายความว่าจะลอกเลียนรูปแบบของเขาไม่ได้เลย (เนื้อวัสดุและการเซาะร่องไวนิ่ล ซอง ปก ชนิดกระดาษ การพับ งานออกแบบ....ฯลฯ)
ส่วน C นั้น ถูกต้องแล้วครับ คือลิขสิทธิ์วรรณกรรม
ที่ผมคุ้นเคยอย่างแผ่นดอยช์จะให้ลิขสิทธิ์นี้โดยระบุชื่อคนเขียน Text ไว้อย่างชัดเจน บางทีถึงกับระบุชื่อ 3 คน เพราะแผ่นของเขาใช้ภาษาเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศษ หรือเกินกว่านั้น
Quote from: klao on 24 August 2013, 06:19:00 pm
ก็เลยถามผู้ช่วย Bernie ไป อย่างนี้แสดงว่าน้าเค้า ต้องเล่นกลับเทปต้นฉบับ (ที่ซ่อมแซม และตัดต่อเทป-เรียงเพลงตาม LP ใหม่ตามที่ต้องการ) อย่างต่อเนื่อง แล้วให้สัญญาณผ่าน analogue console และปรับ EQ แบบ "on-the-fly"
เอาเทป
ต้นฉบับมาตัดต่อเทป-เรียงเพลงตาม LP ใหม่ตามที่ต้องการ :o :o :o
:filrt: ทำแบบนี้ก็เป็นการทำลายประวัติศาสตร์สิครับ
ปรับ EQ แบบ "on-the-fly" :sad2: อย่างกะฉายหนังกลางแปลงขายยาเลยนะ แต่ผมไม่รู้เรื่องหรอก รอคุณโภคามาเฉลยดีกว่า
tracks ที่อยู่บนเทป reel ต้นฉบับนั้น เรียงไม่ตรงกันกับ sequence ในแผ่น original issues ทั้งสองอัลบั้มเดิมอยู่แล้วครับ
ผมเลยจับมาเรียงลำดับใหม่สำหรับ 4 หน้า A, B, C, และ D โดยพยายามให้เวลารวมไม่เกิน side ละ 18 นาที ตามคำแนะนำของ RTI
http://www.recordtech.com/faq.htm#How much music can I get onto an LP?
และให้มันค่อนข้างจะ balance ระหว่างเพลงเร็ว/ช้า ร้องเดี่ยวหญิง/ชาย และเพลงคู่ ด้วยอ่ะครับ
นอกจากนั้น tracks ที่ต้องริปจาก original lp เพราะไม่มีบน master tape ก็จับมารวมกันไว้หน้าสุดท้ายครับผม
จะทำ sequence ให้เหมือนแผ่นเดิมทั้งหมดก็ได้ แต่เนื่องจาก sources ในการทำ master ต่างกัน เท่าที่เคย survey แล้วทั้งในที่นี้ และบอร์ดอื่น หลายคนกลัวคุณภาพเสียงจะโดดไปมา เลยสรุปว่าจับแยกไว้หน้านึงต่างหากครับ ทำให้ต้องเรียงใหม่ทั้งหมดอยู่ดี
สำหรับประวัติศาสตร์ เห็นบอกว่าถึงแม้จะอัดเสียงในช่วงเวลาเดียวกัน แต่แผ่นพวงร้อย ๒ ปกแดงเข้มนี่ ต้องรอว่าพอมีสตางค์จากการขายแผ่นชุดแรกปกเขียวได้เสียก่อน ถึงค่อยมีเงินไปลงทุนปั้มแผ่น 2 ชุดใหม่ครับ
BGM ทำงานเสร็จ ส่ง master lacquers ไปให้ RTI ตั้งกะอังคารที่แล้ว ๆ ครับ
รอลุ้นฟัง test pressing ละกันครับผม
ลุ้นด้วยใจระทึก
ขอให้งานราบรื่นนะครับน้าเกล้า
แอน แอ้น มาแล้ว ตู้ใส่ซีดี และแอลพี ฝีมือออกแบบท่านพี่หวังครับ (ยังไม่ได้แกะติ๊กเกอร์เบอร์ 5 บนแอร์เลย ฮิฮิ)
หุ้มเสาปูนที่ยื่นออกมาไม่เท่ากัน และเก็บงานสีแล้วเสร็จด้วยครับ :headphone:
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20131006_181720_zps44f4d0d9.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20131006_181751_zps21caac5d.jpg)
ด้านหน้าห้อง และก็ฝ้าตามสไตล์รีฟส์ออดิโอ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20131006_181624_zps983f4c82.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20131006_182026_zpsacb31f81.jpg)
ระบบไฟส่องสว่างยังปรับได้กว่านี้ป่าวครับ
ตอนนี้ดูแบนๆ อยู่
หรือเป็นเพราะเปิดทุกดวงหว่า.... :dizzy:
ห้องสวยครับ
ห้องสวยจังครับ :thumbup:
ห้องนี้ผมทึ่งตรงสายปลั๊กไฟนี่แหละ เบอร์ 10
ยังสงสัยอยู่ว่าเขาเอาเข้าตัวปลั๊กได้ยังไง ตัวทองแดงใหญ่กว่ารูที่ปลั๊กตั้งเยอะ :blink:
Quote from: pee on 07 October 2013, 08:59:36 am
ระบบไฟส่องสว่างยังปรับได้กว่านี้ป่าวครับ
ตอนนี้ดูแบนๆ อยู่
หรือเป็นเพราะเปิดทุกดวงหว่า.... :dizzy:
มีสวิทซ์ไฟแยกกันอยู่ห้าอันครับ เลือกเปิดได้ตามชอบ
ถ้าจะเอาบรรยากาศ ก็เปลี่ยนสวิทซ์ให้เป็นตัวหรี่ไฟได้ แต่ถ้าหูดีอาจจะได้ยินเสียงจี่
ห้องสวยมากครับ :thumbup:
ห้องงามแบบมีเอกลักษณ์มากครับคุณเกล้า
ผมว่ามีหนึ่งเดียวในโลกแน่ๆ
:)
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันชื่นชมครับ บ้านนี้ สถาปนิกเขาใส่หน้าต่าง + ประตูเยอะหน่อย ห้องฟังเลยออกมาแบบนี้ด้วยครับ
รอพี่หวังดูเรื่องม่าน/มู่ลี่ แบบรังผึ้งของนอก (hunter douglas duette honeycomb) ให้อยู่ ว่าแพงขนาดไหน ถ้าเว่อร์มากนักก็คงใช้ของในนี้ ผ้าหนา ๆ หน่อย กันเสียงซะท้อนของกระจกได้เหมือนกัล
เรื่องปลั๊กไฟ ระบบกราวนด์ และกล่อง breaker น่าจะเสร็จช่วงวันปิยะฯ แล้วย้ายเครื่องเสียงเข้าปลายเดือน ต.ค. ครับผม
Quote from: klao on 09 October 2013, 11:45:42 pm
รอพี่หวังดูเรื่องม่าน/มู่ลี่ แบบรังผึ้งของนอก (hunter douglas duette honeycomb) ให้อยู่ ว่าแพงขนาดไหน ถ้าเว่อร์มากนักก็คงใช้ของในนี้ ผ้าหนา ๆ หน่อย กันเสียงซะท้อนของกระจกได้เหมือนกัล
ขอก๊อปเรื่องนี้ด้วยคนครับคุณเกล้า พี่หวังช่วยเตือนผมด้วยเด้อ
Quote from: klao on 09 October 2013, 11:45:42 pm
เรื่องปลั๊กไฟ ระบบกราวนด์ และกล่อง breaker น่าจะเสร็จช่วงวันปิยะฯ แล้วย้ายเครื่องเสียงเข้าปลายเดือน ต.ค. ครับผม
ปีนี้ พวกเราไปลอยกระทงกันที่เขาใหญ่
ดีใหม...
555
ไปด้วยครับ
ลอยกระทง หรือ ฮันนีมูน
Quote from: dht_tubes on 11 October 2013, 05:19:15 am
ลอยกระทง หรือ ฮันนีมูน
Quote from: blackmore on 10 October 2013, 09:23:52 pm
ไปด้วยครับ
ยังไง ผู้ที่จะสละโสด ช่วย post ลงในส่วน members only เพื่อเตือนความจำสมาชิกที่เริ่มจะจำอะไรได้น้อยลงด้วยนะครับ
เพราะอ่านการ์ดแล้ว ลง calendar แล้ว ก็อาจหลงลืมกันได้จ่ะ thank you
Quote from: dht_tubes on 10 October 2013, 02:11:42 pm
Quote from: klao on 09 October 2013, 11:45:42 pm
รอพี่หวังดูเรื่องม่าน/มู่ลี่ แบบรังผึ้งของนอก (hunter douglas duette honeycomb) ให้อยู่ ว่าแพงขนาดไหน ถ้าเว่อร์มากนักก็คงใช้ของในนี้ ผ้าหนา ๆ หน่อย กันเสียงซะท้อนของกระจกได้เหมือนกัล
ขอก๊อปเรื่องนี้ด้วยคนครับคุณเกล้า พี่หวังช่วยเตือนผมด้วยเด้อ
เดี๋ยววันนี้ผมจะโทรคุยกับทางร้านว่าจะหาได้ยังไงครับ
ขอโทษอย่างแรง ลืมไปจริงๆ :bowdown:
Quote3/8 ขนาดรวงเล็ก ราคา 5812บาท.
3/4 ขนาดรวงใหญ่ ราคา7182บาท
ลดแล้ว15%ค่ะยังไม่รวมภาษี7%
เช็คของแล้วต้องสั่งนำเข้าประมาณ30วันค่ะ ขอบคุณค่ะกิ๊ฟ.
ราคาประมาณต่อชุด ผมบอกขนาดคร่าวๆไป 1*2.20 ม. ราคาจริงๆต้องให้เซลล์ไปวัดขนาดก่อนครับ
ขอบคุณครับพี่หวัง เดี๋ยวผมจะโทรนัดเซลส์ให้เข้าไปวัดขนาดจริง
ไม่ทราบว่าควรห้อยลงมาจากลายไม้ฉลุ (ที่มีกระจกประกบ) ด้านบนประตู หรือให้ม่านลงมาคลุมเฉพาะตัวบานประตูกระจกดีครับ
ประคูกระจกห้องผม 4 บาน ยังไงก็ไม่น่าจะไม่เกิน 5 หมื่นบาทเน๊าะครับ ??
ราคาเบาๆครับ :supergrin:
น่าจะติดเหนือไม้ฉลุครับ มีที่ว่างตรงนั้นพอดี และจะได้ควบคุมแสงได้ด้วย
มู่ลี่ตัวนี้ มีแบบเปิดจากข้างล่างขึ้นบนอย่างเดียว และแบบเปิดจากข้างล่างขึ้นบน-เปิดจากบนลงล่างก็ได้
แต่ราคาจะแพงกว่าครับ
คงจะเลื่อนกำหนดออกแผ่นเสียงชุดนี้ ไปถึงช่วงประมาณ เมษายน ปีหน้า 2557 แต่ถ้าหากผลิตได้มาเร็วกว่านั้น จะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ
สัปดาห์หน้าคงจะได้แผ่น test pressing มาลองฟังงานจาก analogue masters ของ Bernie และ stampers ของ RTI ดูครับ
ส่วน digital masters ผมได้ฟังเป็นตัวอย่าง 16/44 wav ทุกเพลง และได้อนุมัติผ่านไปแล้วครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Puangroy100-ResizedFront_zps3eda9a4d.png)
artwork ปกหน้าหลัง คงประมาณนี้ครับ
หวังว่าคงไม่ทิ้งกลิ่นอายจากปกแผ่น original issues จนเกินไปนักครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/Puangroy100-ResizedBack_zps15aeac8a.png)
artwork ดูดีมากๆๆๆๆๆๆๆ
ยินดีด้วยครับ
ปกสวยมาก ที่สุดแห่งปีเลย
Quote from: pee on 13 October 2013, 04:20:31 am
artwork ดูดีมากๆๆๆๆๆๆๆ
ยินดีด้วยครับ
Quote from: Krairerk on 13 October 2013, 04:29:58 am
ปกสวยมาก ที่สุดแห่งปีเลย
ขอบพระคุณครับ ความดีความชอบทั้งหมดอยู่ที่ อ.โชติฯ ผู้ออกแบบ และช่วย photoshop จนกระจกพวงร้อย ที่ผมถ่ายรูปมาแบบไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ ดูปิ๊ง ๆ ๆ
ท่านที่ปรึกษาใหญ่ กับพี่หมอเซียนแผ่นดำ บอกว่าสวยนี่ โล่งอกแล้วครับ :headphone:
Fonts คำว่าพวงร้อย ที่หน้าปก ของจริงจะพิมพ์ปั้มทอง เหมือนปกต้นฉบับนะครับ
สวยครับ
ปกสวยคลาสสิคจริงๆ :thumbup:
ไม่ใช่ปกสวยอย่างเดียว แต่เสียงดีมากด้วยครับ
ได้ test pressing กลับมาฟังที่บ้านแล้ว เสียงอิ่ม หนา สมจริงมาก เหมือนเข้าไปนั่งฟังอยู่ในห้องที่เขาบันทึกเสียงจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆครับสำหรับคนที่ต้องการชุดนี้
Quote from: Krairerk on 20 October 2013, 03:48:11 pm
ไม่ใช่ปกสวยอย่างเดียว แต่เสียงดีมากด้วยครับ
ได้ test pressing กลับมาฟังที่บ้านแล้ว เสียงอิ่ม หนา สมจริงมาก เหมือนเข้าไปนั่งฟังอยู่ในห้องที่เขาบันทึกเสียงจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆครับสำหรับคนที่ต้องการชุดนี้
:thumbup: :thumbup: :thumbup:
เอามาลองกับ "ภีษมะ๑" หน่อยเด่ะ
:bowdown:
รอเจ้าของนัดวันเปิดบ้าน :)
สงสัยจะต้องใช้เวลาเซ็ตแมกกี้+ไบรสตั้น อีกสักพักนึงมั๊ง :headphone:
Quote from: Krairerk on 20 October 2013, 03:48:11 pm
ไม่ใช่ปกสวยอย่างเดียว แต่เสียงดีมากด้วยครับ
ได้ test pressing กลับมาฟังที่บ้านแล้ว เสียงอิ่ม หนา สมจริงมาก เหมือนเข้าไปนั่งฟังอยู่ในห้องที่เขาบันทึกเสียงจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆครับสำหรับคนที่ต้องการชุดนี้
ว้ า ว :yahoo:
ชื่นใจแทนคุณklao กับคนที่รอคอยแผ่นนี้เลย
Quote from: Krairerk on 20 October 2013, 03:48:11 pm
ไม่ใช่ปกสวยอย่างเดียว แต่เสียงดีมากด้วยครับ
ได้ test pressing กลับมาฟังที่บ้านแล้ว เสียงอิ่ม หนา สมจริงมาก เหมือนเข้าไปนั่งฟังอยู่ในห้องที่เขาบันทึกเสียงจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆครับสำหรับคนที่ต้องการชุดนี้
พี่หมอมาคอนเฟิร์มแบบนี้ โอ้ว..........
น่าสนใจครับ น่าซื้อเก็บสะสม
Quote from: Krairerk on 20 October 2013, 03:48:11 pm
ไม่ใช่ปกสวยอย่างเดียว แต่เสียงดีมากด้วยครับ
ได้ test pressing กลับมาฟังที่บ้านแล้ว เสียงอิ่ม หนา สมจริงมาก เหมือนเข้าไปนั่งฟังอยู่ในห้องที่เขาบันทึกเสียงจริงๆ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่ๆครับสำหรับคนที่ต้องการชุดนี้
ดีใจที่พี่หมอชอบครับผม :headphone:
Quote from: sw on 20 October 2013, 04:48:37 pm
รอเจ้าของนัดวันเปิดบ้าน :)
สงสัยจะต้องใช้เวลาเซ็ตแมกกี้+ไบรสตั้น อีกสักพักนึงมั๊ง :headphone:
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/158360_zps263b3445.jpg)
ลำโพงกับแอมป์เสียงก็งั้น ๆ ครับ
แต่ห้องที่พี่หวังทำนั้น เสียงสุดยอด กลางคืนวัดดู แค่ 20 กว่า decibel เงียบดีจริง ๆ นี่ขนาดประตูไม้ ปิดก็ไม่ค่อยได้สนิทนัก
ขอเวลาจัดบ้าน กับให้ช่างมาทำงานเพิ่มอีกซักเดือนกว่า ๆ นะครับ ลอยกระทงนี้ คงต้อนรับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ไม่ทันครับผม
ห้องดูโล่งโปร่งดี ... แบบนี้นั่งฟังได้นานด้วยความชื่นใจ
ขอให้setเสร็จเร็วๆ จะรอฟังรีวิวครับ
Quote from: klao on 30 October 2013, 06:32:08 am
ลำโพงกับแอมป์เสียงก็งั้น ๆ ครับ
แต่ห้องที่พี่หวังทำนั้น เสียงสุดยอด กลางคืนวัดดู แค่ 20 กว่า decibel เงียบดีจริง ๆ นี่ขนาดประตูไม้ ปิดก็ไม่ค่อยได้สนิทนัก
เสียงงั้น ๆ คงยังไม่พ้นเบิร์นสิครับ รออีกสามเดือนก่อน ถ้าจะเปิดบ้านแนะนำภายในสามเดือนนี้นะครับ จะเอาภีษมะ๑ ติดรถไปด้วย ม่ายงั้นจะไม่มีคำแก้ตัว :clown:
ห้องเงียบดี แต่ตอนฟังเพลง เสียงเป็นไงบ้างครับ ถ้าจะปิดประตูให้สนิท ก็ใช้ซีลยางช่วย แต่ไม่ได้ทำให้เสียงดีขึ้นนะครับ เพราะแถวนั้นเงียบสนิทอยู่แล้ว ปิดประตูสนิทก็ช่วยกันเสียงออกเท่านั้นเอง
เครื่องเสียงเล็กไปถนัดตา ต้องอัพครับ
Quote from: blackmore on 30 October 2013, 08:34:08 pm
เครื่องเสียงเล็กไปถนัดตา ต้องอัพครับ
หมอนี่
ผมฟันธงว่ามาจากเว็บคนรวย
รอยปูเซง
-----รู้จักเล็กดีรสโตมั้ยเอ่ย
Quote from: trens on 31 October 2013, 06:24:28 am
-----รู้จักเล็กดีรสโตมั้ยเอ่ย
โอ้โห โฆษณานี้นานมากแล้วเลยนะครับพี่ :)
Quote from: pee on 31 October 2013, 02:31:02 am
Quote from: blackmore on 30 October 2013, 08:34:08 pm
เครื่องเสียงเล็กไปถนัดตา ต้องอัพครับ
หมอนี่
ผมฟันธงว่ามาจากเว็บคนรวย
รอยปูเซง
ไม่ใช่ .......
ผมว่าหมอนี่มาจากตลาดหลักทรัพย์มากกว่า
รอช้อนอย่างเดียว
Quote from: pee on 31 October 2013, 02:31:02 am
Quote from: blackmore on 30 October 2013, 08:34:08 pm
เครื่องเสียงเล็กไปถนัดตา ต้องอัพครับ
หมอนี่
ผมฟันธงว่ามาจากเว็บคนรวย
รอยปูเซง
ห้องระดับนี้มันต้อง
ลำโพงแบบท่านประธานแล้วครับ
ลำโพงไม่เล็กหรอก แต่ว่าทีวีเล็กไปหน่อย เทียบกับขนาดห้อง และระยะที่นั่งดู น่าจะต้องกว้างเต็มผนังปูนตรงกลางนั่นเลยล่ะ ถึงจะพอดี
เหนือทีวีกับใต้ทีวี ก็บิ้ลท์เป็นดิฟฟิวเซอร์ ข้างบนเก็บม่านบังจอติดรีโมท ตัดใจงดออกรอบสามเดือน เอากรีนฟีกะค่าติ้ปแคดดี้มาลงตรงนี้แทนก็เปอร์เฟ็คแล้ว :dribble:
อัพอารายอีกง่ะ ลำโพงนี้เพิ่งผ่อนเขาจบ ยังได้ฟังไม่กี่ชั่วโมงเอง ใจร้ายนะน้องเรา
ตอนนี้ ลำดับแรก หาเงินมาจ่ายหนี้พี่หวังค่าทำห้องก่อนครับ
นี่ยังจะมีค่าผ้าม่านอีกเกือบรอบบ้าน ตามมาติด ๆ ม่ายไหว ๆ :no:
Quote from: klao on 31 October 2013, 04:51:17 pm
อัพอารายอีกง่ะ ลำโพงนี้เพิ่งผ่อนเขาจบ ยังได้ฟังไม่กี่ชั่วโมงเอง ใจร้ายนะน้องเรา
ตอนนี้ ลำดับแรก หาเงินมาจ่ายหนี้พี่หวังค่าทำห้องก่อนครับ
นี่ยังจะมีค่าผ้าม่านอีกเกือบรอบบ้าน ตามมาติด ๆ ม่ายไหว ๆ :no:
ของผมจิ๊บจ๊อยส์อ่ะ ถูกกว่าลำโพงตั้งเยอะ
ค่าม่านไม่แพง เนี้ยบสวย รับรองครับ :D
Quote from: sw on 31 October 2013, 05:43:34 pm
:
ค่าม่านไม่แพง เนี้ยบสวย รับรองครับ :D
ม่านที่ไหนฮาฟพี่หวัง แนะนำมั่งจิ
Quote from: dht_tubes on 01 November 2013, 05:18:02 am
Quote from: sw on 31 October 2013, 05:43:34 pm
:
ค่าม่านไม่แพง เนี้ยบสวย รับรองครับ :D
ม่านที่ไหนฮาฟพี่หวัง แนะนำมั่งจิ
pm ไปแล้วครับ
ที่ว่าไม่แพง ผมล้อเล่นนะครับ ไม่แพงจะสวยเนี้ยบได้ยังไง :lol:
แจ้งข่าวครับ ว่าแผ่นเสียงชุด พวงร้อย ๑๐๐ ปี เคาะราคาขาย และเปิดรับจองแล้วนะครับ
ราคาชุดละ 5,000 บาท จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2557 หลังจากนั้นราคาหน้าร้านจะปรับเป็น 6,000 บาท โดยคาดว่าจะส่งมอบของได้ราว ๆ สิ้นเดือน เม.ย. 2557
หากสนใจ กรุณาติดต่อคุณศรี ที่ร้าน Image Music & Film 02-256-9578-79 & 084-361-2241
และคุณนก ร้าน BangkokHiFi 081-875-5888
ม่านแบบรังผึ้งระบบมูลี่ ติดตั้ง และรูดบัตรหนี้พลาสติก ไปเรียบโร้ยครับ
ม่านส่วนอื่นในบ้านของท่าน ผบ. เลยต้องรอไปอีกหน่อยก่องครับ อิอิ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/377364_zpse81f1d7e.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/789397883942_zps1c5d48f3.jpg)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/187753_zps5e8ad4b4.jpg)
ดูเหมือนชั้นวางทีวีจะมาจากคนละโลก
แต่อื่นๆ ดูดีมีสกุล
อิจฉาจัง
แบบว่า มีอะไรเหลือ ก็ใช้ไปก่อนครับพี่
หมดตรูด.... :P
Quote from: klao on 27 December 2013, 06:52:59 am
แบบว่า มีอะไรเหลือ ก็ใช้ไปก่อนครับพี่
หมดตรูด.... :P
ยืมของอาจารย์วิสุตามาใช้ก่อน
ไม้เก่าบ่มนาน
เสียงดีกว่า LP12 ถังวิสกี้แน่ๆ
ปล
ลิมลงรูป
:hb:
(http://i1020.photobucket.com/albums/af325/haikumj/art/17.jpg)
เห็นด้วยครับ เอาตู้โบราณของคุณแม่ สักตู้นึงมาวางทีวี เอาแบบตู้สูงนะครับ ก็จบสมบูรณ์เลย :)
ห้องฟังเพลงสวยมากครับ :cheer: :clap:
Quote from: wachara on 28 December 2013, 03:56:00 am
ห้องฟังเพลงสวยมากครับ :cheer: :clap:
ขอบคุณครับพี่ ต้องยกเครดิตให้พี่หวัง "SW" และทีมงานฮะ
Quote from: sw on 27 December 2013, 04:57:21 pm
เห็นด้วยครับ เอาตู้โบราณของคุณแม่ สักตู้นึงมาวางทีวี เอาแบบตู้สูงนะครับ ก็จบสมบูรณ์เลย :)
ซักพักใหญ่ ๆ จะมีลำโพง center มาอ่ะครับพี่
ตอนนี้รอให้ทาง MyeSound เขาช่วยออกแบบขาให้ออยู่ ว่าทำแบบให้พับเก็บหรือยืดหดความสูงได้มั้ย
ถ้า OK อาจเอาตัวนี้มาลองตั้ง tv ดูครับ เพราะเครื่อง Sony ที่เห็น ไม่ได้ต่อใช้งานอะไรครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/20131230_123350_zpsd5d62d61.jpg)
ทำไมไม่ให้ sw ออกแบบล่ะ
เจ๋งกว่าแน่นอน
Quote from: pee on 30 December 2013, 08:46:33 pm
ทำไมไม่ให้ sw ออกแบบล่ะ
เจ๋งกว่าแน่นอน
เออ..นั่นสิครับพี่ เห็นเป็นงานเหล็ก เลยลืมไปเลยฮะ
Quote from: klao on 30 December 2013, 07:24:30 pm
Quote from: wachara on 28 December 2013, 03:56:00 am
ห้องฟังเพลงสวยมากครับ :cheer: :clap:
ขอบคุณครับพี่ ต้องยกเครดิตให้พี่หวัง "SW" และทีมงานฮะ
ผมก็ทำไปตามแบบเขาล่ะครับ ที่ออกแบบเพิ่มเติมให้ก็คือเสากับตู้เท่านั้นเอง
โต๊ะฝังมุกตัวนี้ก็สวยนะครับ ที่จริงเฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็สวยทุกตัวเลย :)
Quote from: klao on 27 December 2013, 03:15:59 am
แจ้งข่าวครับ ว่าแผ่นเสียงชุด พวงร้อย ๑๐๐ ปี เคาะราคาขาย และเปิดรับจองแล้วนะครับ
ราคาชุดละ 5,000 บาท จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2557 หลังจากนั้นราคาหน้าร้านจะปรับเป็น 6,000 บาท โดยคาดว่าจะส่งมอบของได้ราว ๆ สิ้นเดือน เม.ย. 2557
หากสนใจ กรุณาติดต่อคุณศรี ที่ร้าน Image Music & Film 02-256-9578-79 & 084-361-2241
และคุณนก ร้าน BangkokHiFi 081-875-5888
เนื่องด้วย ร้านแผ่นเสียง ( Bangkok Hifi ) ถ.ประดิพัทธ์ และ ร้าน Image ( อัมรินทร์ พล่าซ่า) ได้เปิดรับจองแผ่นเสียง พวงร้อย ๑๐๐ ปี ซึ้งจะครบกำหนด รับจองราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สั่งจองและชำระล่วงหน้าราคา พิเศษคู่ละ 5,000 บาท จากราคา ปรกติ 6,000 บาท จะครบกำหนด ในวันที่ 31 ม.ค.57 นี้
แต่ยังมีลูกค้าอีกจำนวนมาก เรียกร้องให้ขยายวัน รับสั่งซื้อล่วง ไปอีกสักระยะดังนั้น ทางร้าน แผ่นเสียง และ ร้าน Image จะขยายวันเปิดรับสั่งซื้อล่วงหน้า ไปถึงวันที่ 15 ก.พ 57 นี้ จึงเรียนมาแจ้งให้ทราบครับ ขอบคุณครับ
รอช่างมาซ่อมบ้าน เรื่องกระจุ๊กกระจิ๊ก (หลัก ๆ ตอนนี้เหลือปัญหาน้ำเข้า น้ำรั่ว) มาเป็นเดือน ๆ ก็ยังไม่มา เลยยังจัดบ้านไม่เสร็จซะทีครับ
จึงคงต้องรออีกหน่อย กว่าจะได้เรียนเชิญมาฟังห้องเฮียหวังเราครับ
อาทิตย์หน้า คงจะได้ฤกษ์เอา TT เข้าบ้านแล้ว พร้อมแอมป์ Bryston ที่ซ่อมไว้ตั้งแต่ปีใหม่ (แต่ขนกลับมาเองไม่ไหว)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/304489_zps34b91daa.jpg)
ประจำการมาเป็นเดือนแล้ว แต่ยังไม่ค่อยได้เ่ล่นแผ่นดำมากนักครับ ไม่น่าจะเกิน 20 อัลบั้ม ...แต่ก็จะพอเริ่ม ๆ หาจุดเล็งของหัวเข็ม ว่ากะแค่ไหนยังไง จะปล่อยลงมาโดยไม่ไปโดนตัว ring clamp
ก่อนหน้านี้ มัวแต่ง่วนฟังเปรียบเทียบงาน ระหว่าง files เพลงต้นฉบับ (master) กับงานที่ Bernie Grundman ทำ EQd reference มาให้ approve
ก็ได้ความรู้ใหม่ ว่า files ต้นฉบับซึ่งเป็น 44.1K/24-Bit (.wav) ที่จะให้ส่งไปยัง mastering engineer นั้น ทางสตูดิโอ BGM กำชับมาว่า ให้ไปก๊อปมาจาก hard disk / computer เท่านั้น ห้ามใช้ files ที่ไปฝากไว้บน internet แล้ว download มาเด็ดขาด โดยพยายามอย่าไปก๊อบจาก files ที่ก๊อป ๆ กันมาหลายทีแล้วด้วย
Reference files ที่ BGM ปรับ EQ แล้วส่งมาให้ฟังนั้นแค่ 16-Bit แต่ก็ได้ความชัด สะอาด รายละเอียด dynamic และ ฯลฯ ดีกว่า master 24-bit ที่ผมมี ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นที่ฝีมือน้า Bernie
แต่อีกส่วนเล็ก ๆ อาจเป็นเพราะ master 24 bit ที่ผมมีนั้น ได้มาก่อนหน้า จากการที่เจ้าของเพลง เขาส่ง e-mail ทำเป็น link มาให้ download แต่ที่ส่งไปให้ ฺBernie ทำงานนั้น จะเอา thumb drive ไปขอก๊อปตรงจาก hard disk ของ mixing engineer ครับ
20 อัลบั้ม เริ่มต้น
ต่อไป คงต้องให้เฮียหวังต่อตู้เพิ่มครับ
เครื่องเสียงหนาแน่น มีพลังดีจัง ปัจจัยด้านบวกส่งเสริมระยะยาว ฟันธง..ให้ถือยาว และซื้อเพิ่มครับ :D
แมกกี้เลนแรงจริงๆ
เอาหูทองมาฟัง แล้วให้ทายราคา
http://www.youtube.com/watch?v=S0gsixfDc_U
เสียงเหลือเชื่อ ในราคาที่ไม่สามารถจะเชื่อได้ :ahha:
แมกกี้คงจะเป็นลำโพงยี่ห้อเดียวที่กล้าทำแบบนี้ :thumbup:
สงสารคนฟัง หน้าตาไม่มั่นใจเลย
แต่ผมฟังปุ๊บรู้เลย แม็กกี้แน่ๆ ... เพราะอยู่ในกระทู้ my maggie system อิๆๆๆ
พี่หวัง ได้กรุณาแวะมา และส่งทีมช่างให้มาช่วยเจาะแผ่นไม้ปาเก้ ซ่อนสายสัญญาณในห้องเรียบร้อยขึ้นครับ
ไปได้พรมวูลจาก IKEA ราคาย่อมเยาว์ มาลดเสียงสะท้อนซะหน่อยด้วยฮะ :headphone:
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/425818_zpsjzpvzylt.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/425818_zpsjzpvzylt.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/425825_zps4oqqtdht.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/425825_zps4oqqtdht.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/89c360c5-3e6d-417d-9b51-068a9579594a_zpss8kuhgpx.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/89c360c5-3e6d-417d-9b51-068a9579594a_zpss8kuhgpx.jpg.html)
ห้อง สวย สะอาดมากครับ
มีโครงการซ่อนแอมป์ใหมครับ
เสียดายห้องสวยๆ
ขอบคุณครับพี่ ๆ ...ต้องยกประโยชน์ให้พี่หวังเรา ทำห้องออกมาสวย
แอมป์ น่าจะพอย้ายไปซ่อนหลังลำโพงได้ครับพี่
แต่เวลาจะเปิด/ปิด สวิทช์หน้าแอมป์ จะลำไม่ไปหน่อยฮะ :P
ถ้าซ่อนหลีงลำโพงเราก็เอาแอมป์ขวาง ให้หน้าแอมป์สองข้างมองเห็นกัน
แต่ลากสายปรียาวหน่อย
เห็นพื้นไม้แล้วอิจฉา
:wallbash:
คงหมดสิทธิ์แล้วครับพี่ วางอวดแอมป์ไว้อย่างเดิมละกัน เพราะสายสัญญาณ ตัดมาพอดี้พอดีไปหน่อยครับ
พื้นไม้ เป็นปาร์เก้สักขนาดยาวนิดนึง ไม่ใช่ไม้พื้นแผ่นใหญ่จริงจัง คืองบไม่ถึงอะครับ
พี่สถาปนิก ไปได้พื้นเก่ามา เดิมน่าจะจากกระดานพื้นโรงเรียนประชาบาล อะไรประมาณนั้น :)
เหลือซ่อมสีฝ้านิดหน่อยที่น้ำแอร์รั่วเพราะหนูกัดสาย และก็หารูปมาแขวนซัก 5-6 รูป ก็น่าจะเสร็จ
ผ่านไปหลายปีดีดัก ยังไม่ทันได้เอาไมค์มาวัดเสียงแล้วส่งผลไปให้ Rives Audio ให้ซะที จนเขาปิดกิจการไปเรียบโร้ยแล้ว
แต่พี่หวังเอาแผ่น Pink Floyd มาเปิดเพลงนึง บอกว่าลำโพงเบสผู้ดีไป เปลี่ยนแผ่นอื่นดีฝ่า ..ฮ่า ๆ ๆ
Quote from: klao on 20 February 2015, 12:59:29 am
แต่พี่หวังเอาแผ่น Pink Floyd มาเปิดเพลงนึง บอกว่าลำโพงเบสผู้ดีไป เปลี่ยนแผ่นอื่นดีฝ่า ..ฮ่า ๆ ๆ
อย่าไปโทษลำโพงที่เป็นกลางแบบนี้เลยครับ
หาปรีสำรองอีกตัว เอาไว้ฟังเพลงอีกแนว ง่ายกว่า
ขอออกตัวก่อนครับ ผมไม่ได้ไปช่วยฟรีๆหรอกครับ ได้รับตังค์ไปให้ช่างครบ พร้อมของที่ระลึกที่อยากได้ แต่ยังเก็บตังค์ซื้อไม่ได้ซักที :worshippy:
ได้ฟังแผ่นพวงร้อย ๑๐๐ ปี กับเทิร์นวินเทจของคุณหมอ ต้องขอชมเชยผลงานของคุณเกล้าว่า มาถูกทางแล้ว ใช่ๆๆ ถูกต้องที่สุด :thumbup:
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/20150214_124614_zps24178b70.jpg)
Quote from: pee on 19 February 2015, 11:48:08 pm
มีโครงการซ่อนแอมป์ใหมครับ
เสียดายห้องสวยๆ
พี่พีล้อเล่นน่าาา :lol:
Quote from: pee on 20 February 2015, 01:17:59 am
Quote from: klao on 20 February 2015, 12:59:29 am
แต่พี่หวังเอาแผ่น Pink Floyd มาเปิดเพลงนึง บอกว่าลำโพงเบสผู้ดีไป เปลี่ยนแผ่นอื่นดีฝ่า ..ฮ่า ๆ ๆ
อย่าไปโทษลำโพงที่เป็นกลางแบบนี้เลยครับ
หาปรีสำรองอีกตัว เอาไว้ฟังเพลงอีกแนว ง่ายกว่า
อย่าเชื่อผมเลย หูผมไม่เป็นกลางมากกว่า 555 ผมชินกับชุดราคาถูกๆ ซึ่งเพลงร็อคก็เหมาะกับชุดราคาถูกอยู่แล้ว ที่ผมรีบขอเปลี่ยนแผ่นนั่นเพราะกลัวว่าลำโพงจะพังเพราะแผ่นของผมน่ะ :P
ชุดนี้เซ็ตอัพเพื่อฟังวงออเคสตร้า ซึ่งเสียงก็ออกมาสมบูรณ์ โอ่อ่าสมกับดนตรี กับราคาค่าเครื่องบวกค่าห้องแล้ว
ขนาดวงใหญ่โตสมจริง เหมือนยกวงมาเล่นในบ้าน รอคุณเกล้าจัดทริปไปฟังกันเองดีกว่า
Quote from: sw on 20 February 2015, 03:43:55 pm
ได้ฟังแผ่นพวงร้อย ๑๐๐ ปี กับเทิร์นวินเทจของคุณหมอ ต้องขอชมเชยผลงานของคุณเกล้าว่า มาถูกทางแล้ว ใช่ๆๆ ถูกต้องที่สุด :thumbup:
(http://i1108.photobucket.com/albums/h402/wang22/Etc/20150214_124614_zps24178b70.jpg)
ก็ไม่ค่อยแน่ใจนักครับพี่หวัง...เผอิญผมต้องมามีส่วนร่วมในการทำโครงการ re-issue แผ่นเสียงต่อเนื่องอีกหนึ่งชุด จึงได้เข้าไปรับรู้มุมมองต่าง ๆ ของนักเล่น/นักสะสมแผ่นเสียง และผู้ค้า ๆ ขาย ๆ ในวงการ
ข้อเท็จจริงก็คือ แผ่น re-issue เพลงไทยแพงกว่าแผ่น audiophile-reissue ของ ตปท. แล้วก็มีหลาย ๆ คนที่บ่นว่า พวกที่ทำออกมาขายนี่ ค้ากำไรเกินควร ข้ออ้างเรื่องค่าลิขสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นา ๆ ที่เอามาอ้างนั้นฟังไม่ขึ้น
แต่ที่รำคาญคือ พวกที่บ่น มันบ่นแบบ 2 มาตรฐาน คือผมทราบมาว่า พอค่ายไหน เอาแผ่น re-issue ไปประเคนขายให้นักเล่นพวกนั้นแบบ group buy หรือแบบอะไรก็แล้วแต่ ก็จะบ่นน้อย หรือชื่นชมชุดนั้น ๆ เป็นพิเศษครับ : )
Quote from: klao on 28 February 2015, 09:07:58 am
ข้อเท็จจริงก็คือ แผ่น re-issue เพลงไทยแพงกว่าแผ่น audiophile-reissue ของ ตปท. แล้วก็มีหลาย ๆ คนที่บ่นว่า พวกที่ทำออกมาขายนี่ ค้ากำไรเกินควร ข้ออ้างเรื่องค่าลิขสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นา ๆ ที่เอามาอ้างนั้นฟังไม่ขึ้น
แพงก็อย่าซื้อสิครับ นี่แผ่นเสียงไม่ใช่ข้าวสาร ก่อนซื้อก็บอกราคาอยู่แล้ว ไม่ได้หลอกให้แกะห่อแล้วค่อยบอกราคาสักหน่อย
ทีสายเส้นละแสนไม่เห็นบ่นล่ะ
Quoteทีสายเส้นละแสนไม่เห็นบ่นล่ะ
เป็นของเพิ่มบารมี ... ถ้าบ่น บารมีอาจลดลงได้ 555
Quote from: trens on 28 February 2015, 03:57:39 pm
Quoteทีสายเส้นละแสนไม่เห็นบ่นล่ะ
เป็นของเพิ่มบารมี ... ถ้าบ่น บารมีอาจลดลงได้ 555
:lol: :lol: :lol: :lol:
มาคิดๆ ดู พวกเล่นแผ่นดำพิมพ์นิยมนี่
พฤติกรรมเดียวกับพวกเซียนพระ
1 เชื่อเกจิ ไม่ค่อยมีใครเจออะไรได้ด้วยตัวเอง
2 ตามรอยไม่คิดชีวิต ไม่สนใจความเป็นตัวของตัวเอง
3 เพราะไม่คบคนอื่น เลยไม่มีเหยื่อนอกวง ต้องหาเหยื่อกับพวกกันเอง
4 เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งยอดปรารถนา พวกเขาโกงได้ เอาเปรียบได้ ถ้ามีโอกาส แล้วค่อยมาหาข้อแก้ตัวทีหลัง
คิกๆ แล้วก็น่าฉงฉาน
ขยับลำโพง กับที่นั่งไปมา หลังจากที่ย้ายเข้ามากว่าปีครึ่ง ก็คิดว่าน่าจะลงตัวที่จุดนี้ครับ
สัดส่วนห้องโดยประมาณ: 5.94 (W) x 8.53 (L). x 3.15/3.65 (H) m.
จัดลำโพงแบบ tweeters อยู่ขอบด้านใน และ toed-in ให้ขอบลำโพงด้านใน ห่างจากผนังด้านหน้าห้อง 1.75 m. และขอบด้านนอกห่าง 2.00 m. (ตัวลำโพงกว้างประมาณ 74 cm.)
แผง tweeters ของลำโพงสองข้าง ห่างกัน 2.9 m. (แผง midrange ห่างกันประมาณ 3.0 m.) โดยที่ ลำโพงอยู่ห่างจากผนังด้านข้าง 94 cm.
จากตำแหน่งที่นั่่ง ศรีษะจะห่างจาก plane ของลำโพงประมาณ 4.0 m. และจากกำแพงด้านหลังห้อง 2.6 m. ครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/475909_zpskg9dh358.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/475909_zpskg9dh358.jpg.html)
เซ็นเซอร์ความเห็นตัวเองครับ
O0 O0 O0
ผมอยากจะแนะนำให้ทาสีหรือปิดวอลเปเปอร์ลายผ้า ตรงผนังหลังทีวี ให้เป็นสีเดียวกับผ้าบุตรงมุมห้อง เสียงจะดีขึ้นอีกเยอะเลยนะครับ B)
ถ้าคุณเกล้าเชื่อผม ไปเยี่ยมคราวหน้าผมจะหิ้วสีไปทาให้ด้วย :)
555 ตามสบายเลยครับผม พี่ pee กันเอง ๆ
คงจะหารูปเขียนเหมาะ ๆ มาแขวนเหนือ tv ล่ะครับพี่ sw แต่ยังไม่ได้เลือกเลยครับ
คือจะบอกว่า แอมป์วางตรงนั้นดูไม่งาม
แต่พอเลื่อนขึ้นไป เจอว่าเคยบอกไว้แล้วอะครับ
ห้องสวยงาม มีรสนิยม
ไม่น่ามีอะไรวางไว้แบบนั้นเลย :wallbash:
เป็นพวกชอบโชว์ฮะพี่ 555
พอดีใช้สายลำโพงสั้น (1.5 m) ตามหลักโอ้ฟายล์ เลยต้องแป่ะแอมป์ไว้แถว ๆ ลำโพงครับผม
อ้อ
7-11
โชว์ห่วย แบบโมเดิ้น
:clown:
Quote from: klao on 15 May 2015, 06:50:13 pm
เป็นพวกชอบโชว์ฮะพี่ 555
พอดีใช้สายลำโพงสั้น (1.5 m) ตามหลักโอ้ฟายล์ เลยต้องแป่ะแอมป์ไว้แถว ๆ ลำโพงครับผม
เอาไว้หลังลำโพงเลยสิครับ โล่งขึ้นทันใด
สายสัญญาณก็สั้นไปอีก :lol:
Quote from: Karin Preeda on 15 May 2015, 10:50:38 pm
สายสัญญาณก็สั้นไปอีก :lol:
ใช้สาย xlr จิ
ไม่จำกัดความยาว
:clown:
แบบเฮียเม้ง
สายยาวพิเศษ เลยแพงกว่าเครื่อง
สายสัญญาณยาวพอครับ เป็นแบบ balance แล้ว และผมก็ใช้แบบเมตรละร้อยกว่าบาท :D
แต่ถ้าหมุนแอมป์ไว้หลังลำโพง ให้เปิด/ปิดสวิทช์หน้าแอมป์ง่าย สายไฟเส้นละหมื่น จะไม่ถึงเอาครับ 555
Quote from: klao on 16 May 2015, 10:19:59 pm
แต่ถ้าหมุนแอมป์ไว้หลังลำโพง ให้เปิด/ปิดสวิทช์หน้าแอมป์ง่าย สายไฟเส้นละหมื่น จะไม่ถึงเอาครับ 555
รักจะเป็นไฮเอนด์
ถึงกับต้องทำลายสุนทรียศาตร์กันเชียวหรือ
ฮือๆๆๆๆๆๆๆ
:'(
นี่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า
หู สำคัญกว่าตา....55555
ห้องสวยดีครับคุณเกล้า
เอาขาตั้งกับลำโพง center มาจัดให้เข้าที่ (แต่ยังไม่ได้ต่อ) แล้วก็แขวนรูป ตกแต่งห้องอีกนิดหน่อยครับ
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6726_zps4omp6qy6.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6726_zps4omp6qy6.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6724_zpsbhcg5ifs.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6724_zpsbhcg5ifs.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6722_zpsitnyqyn6.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6722_zpsitnyqyn6.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6727_zpsqwgv3zvg.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6727_zpsqwgv3zvg.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6721_zpsdhokx3t6.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6721_zpsdhokx3t6.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6720_zpsbtsvkbla.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6720_zpsbtsvkbla.jpg.html)
(http://i276.photobucket.com/albums/kk29/ksanasen/6718_zpsd02clxee.jpg) (http://s276.photobucket.com/user/ksanasen/media/6718_zpsd02clxee.jpg.html)
อยากขุดหลุมฝัง Bryston ...ฮา
ทำกล่องไม้ครอบได้ป่าว
เสียดายเพ้นท์ติ้งของอาจารย์อวบครับ
มันกวนสายตามวากกกก
:wacko:
Quote from: pee on 15 July 2016, 09:29:24 am
อยากขุดหลุมฝัง Bryston ...ฮา
ทำกล่องไม้ครอบได้ป่าว
เสียดายเพ้นท์ติ้งของอาจารย์อวบครับ
มันกวนสายตามวากกกก
:wacko:
555 เผอิญผมใช้ photoshop ม่ายเป็นครับพี่ ไม่งั้นจะลบให้นะ
ชอบทั้ง Paganini รูปไวโอลินสวยๆ แล้วก็งานปั้น (หรือหล่อหว่า เรียกไม่เป็น) มากครับ
:love3: คุณเกล้าจัดห้องได้สวยมากครับ :clap:
พี่พีไม่ชอบหน้าตา Bryston ส่วนผมไม่ชอบแผง absorber ที่ปะเป็นชิ้นๆบนผนัง แต่ทำไงได้ แบบฝรั่งเขามาอย่างนั้น ก็ต้องทำไปตามหน้าที่
ถ้าเป็นห้องผมเองก็จะติดรูปอย่างเดียวไม่เอาแผง absorber ผมรู้สึกขัดๆตั้งแต่เห็นแบบแล้ว แต่จะไม่ทำตามก็กลัวเสียมารยาท
รูปคุณพ่อมีเยอะ ทั้งสวยทั้งมีค่ามหาศาล เอามาโชว์ดีกว่า เก็บในห้องเก็บของทำไม อับชื้นเดี๋ยวก็เสียหมด
ถ้าคุณเกล้าเริ่มรู้สึกเบื่อกับการเป็น audiophile เมื่อไหร่ ผมขอเสนอแนะให้ติดรูปใหญ่ขึ้น เพิ่มรูปมากขึ้น ใหญ่บ้างเล็กบ้าง จัดจังหวะให้ลงตัวกับผนังห้องและตู้ที่วางอยู่ ห้องจะสวยขึ้นอีกมากๆ สมกับเป็นบ้านทายาทศิลปินใหญ่
ส่วนเรื่องเสียง แน่นอน มันต้องเปลี่ยนบ้าง แต่ก็ไม่เปลี่ยนมากนัก และอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้ เพราะว่าถ้ารูปเป็นผ้าใบก็ทำหน้าที่เป็น absorber ได้เหมือนกัน อาจจะซับเสียงได้น้อยกว่า แต่พื้นที่ที่ติดรูปเยอะกว่าพื้นที่แผงเดิมที่ติดอยู่ ผลรวมออกมาไม่เปลี่ยนเยอะหรอกครับ
-จริงตามเฮียหวังด้วยเลย แผงแอบซอฟเบอร์ มันบดบังรัศมีรูปภาพไปแบบเต็มๆ เลยครับ ภาพดูด้อยไปเลย
-เทิร์นเทเบิ้น นี่เล่นรุ่นใหญ่ เลยนะครับ ตัวแรกหรือเปล่า ของไรครับพี่
-รูปหล่อที่ตั้งโชว์ สวยดีจัง ราคาแพงมั๊ยเอ่ย
-ห้องนี้ น่าจะทำให้ใจสงบเวลาเข้ามาใช้งาน = เยี่ยมเลย
ห้องสวยครับ :love3: :love3:
ขอบพระคุณทุกท่านครับ
แผงซับเสียง คงไว้ตามนั้นก่อนครับพี่หวัง มันช่วยให้ผมแลดูเป็นโอฟายล์ดีฮะ :D
จริง ๆ ที่บ้านยังพอมีพื้นที่ผนัง ให้ติดรูปได้อีกซัก 15-20 รูปมังครับ (นอกเหนือจากที่ติดไปแล้วประมาณ 20) น่าจะเพียงพอ ไว้เวียนเปลี่ยนกับที่อยู่ในห้องเก็บของได้ครับ
Sculpture ชุดคนเล่นดนตรีนี้ ผมจำราคาไม่ได้ครับ กำลังเช็คให้อยู่ (เดาว่าน่าจะไม่เกินครึ่งแสน) เป็นงานของลูกศิษย์คุณพ่อผมเอง ลองเข้าไปดูรูปชัด ๆ ได้ที่นี่ก่อนนะครับ https://www.facebook.com/profile.php?id=100005559631002&sk=photos
Turntable ตัวนั้น VPI Classic 3 ครับผม
Quote from: vichien on 15 July 2016, 03:34:51 pm
-รูปหล่อที่ตั้งโชว์ สวยดีจัง ราคาแพงมั๊ยเอ่ย
ชิ้นละ 6 หมื่นบาทครับ (Violin / Flute) ใช้เวลาหล่อ 2 เดือนนะฮะ
ขอเรียนถามคุณ klao หรือใครก็ได้ที่เคยเล่นลำโพง Maggie หรือ Magnepan คือผมอยากเปลี่ยนลำโพงเป็น Magnepan 1.7i และได้ไปลองฟังดูแล้วเมื่อต้นปีนี้ ผมรู้สึกว่าเสียงเบสส์ของ Magnepan มันจะบอบบางไปนิดเมื่อเทียบกับเสียงเบสส์ของลำโพงแบบ box ยี่ห้ออื่น ๆ ทั่วไป มันเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะของ Magnepan รึเปล่าครับที่เสียงเบสส์จะต้องบาง ผมยังชอบฟังเพลงแนว pop, rock, progressive rock, hard rock เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ทราบว่าลำโพง Maggie ยังเหมาะที่จะฟังดนตรีแนวเหล่านี้หรือไม่ ขอบคุณครับ